เวลานี้ เหมียวเหมียว ก็พูดแทรกขึ้นมา “พี่สะใภ้ไม่ยอมพาฉันไปเที่ยว เมืองsเหรอ?”
“เปล่าค่ะ การได้พาน้องสาวคนสวยไปเดินเที่ยวด้วย ถือเป็นความโชคดีของฉันเลยค่ะ” เธอแสดงอาการยิ้มอย่างเป็นมิตรมาก แต่เป็นรอยยิ้มอันเสแสร้ง
น้องสาวเหรอ?
เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณนายของตระกูลสิริไพบูรณ์งั้นเหรอ? น่าตลกชะมัด!
เหมียวเหมียวได้แต่แสยะยิ้มและหัวเราะเยาะอยู่ในใจ จากนั้นก็เดินออกไป
เชอร์รีนถอนสายตากลับแล้ว พลันช้อนตามองไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา พลันย่นคิ้วและพูดจายิ้มแย้ม “ที่แท้ก็เป็นพี่ออกัสที่แสนเอาอกเอาใจนี่เอง…”
เขาจ้องเธออยู่สักพัก จากนั้นก็คลี่ริมฝีปากออกมา “เรียกซะหวานชื่นใจขนาดนี้เลย เรียกอีกครั้งสิ คุณหญิงเชอร์รีน…”
“……”
วันตรู่วันรุ่งขึ้น
ตอนที่เชอร์รีนตื่นขึ้นมานั้น ก็รู้ว่าในห้องเหลือเธอแค่คนเดียว
หลังจากทำกิจวัตรยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันได้กินข้าวเช้า เหมียวเหมียวก็เดินเข้ามา และลากเธอจะไปเดินเที่ยวให้ได้
ต่อหน้าไกรวิทย์กับสุนันท์เลยไม่สามารถพูดปัดไปได้ ทำได้เพียงตอบตกลงอย่างฝืนกลั้น และหยิบเสื้อกันหนาวขนเป็ด และออกไปจากบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์พร้อมกับเหมียวเหมียว
ส่วนเหมียวเหมียวจงใจหาเรื่องให้เชอร์รีนต้องพลอยลำบากไปด้วย
ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอยังไม่ได้กินข้าวเช้า แต่กลับลากเธอไปเดินเที่ยวในร้านของแบรนด์เนมอย่างไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่แปดโมงเช้าเดินยาวจนถึง11โมงเช้า
เชอร์รีนท้องร้องด้วยความหิวอยู่ตลอด พร้อมทั้งอาศัยช่วงที่เหมียวเหมียวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปซื้อแฮมเบอร์เกอร์ในร้าน kfc ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เธอไม่สนใจด้วยซ้ำ กับการที่เธอยืนกินแฮมเบอร์เกอร์อยู่ในร้าน ส่วนพนักงานก็มองเธออยู่หลายครั้ง
แต่เหมียวเหมียวกลับรู้สึกขายหน้ามาก จากนั้นก็รีบเดินออกจากร้านแบรนด์เนมทันที ทำไมถึงมีผู้หญิงที่ไม่มีมารยาทขนาดนี้?
เชอร์รีนกินแฮมเบอร์เกอร์ไปเรื่อย ๆ กระทั่งยังสั่งบะหมี่ข้ามสะพานมาอีกจาน
เหมียวเหมียวได้แต่นั่งรออยู่ฝั่งตรงข้าม อย่างเบื่อหน่าย
อาหารเรียบง่ายและมีเสียงดังลั่นเช่นนี้ เธอโตป่านนี้แล้วนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามา นี่มันเป็นเพราะว่าอีคนชั้นต่ำอย่างแก่เป็นคนหยิบยื่นให้!
ถ้าไม่ใช่ว่าทำเพื่อทรมานเธอให้มากขึ้น เธอไม่มีวันจะเข้ามาเหยียบที่นี่แน่!
เส้นขนมจีนรสชาติเด็ดมาก น้ำซุปเข้มข้น สดใหม่ นัยน์ตาเชอร์รีนปะปนรอยยิ้ม พลันหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ขึ้นมา คือการโทรศัพท์ไปหานลิน
“ฉันเดินเที่ยวอยู่ในเขตพีรา แกจะมาไหม?”
“ได้ ฉันก็อยากจะซื้อเสื้อผ้าอีกหลายตัวอยู่พอดี เดี๋ยวแกรอสักพักนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย” จากนั้น นลินก็ตัดสายทิ้งทันที
เนื้อหาในสายเหมียวเหมียวก็ได้ยินเต็มสองรูหูแล้ว แต่เธอกลับไม่มีท่าทีในการจะถอยออก แต่กลับพูดว่า “พี่สะใภ้ ฉันสามารถไปเดินเที่ยวกับคุณและเพื่อนคุณด้วยได้ไหม”
มีเพื่อนแล้วจะยังไงเล่า เรื่องทำให้เธออาย จนทำให้เธอไม่สามารถลงแข่งภาคสนามไปเลยสิ!
เชอร์รีนยิ้มอย่างอ่อนโยนและเป็นมิตร “ได้สิ”
ความคิดเช่นนี้ของเหมียวเหมียว ความคิดความอ่านที่อยู่ในใจเธอนั้นย่อมรู้ดี
แต่ว่า เมื่อสิ้นเสียงลง โทรศัพท์ของเหมียวเหมียวก็ดังขึ้น เธอกดรับสาย จากนั้นก็แสดงความอ่อนโยนและแสนเชื่อฟังออกมา “คุณป้านันท์ ไปดูหนังกันที่โรงภาพยนตร์นิวเทาน์กันไหมคะ? อ๋อ ค่ะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
พลันใช้หางตากวาดตามองเชอร์รีนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไร้ความรู้สึก แต่เธอกลับจงใจพูดออกมา “พี่สะใภ้ก็อยู่ตรงด้านหน้าฉันพอดี คุณจะคุยกับเธอสักสามคำไหมคะ?ได้ค่ะ รู้แล้วค่ะ ฉันจะบอกเธอให้ค่ะ”
จากนั้นก็เอาโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋า เหมียวเหมียวมองเชอร์รีน แววตาแสดงอาการภาคภูมิใจออกมาเล็กน้อย
“คุณป้าให้ฉันไปดูหนังกับเธอแหละ เลยไปเดินเที่ยวกับพี่สะใภ้ไม่ได้แล้ว ยังมีอีก คุณป้าพูดว่าให้พี่สะใภ้ระมัดระวังตัวเองไว้มากๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง