สรุปเนื้อหา บทที่ 32 – คนเสเพล โดย ชะนีติดมันส์
บท บทที่ 32 ของ คนเสเพล ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชะนีติดมันส์ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
พอดินกลับมาถึงก็เห็นพ่ออยู่ที่บ้านแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าผู้เป็นพ่อไป
"จะไม่คุยอะไรกับพ่อหน่อยเหรอ"
"จะให้ผมคุยอะไร" เขาหยุดแต่ก็ไม่ได้หันกลับมา
"ตกลงเราจะเอาใครกันแน่ เห็นบอกมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ"
"พ่อไม่ต้องยุ่งเรื่องนั้น"
"รู้หรือยังล่ะ" ก่อนที่จะพูดกับลูกชาย ศักดิ์มองออกไปข้างนอกกลัวว่าภรรยาจะกลับมาก่อน เพราะตอนนี้ธิมาพรออกไปตลาดเย็นกับแม่ของทอรุ้งอยู่
"พ่อจะพูดอะไร" ชายหนุ่มหันกลับมามองหน้าพ่อแบบเต็มตา
"ผู้ชายก็มีบ้าง เหมือนลูกในตอนนี้ไง"
"พ่ออย่าเอาผมไปเปรียบกับพ่อมันคนละอย่างกัน" ยังไงเขาก็จะไม่ทำเหมือนพ่อ ที่มีผู้หญิงสองคนพร้อมกันในเวลาเดียว
ดินเปลี่ยนใจไม่อยากจะเข้าบ้านแล้ว เขาก็เลยออกมา
"ไปไหนมา" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นเธอขับรถกลับมาที่บ้านพอดี
"ไปทำงาน"
"พูดไม่เคยฟังกันเลยใช่ไหม บอกไม่ต้องไปทำงานแล้วไง"
หญิงสาวไม่เจรจาด้วย ลงจากรถได้เธอก็เดินเข้าบ้านโดยมีเขาเดินตามมา
"ออกไปเดี๋ยวนี้นะ" ทอรุ้งไม่คิดว่าเขาจะกล้าตามเข้ามาถึงในห้องนอนด้วย แต่ที่เขากล้าคงเพราะไม่เห็นพ่อและแม่อยู่บ้าน
"ตอนนี้ฉันมีงานทำแล้ว ฉันไม่อยากจะให้เธอขับมอเตอร์ไซค์มันอันตรายรู้ไหม"
"แต่ก่อนก็ไม่เห็นนายมาสนใจอะไรแบบนี้นี่"
"นั่นมันแต่ก่อนเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนกัน"
หญิงสาวขี้เกียจพูดด้วย ก็เลยเดินเอาของไปวางที่หน้าตู้กระจก
"ตายแล้ว"
"อะไรตาย" ดินรีบเดินเข้ามาถามแบบตกใจ
"ไม่ใช่เรื่องอะไรของนายหรอก" หญิงสาวจับแป้งขึ้นมา แล้วทาทับรอยตรงที่มันจาง
"จะทาไปให้ใครดูนักหนา" ว่าแล้วชายหนุ่มก็แย่งแป้งตลับที่เธอกำลังทาอยู่ออกจากมือ
"เอาคืนมานะ"
"ต่อไปนี้ไม่ต้องใช้ของพวกนี้แล้ว มันไม่เหมือนเธอหรอก"
"ไม่เหมือนหมายความว่ายังไง"
"ทาไปก็เปลืองเปล่าๆ ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงตรงไหนเลย"
"ฉันก็ไม่ได้จะแต่งไว้ให้นายมองนี่"
"ไม่แต่งให้กูมองแล้วมึงจะแต่งให้ใคร ไอ้กันต์น่ะเหรอ!"
"ถ้าทะเลาะกันเสร็จแล้วก็ออกมากินข้าวนะลูก"
พอมีเสียงระฆังดัง ทั้งสองถึงกับหันมองมาที่ประตูพร้อมกัน
"แม่" ทอรุ้งตกใจ เพราะนึกว่าพวกท่านยังไม่กลับ
"แบบนี้แหละฉันว่าหัวปีท้ายปีแน่เลย" ธิมาพรหันไปพูดกับเดือน ถ้าไม่พูดเบรคก่อน ทั้งสองคงจะยังทะเลาะกันอีกนานแน่
"น้าพูดอะไร" ทอรุ้งเริ่มอายขึ้นมา "นายออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"ไม่ออก คืนนี้จะนอนที่นี่"
"ไม่!" ทั้งสองพูดคุยกันเบาๆ เพราะไม่อยากจะให้แม่ได้ยินด้วย
"คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยให้งานนี้ราบรื่น" ทั้งสองนั่งรออยู่ในรถ เพราะเห็นว่าตอนนี้แขกที่มาร่วมงาน ต่างก็อยู่ในบ้านของเจ้าสาว คงกำลังจัดพิธีหมั้นหรือแต่งกันอยู่ ใจจริงหว่าหวาอยากเข้าไปพังให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถ้าทำแบบนั้นเธอจะกลายเป็นตัวร้ายขึ้นมาทันที
พอเสร็จพิธีจากด้านในทุกคนต่างก็ออกมาร่วมทานข้าวกัน ตรงพื้นที่ว่างเปล่ามีเต็นท์ได้จัดไว้สำหรับแขกที่มาช่วยงาน
"??" ดินรีบหันมองหน้าทอรุ้งเมื่อเห็นว่าเป็นรถของใครที่จอดอยู่ด้านนอก "เดี๋ยวเรามานะ" แขกคนอื่นอาจจะไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นของใครก็เลยไม่มีใครสนใจเท่าไร
"หวามาที่นี่ทำไม"
"พิธีหมั้นเหรอ..หรือพิธีแต่ง" หว่าหวาถามออกไปด้วยน้ำตาที่บังคับมันให้ไหลก่อนเขาจะเดินมาถึง
"พิธีแต่ง ถ้ารู้แล้วก็กลับไป"
"ฉันขอคุยกับเธอหน่อยสิ" หว่าหวาหันไปพูดกับเจ้าสาวที่ยืนมองมา
"หวาจะพูดอะไร" คนที่ถามขึ้นก็คือดิน
"ทำไมเหรอแค่ขอคุยกับผู้หญิงที่แย่งคนรักเราไป ไม่ได้เลยเหรอ"
ทอรุ้งได้ยินแบบนั้นก็เดินเข้ามา
"ฉันไม่รู้ว่าเธอทำยังไงถึงแย่งดินไปจากฉันได้ แต่ฉันก็ดีใจกับเธอนะ"
ทอรุ้งไม่พูดตอบโต้เธอแค่ยืนฟัง
"ฉันอยากจะบอกเธอว่า ดินคือผู้ชายที่ฉันรักมาก และฉันก็รู้ดีว่าดินรักฉันมากเหมือนกัน"
"หวา" ก่อนที่หว่าหวาจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น ดินได้ห้ามไว้ก่อน
"หวาไม่พูดก็ได้ค่ะดิน" หว่าหวาจับโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขึ้นมาเลื่อน เพราะเธอมีไม้เด็ดยิ่งกว่าคำพูดของเธอเอง
["เรื่องความรักของเรามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เราต้องรับผิดชอบผู้หญิงอีกคน"] มันเป็นเสียงที่ดินพูดไว้กับหว่าหวาในวันที่บอกเลิก ใช่แล้ววันนั้นหว่าหวาเตรียมการไว้เป็นอย่างดี
ดินไม่คิดว่าหว่าหวาจะมาไม้นี้ และเขาก็ทำอะไรมากไม่ได้ด้วย
"หวาตัดสินใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถ้าชาตินี้เรายังมีบุญร่วมกันอยู่ คงจะได้เจอหน้ากันอีกครั้งนะ หวายังรักดินเสมอ" สิ้นคำพูดหว่าหวาก็รีบกลับขึ้นรถพร้อมกับร้องไห้เสียงสะอึกสะอื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คนเสเพล