เพราะการอาละวาดของสุนันท์ทำให้ทรงผมมีสไตล์อย่างผู้ดียุ่งเหยิง กระเซอะกระเซิง เธอทั้งข่วนทั้งกระชากและถีบสิงหา จากนั้นก็ก้มหัวกัดข้อมือสิงหาเต็มแรง
เป็นการกัดที่ใช้แรงทั้งหมดที่มี กระทั่งมีเลือดคาวสดไหลเข้าสู่ปาก ทว่าสุนันท์ก็ยังคงไม่ยอมปล่อย
สิงหาสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสะบัดสุนันท์ทิ้งสุดกำลัง เมื่อเธอมีช่วงว่างก็รีบคว้าแก้วกระจกเขวี้ยงใส่ตัววินดา
คนหูตาว่องไวอย่างวินดารีบกระโดดลงจากเตียงคนไข้ ทว่าแก้วกระจกก็ยังคงกระทบกับผนังด้านหลังเตียงคนไข้อยู่ดี จนทำให้กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยแล้วสะท้อนกลับมาอย่างหลบเลี่ยงไม่ทัน บ้างก็บาดใส่หน้า บ้างก็บาดโดนข้อมือ เลือดสดซึมออกมาในบัดดล
หลังจากสิงหาเรียกคุณหมอเข้ามาก็ลากตัวสุนันท์ผู้บ้าคลั่งออกจากห้องผู้ป่วยอย่างไม่พูดไม่จา
เมื่อกลับถึงบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ก็เกิดศึกสงครามอันดุเดือดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าวของภายในบ้านระเกะระกะในชั่วพริบตา สิ่งที่สามารถโยนได้ ล้วนถูกโยนจนแตกละลาย สิงหาโดนปาของใส่ที่หน้าท้องด้วย ทำให้เจ็บปวดจนทรุดนั่งที่โซฟา รอยกัดบริเวณข้อมือนั้นช่างน่าสยดสยองยิ่ง
ขณะนี้สุนันท์ไม่ต่างจากคนบ้าเลย ทั้งร้องโหวกเหวกโวยวายอย่างไม่บันยะบันยัง เขวี้ยงของทุกอย่างที่ขวางหน้า คนรับใช้ต่างพากันประหวั่นพรั่นพรึง ไม่กล้าเข้าใกล้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สุนันท์ก็หมดแรงขว้างปาสิ่งของ ทรุดนั่งบนพื้นอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
“ในเมื่อถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว หลังจากผ่านช่วงนี้ไป พวกเราก็หย่ากันเถอะ” สิงหาเอ่ยปากพูดเช่นนี้
เมื่อครุ่นคิดดูดีๆก็สำนึกได้ว่าเขาติดค้างสุนันท์ไม่น้อย หากยังคงหลอกลวงต่อไปก็คงไร้คุณธรรมโดยสิ้นเชิงจริงๆแล้ว
“หย่าเหรอ? คุณจะหย่ากับฉันเพื่อผู้หญิงสารเลวคนนั้นงั้นเหรอ?” สุนันท์เงยหน้าขึ้นมาหัวเราะเสียงดังลั่น เมคอัพอันประณีตกลายเป็นขุย กล่าวแบบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “สิงหา คุณอย่าได้คิดเลย ฉันไม่มีทางให้คุณสมหวังหรอก ตลอดทั้งชาตินี้ก็อย่าหวังไปเลย!”
ถึงแม้จะตาย เธอก็ไม่ยอมเซ็นหย่าแน่นอน หากหย่าแล้วจะให้เขาไปอยู่คู่กับนังแพศยาหรอก?ไม่มีทาง
“พวกเราไม่มีความรู้สึกต่อกันแล้ว มัดตัวไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ควรหย่าแต่เนิ่นๆจะดีต่อทั้งสองฝ่าย”
ระหว่างที่พูด สิงหากุมหน้าทอ้งแล้วลุกขึ้น“คุณลองคิดดูดีๆ ถ้าคิดได้แล้วก็โทรหาผม ช่วงนี้ผมจะไปพักที่โรงแรมก่อน”
“ไสหัวไป คุณไสหัวไปเลย ยิ่งไกลยิ่งดี ไป” สุนันท์หายใจหอบ หยิบแจกันดอกไม้ข้างกายขึ้นไปแล้วโยนใส่แผ่นหลังอีกฝ่าย วินาทีนี้เธออยากฆ่าเขาเหลือเกิน
บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์เงียบงันทันที เธอนั่งหัวเราะด้วยน้ำตาที่พื้น ไม่รู้ว่าตกลงอยากจะร้องไห้หรือหัวเราะกันแน่
ผ่านไปเนิ่นนาน สุนันท์ก็ลุกขึ้น จากนั้นโทรออก“แกไปสืบประวัติทั้งหมดของสิงหากับวินดา ฉันจะเอาข้อมูลทั้งหมดเลยนะ”
……
เธออยู่ไม่เป็นสุข พวกเขาสองคนก็อย่าหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญเลย
ขอเพียงเธอจับจุดอ่อนของสิงหาได้ ถึงเวลานั้นเธอก็จะทำให้พวกเขาสองคนอยากตายเสียดีกว่าอยู่
วันนี้สิงหาโทรบอกเชอร์รีนให้ไปตรวจไขกระดูกที่โรงพยาบาล หลังทราบผลสองวันก็สามารถทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดได้แล้ว
เรื่องนี้ สิงหามีแผนในใจแล้ว ในเมื่อตอนนี้ตัดสินใจแล้วก็ควรปฏิบัติเลย จะได้ไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันอีก
เชอร์รีนรับปากว่าจะทำให้ และได้เน้นย้ำอีกรอบว่า หลังจากทำการปลูกถ่ายไขกระดูกแล้ว เธอกับวินดาจะต่างคนต่างอยู่
พอถึงเวลาช่วงบ่ายเธอก็เดินทางไปโรงพยาบาล และภาพที่เห็นคือ ทั้งสิงหาและวินดาต่างมีรอยแผลจากเศษกระจกบาดทั้งใบหน้าและแขน ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง