ฉันทัชดึงเก้าอี้ให้เธอ มีความเป็นสุภาพบุรุษเป็นอย่างมาก หัวใจของยู่ยี่นั้นกลับเต้นแรง เธอกลัวว่าคนเหล่านั้นจะมองทั้งสองคนด้วยสายตาแปลกๆ
ยื่นมือออกมาเอาเส้นผมทัดหู เธอไม่กล้ามองเขา เพียงแต่ก้มหน้าลงแล้วกล่าวขอบคุณเขา : “ขอบคุณค่ะคุณฉันทัช”
“ไม่เป็นไรครับ”เสียงของฉันทัชทุ้มต่ำ เหลือบมองเธอด้วยความลึกซึ้ง ข้างๆของเขาก็เป็นพนักงานผู้หญิงในออฟฟิศอีกคนหนึ่ง เขาก็ยังคงรอบคอบช่วยเธอดึงออกมาให้
พนักงานผู้หญิงคนนั้นรู้สึกปลื้มปิติอย่างไม่คาดฝัน สีหน้าท่าทางตื่นเต้น แววตาที่มองฉันทัชนั้นมีแต่รูปหัวใจ : “ขอบคุณค่ะคุณฉันทัช”
เขายกริมฝีปากขึ้นแล้วส่งยิ้มบางๆอย่างมีมารยาทและอ่อนโยนให้ พนักงานผู้หญิงมีความเคลิบเคลิ้มหลงใหล เรนบีรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก เธอควรจะนั่งอยู่ตรงนั้น
“พอได้แล้ว คุณฉันทัชไม่ชอบคุณหรอก อย่าได้ฝันในสิ่งที่จะไม่มีทางเป็นจริงเลย”ผู้จัดการกดเสียงต่ำลง พนักงานหญิงที่นั่งอยู่พวกนี้กำลังฝันกันอยู่
เรนบีเหลือบมองไปยังผู้จัดการร่างท้วม แล้วก็มองไปยังฉันทัชที่สง่างามและอ่อนโยนอีกครั้ง เธออดที่จะรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้
เสื้อคลุมสีเทาที่อยู่บนร่างเขานั้นยาวมาก ยาวลงมาถึงเข่า และตอนที่นั่งลงนั้น ฉันทัชก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วยื่นส่งให้กับพนักงาน : “ขอบคุณครับ”
พนักงานรีบส่ายหน้า แล้วช่วยเขาเก็บไป
ด้านในมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำ แต่ตรงปกเสื้อและช่วงหัวไหล่กลับมีด้ายสีเงินแพร่กระจายอยู่ ไม่ดูจำเจ แสดงออกถึงความเรียบหรูดูดี
ผู้นำนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทุกคนไม่ได้ปลดปล่อยกันซักเท่าไหร่นัก ล้วนแต่มีความเก้ๆกังๆกันอยู่ อาหารเหล่านั้นที่สั่งอยู่บนโต๊ะล้วนแต่เป็นอาหารที่ยู่ยี่ชอบทาน เธอคีบตะเกียบ
ฉันทัชไม่ได้ทานอะไรนัก คืนนี้เขาเป็นตัวหลัก สายตาของทุกคน จุดโฟกัส และประเด็นการสนทนาล้วนอยู่ที่เขา เขาจิบไวน์เบาๆ สีหน้าท่าทางอ่อนโยน เอ่ยพูดบ้างเป็นครั้งเป็นคราว ไม่ได้ห่างเหินและก็ไม่ได้สนิทสนมจนเกินไป ไม่ให้คนรู้สึกถึงระยะห่างนี้
แล้วจู่ๆ ยู่ยี่ก็รู้สึกถึงมือซ้ายที่ร้อนๆขึ้นมา เธอก้มลงมองเล็กน้อย กลับเห็นว่ามือขวาของเขาจับมือซ้ายของเธออยู่ใต้โต๊ะด้วยความกล้า สิบนิ้วสอดประสานกัน
เธอหน้าแดง ใจเต้น การกระทำที่ดูมีความกล้าของเขานั้นเหนือความคาดหมายของเธอมากจริงๆ ขยับเล็กน้อยอยากจะดิ้น แต่กลับดิ้นไม่หลุด
ตรงที่นั่งกันอยู่รอบๆนั้นล้วนแต่เป็นพนักงานของบริษัท ยู่ยี่กลัวว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองที่มากเกินไปนั้นจะดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ ดังนั้นจึงล้มเลิกไป
มือซ้ายของฉันทัชถือแก้วไวน์ แล้วเขย่าแก้วเบาๆ ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้น จิบไวน์เล็กน้อย แล้วพูดคุยกับประธาน
ยู่ยี่แสร้งทำเป็นนิ่ง แต่ใบหูนั้นกลับรู้สึกร้อนผ่าวมาก มือซ้ายที่เขาจับอยู่รู้สึกชาไร้เรี่ยวแรง มือของทั้งสองคนที่แอบจับกันอยู่นั้นวางอยู่บนขาแข็งแรงของเขา นิ้วมือหยาบและอบอุ่นเล่นมือของเธออย่างต่อเนื่องและแนบชิด
ฉันทัชดื่มไวน์ไปสี่แก้ว แต่กลับไม่ได้ทานอาหารเลย เธอถูกปล่อยมือ ยู่ยี่รู้สึกงุนงง และเห็นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกางเกงสูทของเขา
เปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ปลายนิ้วของเขาจิ้มอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ สีหน้าท่าทางอ่อนโยน และมุมปากปรากฏรอยยิ้มขึ้น ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่ ดูแล้วอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
สายตาของทุกคนนั้นจ้องมองอยู่ที่ร่างของเขา พอเขายิ้มก็ทำให้พนักงานหญิงหลายๆคนใจละลายตามไปด้วย แล้วซักพักหนึ่ง เขาก็เอาโทรศัพท์มือถือใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง และไม่ได้แตะไวน์อีกเลย
ผู้จัดการเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อ : “แฟนของคุณฉันทัชไม่ให้คุณดื่มแล้วหรือเปล่าครับ? นี่คุณถึงไม่ดื่มเลย....”
ฉันทัชไม่ได้ปฏิเสธแล้วก็ไม่ได้ยอมรับด้วยเช่นกัน เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มีความอ่อนโยนที่เกือบจะพูดไม่ออก : “เมื่อครู่ลงมาจากงานเลี้ยง ดื่มไปไม่น้อยเลยครับ ผู้หญิง ก็จะสนใจมากหน่อย.....”
ตอนที่เขาพูดออกมานั้น ก็มักจะเว้นวรรคไปบ้าง แล้วก็จะพูดช้าลงบ้าง ได้ยินแล้วทำให้รู้สึกใจเต้น
ท่าทางแบบนี้ดูคลุมเครือ แต่กลับเป็นการยอมรับทางอ้อมว่ามีแฟนแล้ว ยู่ยี่ไม่ได้เอ่ยพูดออกมา สายตาของเธอมองต่ำลง และทานซุปอยู่ตลอด
“ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่เห็นสีหน้าท่าทางของคุณฉันทัชแล้วกลับดูเหมือนจะชอบมากเลยนะครับ ดูแล้วได้รับความพอใจมากเลยนะครับ!”
“คุณฉันทัชโชคดีมากจริงๆ!”
“ใครได้มาเป็นแฟนของคุณฉันทัชต้องมีความสุขมากจริงๆ!”
“แฟนของคุณฉันทัชจะต้องสวยมากแน่ๆ และมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดีมากด้วย!”
เขายิ้ม แต่ไม่ตอบ ฟังคำพูดของทุกคน แล้วยู่ยี่ก็รู้สึกถึงแรงสั่น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เป็นข้อความฉบับหนึ่ง เธอกดเปิด 【หาข้ออ้างออกไปจากที่นี่ แล้วรอผมตรงมุมทางเลี้ยวของโรงแรม】
คนที่ส่งข้อความมานั้นก็คือผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยู่ยี่ใจเต้นเร็วขึ้น แต่กลับอยากจะหัวเราะออกมา ผู้ชายอย่างเขาก็โกหกเป็นเหมือนกัน?
ทุกคนกำลังทานอาหาร เธอเองก็ไม่มีข้ออ้างที่จะกลับออกไป รอจนทานอาหารกันไปประมาณนึงแล้ว ยู่ยี่ก็หยิบกระเป๋าขึ้นมา เหลือบมองทุกคน แล้วออกไป
ตอนที่เดินออกมาจากโรงแรม เธอส่งข้อความหาผู้จัดการ บอกว่าประจำเดือนมาก่อนกำหนด รู้สึกปวดท้องและไม่สบายท้องมาก จึงต้องออกมาก่อน
ส่งข้อความเสร็จแล้ว ยู่ยี่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องฟังคำพูดของเขาด้วย ยืนอยู่ตรงทางเลี้ยว และยิ่งไม่รู้ทำไม ถึงได้มีความรู้สึกว่าเป็นขโมยแบบนี้
ผู้จัดการทิ้งข้อความเอาไว้ เห็นยู่ยี่ออกไปแล้ว สายตาของเขาก็มองมาที่ฉันทัช ดูว่าเขาจะเคลื่อนไหวเมื่อไหร่
ฉันทัชกลับนั่งอยู่ไม่ขยับ ยิ้มอย่างเงียบๆ ผู้จัดการนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง เห็นยู่ยี่เดินไปตรงมุมเลี้ยวอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นสิบนาที ฉันทัชก็ลุกขึ้น มองดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วยื่นมือออกมารับเสื้อคลุมสีเทาจากพนักงาน แล้วเอ่ยขอโทษ : “ยังมีเอกสารที่จะต้องจัดการอีก เลยต้องขอตัวก่อนนะครับ วันหลัง ผมเป็นเจ้ามือเอง เชิญทุกคนมาร่วมโต๊ะด้วยกัน รถที่จะพากลับไปจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หวังว่าทุกคนจะทานอาหารกันอย่างมีความสุข และกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยนะครับ”
ทุกคนกำลังพูดว่าไม่เป็นไร เขาเอ่ยขอโทษนิ่งๆ จัดแจงคอเสื้อ แล้วเดินออกไปท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองตามไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง