สายตาของทุกคน จ้องมองไปที่เจียงเฉิง
ฟางเจี้ยนกั๋วมองไปยังเจียงเฉิง พบว่าเขายังสวมชุดผู้ป่วยอยู่ จึงถามด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า“คุณเป็นหมอหรอ?”
“เขาไม่ใช่ครับ เขาเป็นแค่บุรุษพยาบาลฝึกหัดในโรงพยาบาลเราเท่านั้น”หัวหน้าแผนกเฉินรีบตอบรับ
เดิมทีหัวหน้าแผนกเฉินอยากจะผลักภาระให้พ้นตัว เจียงเฉิงไอ้หมอนี่กลับเก็บภาระกลับมา ไม่ต้องพูดถึงว่าเจียงเฉิงเป็นแค่บุรุษพยาบาลคนหนึ่ง ไม่เข้าใจการรักษาด้วยซ้ำ ถึงแม้จะเข้าใจ แต่อาการของฟางหลันหลันในตอนนี้รักษาไม่ได้ด้วยซ้ำไป ถ้ารักษาไม่ได้ ความรับผิดชอบก็ต้องตกมาอยู่ที่โรงพยาบาลของตนเองนะสิ คณบดีจะต้องโทษที่ตนจัดการปัญหาไม่ได้อย่างแน่นอน
เมื่อฟางเจี้ยนกั๋วได้ยินแค่ว่าบุรุษพยาบาลฝึกหัด จึงไม่พูดอะไรอีก ความจริงแล้วก่อนหน้าที่เขาจะมาเขาได้คำนึงถึงอาการบาดเจ็บของลูกสาวหนักหนาสาหัส ดังนั้นในขณะเดียวกันเขาจึงติดต่อหมอเทวดาท่านหนึ่ง ให้ภรรยาของตนเองไปรับ เขาเป็นคณบดีแพทย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ปรมาจารย์เชวี่ย หรือที่รู้จักกันในชื่อเปียนเชวี่ยที่ยังมีชีวิตอยู่
เพียงแต่ปรมาจารย์เชวี่ยต้องใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ลูกสาวของตนอยู่ให้รอดต่ออีกหนึ่งชั่วโมง
“ประธานฟางครับ ชีวิตคนสำคัญดุจฟ้า ผมรับประกันจะทำให้ลูกสาวของคุณปลอดภัย”เจียงเฉิงกล่าวอย่างรีบร้อน
สวี่ฉิงมองไปที่เจียงเฉิงที่จะลงมือผ่าตัด จึงรีบดึงตัวเจียงเฉิงไว้ พลางพูดเสียงเบา“นายจะทำอะไรน่ะ?”
“ผมกำลังช่วยคนอยู่”เจียงเฉิงกล่าวอย่างจริงจัง
สวี่ฉิงรู้ว่าเจียงเฉิงเคยทำแค่งานของบุรุษพยาบาล พวกงานฝังเข็ม และยกเตียงผู้ป่วย ผ่านตัดใหญ่ขนาดนี้ ตนยังไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้ไหม เขากลับจะจัดการเอง ไม่รู้ว่าเจียงเฉิงเป็นบ้าอะไรอยู่
เดิมทีสวี่ฉิงวางแผนจะหยุดยั้งเจียงเฉิง แต่ในตอนที่เธอเห็นสายตาที่มั่นใจของเจียงเฉิง เธอก็รู้สึกว่าสายตาที่มั่นใจของเจียงเฉิงกระทบใจของตัวเอง ความมั่นใจนี้มันแข็งแกร่งมากกว่าสายตาในตอนที่เธอผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ทำการผ่าตัด นี่เป็นสิ่งที่คนมีความสามารถถึงจะมีความมั่นใจนี้
สวี่ฉิงกลืนคำพูดกลับไป เธอหันไปพยักหน้ากับเจียงเฉิง สุดท้ายครั้งนี้เธอก็เลือกที่จะเชื่อใจเจียงเฉิง
หวูห้าวผู้ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดของฟางหลันหลันมองไปที่เจียงเฉิงแวบหนึ่ง แล้วรีบพูดกับฟางเจี้ยนกั๋วว่า“ท่านประธานฟางครับ เขาอาจจะทำได้จริงๆก็ได้นะครับ ก่อนหน้านี้เขาดูอาการออกในทันที ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้หัวหน้าแผนกเส็งเคร็งนี่ขวางไว้ หลันหลันคงจะช่วยชีวิตได้ทันการณ์แล้ว”
“คุณ——”หัวหน้าแผนกเฉินอยากจะตอกกลับ แต่ก่อนหน้านี้เขาทำผิดพลาดจริงๆ ตอนนี้อยากจะอธิบายอะไรคงจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
ฟางเจี้ยนกั๋วมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยสายตาเรียบเฉย แล้วกล่าวด้วยเสียงเย็นเฉียบ“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แกถูกไล่ออกจากฟางหยวนกรุ๊ป และจะไม่ถูกเรียกใช้งานอีก”
เมื่อหวูห้าวได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบคุกเข่าขอร้องทันที“ประธานฟางครับ เรื่องนี้จะโทษผมไม่ได้นะครับ หลันหลันอยากซิ่งรถรถเอง……บ้านผมยังมีคนแก่ป่วยหนัก ผมจะเสียงานนี้ไปไม่ได้นะครับ……”
หวูห้าวยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกบอดี้การ์ดข้างกายของฟางเจี้ยนกั๋วลากตัวออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง