ได้ยินเสียงดังจากหน้าประตู แทนคุณไม่รอช้ารีบเดินออกมาดู แต่ก็เห็นแค่เลขาทั้งสองคนที่กำลังเก็บเศษแก้วกันอยู่
เขาก็เลยปิดประตูไว้ โชคดีที่เธอไม่ได้ยิน
"คุณอย่าลืมนะว่าสมัยนี้ไม่ต้องรอให้เด็กคลอดออกมาก็สามารถตรวจได้แล้วว่าเด็กเป็นลูกของใคร"
นาเดียเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็เชิดหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่า "ตรวจเลยสิคะ ทุกคนจะได้รู้ว่าใครคือตัวจริงของคุณกันแน่"
จังหวะนี้คนที่เงียบก็คือแทนคุณ ถ้านาเดียเป็นคนเจาะถุงยางอนามัยจริง เปอร์เซ็นต์ที่เด็กคนนี้จะเป็นลูกของเขาก็มีมาก
{"ฮัลโหลแม่คะ"}
{"มีอะไรเหรอลูก"}
{"ตอนนี้แม่อยู่ไหนคะ"}
{"กำลังจะออกไปสนามบิน"}
{"แม่ซื้อตั๋วให้อิงที่หนึ่งนะคะ เดี๋ยวอิงตามไป"} ว่าแล้วหญิงสาวก็ตัดสายโดยไม่รอให้แม่ถาม
มือเรียวหยิบเอาของที่เป็นของตัวเองจากในห้องทำงานแล้วก็เดินออกมา เธอไม่แม้แต่จะมองไปที่ห้องของเขา...
@สนามบินดอนเมือง
บ้านเกิดของพ่อน้ำอิงค่อนข้างไกล ถ้านั่งรถก็เกือบ 10 ชั่วโมงได้ ถ้าอยากย่นระยะเวลาก็ต้องนั่งเครื่องบิน แล้วไปลงจังหวัดใกล้ที่สุดที่มีสนามบิน ค่อยต่อรถโดยสาร
"มีอะไรกันหรือเปล่าลูก" เห็นหน้าลูกก็อดที่จะถามไม่ได้ เพราะตั้งแต่เมื่อเช้านี้แล้ว
"อิงเหนื่อยค่ะแม่ อิงอยากกลับไปบ้านเรา ได้ไหมคะ" มันคือคำพูดที่สามารถทำให้แม่ไม่ต้องถามต่อได้
"ได้สิจ๊ะ เรากลับบ้านกัน" ทำไมแม่จะดูไม่ออก ผู้หญิงถึงแม้จะเก่งในทุกเรื่อง แต่กับเรื่องความรักแล้ว..ไม่มีใครเอาชนะมันได้หรอก ยิ่งถ้าใครรักมากกว่ากันคนนั้นก็ยิ่งเจ็บกว่า..
[บริษัทเทพประทาน]
"ไปไหนนะ?" ตั้งแต่คุยกับนาเดียเสร็จ แทนคุณก็นั่งทำงาน และเคลียร์กับตำรวจเรื่องพงษ์พิบูลย์ พอใกล้เวลาเที่ยงเขาถึงได้เดินมาหาเธอเพื่อจะชวนออกไปทานข้าว แต่มาถึงก็เห็นแค่กุญแจรถของตัวเองที่เธอวางไว้บนโต๊ะ
"ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ออกไปได้สองชั่วโมงกว่าแล้วค่ะ"
ชายหนุ่มรีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหา แต่ก็ไม่มีสัญญาณ เขาโทรกลับไปที่บ้าน เพราะคิดว่าเธอกลับมาเพื่อส่งพ่อกับแม่หรือเปล่า ที่บ้านก็ไม่มีใครรู้คนที่ออกไปส่งคือคนขับรถ
แทนคุณพยายามโทรเข้าเครื่องเธอหลายต่อหลายครั้งก็ไม่มีสัญญาณ เขาโทรไปแม้กระทั่งไซต์งานสระบุรีเพื่อถามว่าเธอไปที่นั่นไหม แต่ก็ไม่มีใครเจอ
"ไปไหนของเธอ" จะว่าเธอยุ่งเรื่องคดีความของพงษ์พิบูลย์ก็คงไม่ใช่ เพราะเขาเป็นคนประสานงานกับตำรวจเอง
จนถึงเวลาใกล้เย็น.. เพราะขณะที่ตามหาเธออยู่เขาก็ต้องได้ทำงานไปด้วย ยิ่งตอนนี้บริษัทก็ยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่
[คฤหาสน์เทพประทาน]
"พ่อไม่รู้จริงเหรอครับว่าเธอไปไหน"
"แกสร้างเรื่องอะไรอีก พ่อบอกไว้ก่อนเลยนะ ชาตินี้แกจะหาผู้หญิงแบบหนูอิงไม่ได้อีกแล้ว"
"กลับมาเรื่องนี้ก่อนพ่อ เธอไม่ได้โทรมาหาพ่อเลยเหรอ" ไม่ใช่เวลาที่จะมาฟังพ่อบ่น เพราะตอนนี้เขากระวนกระวายใจมาก
"ไม่ได้โทร"
"พ่อโทรกลับไปที่บ้านของเธอให้ผมหน่อยสิ"
"โทรไปแล้ว โทรตั้งแต่ลงเครื่องกันแล้ว" พอได้ยินว่าลูกชายตามหาเมีย ทัตเทพก็โทรไปหาน้องสาว แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรจากน้องสาวเลย
"ไปไหนของเธอ.."
เขาก็เลยเดินออกมาหน้าบ้านเพื่อมองทางว่าเธอจะกลับมาตอนไหน
แม่มองดูลูกเขยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แค่เอาน้ำออกมาส่งให้เพื่อล้างปาก
พ่อของเธอที่ออกไปดูสวนแต่เช้ากลับมาก็เห็นรถลูกเขยจอดอยู่หน้าบ้าน
"กับข้าวเสร็จพอดีเลยค่ะพ่อ" หญิงสาวรีบยกอาหารออกมา เมื่อเห็นพ่อกลับมาทานข้าวเช้า พ่อทำแบบนี้ประจำไม่ค่อยห่อข้าวไปทานด้วย เพราะถ้ากลับมากินที่บ้านยังได้กินกับลูกกับเมีย
"สวัสดีครับคุณพ่อ" เขาหาโอกาสที่จะพูดกับเธออยู่ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสจนต้องได้มานั่งร่วมทานข้าวด้วยกัน
อึบ อึบ ขณะที่ทานข้าวก็เป็นพะอืดพะอม แต่พยายามกลั้นไว้
"ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องกิน เดี๋ยวแม่หากับข้าวใหม่มาให้"
"ทานได้ครับ" มือหนาเอื้อมไปตักไข่เจียวยอดชะอมมาใส่ปากแล้วเคี้ยว
พ่อกับแม่ทำได้แค่มองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร..จนทานข้าวเสร็จ
"เดี๋ยวอิงออกไปช่วยทำสวนค่ะพ่อ" น้ำอิงรีบเดินตามหลังพ่อไป เพราะไม่อยากจะเห็นหน้าเขา
"ผมไปด้วย"
"ถ้างั้นอิงไม่ไปแล้วค่ะ" หญิงสาวหยุดเมื่อเห็นเขาเดินตามหลังมา ..แต่เขานี่สิบอกว่าจะไปช่วยแล้วถ้าไม่ไปก็จะดูไม่ดี
จนถึงเวลาพลบค่ำ..ทั้งสองก็ได้กลับมา
"ฉันนึกว่าคุณจะมาทานข้าวเที่ยง ไม่หิวกันหรือไงไม่ขึ้นมาทานข้าวเที่ยงเลย" อิงนภาตำหนิสามีที่ไม่พาลูกเขยกลับมาทานข้าวเที่ยงก่อน
"ผลไม้ในสวนสุกหลายอย่างแล้ว" สามีเก็บผลไม้ที่ปลูกในสวนติดมือกลับมาด้วย อิงนภารู้ได้ในทันทีว่าสามีและลูกเขยคงจะกินผลไม้พวกนี้จนอิ่ม
มาถึงแทนคุณก็ไปอาบน้ำเพราะทั้งเหนื่อยและเหนียวตัว
แกร็ก~ อาบน้ำเสร็จเขาเข้ามาในห้องนอนก็เห็นเธอกำลังจะออกไป มือหนารีบคว้าตัวเธอไว้แล้วก็ปิดประตู..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักเมียแต่ง
มีจ่ออีกมั้ย ทำไมตัดจบแบบนี้...
ทำไมจบแบบนี้เนื้อเรื่องยังไม่จบเลยไม่มีต่อหรอคะ...
พี่น้องเอากันด้วยหรอขัดใจตรงนี้มาก...