ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 63

เดิมทีเจียงหงเฟยกำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง แต่เห็นลูกสาวตัวเองลงมาจากรถสปอร์ตคนหนึ่ง แถมยังพูดคุยกับคนในรถราวกับรู้จักกันเป็นอย่างดี

เขาเป็นกังวลขึ้นมาในทันที เนื่องจากเจียงหงเฟยสองสามีภรรยาเคยได้ยินเรื่องที่คนรวยชอบเลี้ยงดูนักศึกษาสาวมาไม่น้อย พวกเขากังวลว่าลูกสาวของตัวเองจะเดินบนเส้นทางดังกล่าว จึงซักไซ้เจียงหลาย

“ใช่ ลูก ถ้าลูกไม่ได้มีความรัก ทำไมถึงลงมาจากรถดีๆ แบบนั้นได้? ลูกคงไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆ เพื่อเงินใช่ไหม?” สวีฟางพูดพร้อมกับมองเจียงหลายด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

เธอไม่อยากให้ลูกสาวไปเดินบนทางที่ผิดเพื่อเงิน แม้ว่าในตอนนี้ครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่สามารถทำให้ลูกสาวลำบากเพราะเหตุนี้ได้

“โอ๊ย พ่อ แม่ กำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!”

เจียงหลายเข้าใจความหมายที่พ่อแม่ของตัวเองพูด พวกเขาเห็นตัวเองลงมาจากรถหรู จึงคิดว่าตัวเองทำเรื่องที่น่าอับอาย

เจียงหลายพูดอย่างโกรธเคืองเล็กน้อยในทันที “ลูกสาวของพ่อกับแม่ดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ! จริงๆ เลย! ”

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของลูกสาว เจียงหงเฟยก็รีบพูดว่า “พ่อกับแม่ของลูกก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แค่เป็นห่วงลูก งั้นลูกก็บอกมาว่าถ้าคนที่ขับรถมาส่งลูก ไม่ใช่แฟนของลูกแล้วเป็นใคร?”

“หนูนับถือพ่อกับแม่จริงๆ เลย”เจียงหลายพูดอย่างจนปัญญา “นั่นเป็นเพื่อนร่วมงานของพี่ชายหนู เป็นคนที่หนูเคยบอกว่าช่วยสั่งสอนนักเลงคนนั้นให้หนู”

เมื่อเจียงหงเฟยกับสวีฟางได้ยิน พวกเขาก็มองหน้ากันและพูดว่า “อ้อ เขานั่นเอง ไอ้หนุ่มคนที่ชื่อเดียวกันแซ่เดียวกันกับพี่ชายของลูก? ”

เจียงหลายพยักหน้าและพูดว่า “ที่แท้พ่อกับแม่ก็รู้”

สวีฟางพูดว่า “ใช่ คราวก่อนเขาก็ช่วยพ่อกับแม่ไว้ เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง และแม่ก็รู้สึกว่าเขากับพี่ชายของลูกคล้ายกันมากจริงๆ ”

เจียงหลายลุกขึ้นและพูดว่า “ใช่ หนูเห็นเขาเป็นเหมือนพี่ชายของหนู และเขาก็เห็นหนูเป็นเหมือนน้องสาวเช่นกัน ดังนั้นพ่อกับแม่ไม่ต้องคิดมาก จริงๆ เลย! ”

เจียงหลายกลอกตาและกลับไปที่ห้องของตัวเอง

เจียงหงเฟยถอนหายใจและพูดกับสวีฟางว่า “ที่แท้ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ค่อนข้างรวย แถมยังขับรถดีๆ แบบนี้ แต่ทำไมเขาถึงดีกับครอบครัวของเราขนาดนี้? และยังดีกับเจียงหลายมาก?”

“คุณจะคิดมากขนาดนั้นไปทำไม ลูกก็บอกแล้วเป็นเพื่อนกับลูกชายของเรา” สวีฟางพูดว่า “รอให้มีเวลาแล้วค่อยให้เจียงหลายชวนเขามาทานข้าวที่บ้าน และถือโอกาสขอบคุณเขาด้วย”

เจียงหงเฟยพยักหน้า “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”

“ฉันอิ่มแล้ว” สวี่ฉิงดึงทิชชูออกมาหนึ่งแผ่นแล้วเช็ดปาก เธอกำลังจะลุกขึ้นและกลับไปที่ห้องนอน

“อืม ตอนที่ผมกลับมาพ่อกับแม่ก็หลับแล้ว ผมเลยไปต้มซุปให้คุณที่ห้องครัว ช่วยให้นอนหลับและบำรุงจิตใจ” เจียงเฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม

แน่นอนว่าซุปโสมนี้เป็นเสฺวียนเซินร้อยปีที่เจียงเฉิงซื้อมาในร้านขายยา เดิมทีสรรพคุณของเสฺวียนเซินเป็นหยิน แต่สามารถบำรุงหยินลดไฟได้ จึงเหมาะที่จะให้สวี่ฉิงกิน

ถ้าเจ้าของร้านขายยารู้ว่าเจียงเฉิงไม่ได้เอาโสมนี้ไปประมูล แต่เมื่อกลับถึงบ้านแล้วเอาหั่นเพื่อต้ม เขาจะต้องโกรธจนกระอักเลือดอย่างแน่นอน โสมนี่มีราคาหลายล้าน แต่เขากลับเอามาต้มแบบนี้?

สวี่ฉิงหยิบซุปโสมขึ้นมาดม กลิ่นไม่ค่อยดีนัก และเธอก็ไม่ค่อยอยากดื่ม

เมื่อเห็นแบบนี้ เจียงเฉิงก็รีบพูดว่า “ดื่มเถอะ ยาดีแม้มีรสขมแต่รักษาโรค”

“ฉันไม่ได้ป่วย” สวี่ฉิงพูดอย่างเย็นชา

เมื่อเห็นสวี่ฉิงเป็นแบบนี้ เจียงเฉิงก็ก้มหน้าลงและยิ้มเจื่อนๆ เขาเดินไปนั่งข้างๆ สวี่ฉิงและพูดว่า “คุณภรรยา ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธผู้ชาย เพราะคุณเคยถูกทำร้ายความรู้สึก ดังนั้นคุณจึงเป็นโรคที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้า”

“ภาวะซึมเศร้า?” สวี่ฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ใช่ แต่ถ้าคุณเชื่อผม ผมช่วยรักษาคุณให้หายได้” เจียงเฉิงพูดพร้อมกับมองไปที่สวี่ฉิงอย่างจริงจัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง