ยู่ยี่กลืนไข่ที่อยู่ในปากลงไป : “ตื่นแล้วค่ะ กำลังเตรียมตัวไปบริษัท”
“ผมรอคุณอยู่ข้างล่างคอนโดนะครับ ไม่ต้องรีบ ค่อยๆมา”เสียงของฉันทัชอ่อนโยนมาก
แต่ยู่ยี่กลับเบิกตาขึ้น ถึงข้างล่างตึกแล้วอย่างนั้นหรือ?
เธอยังไม่ทันได้ดื่มนม หยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วก็ออกไปจากคอนโด
รถคันสีบรอนด์จอดอยู่ใต้ตึก ยู่ยี่เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง ดวงตาของชายหนุ่มมีความอ่อนโยน : “ไปทานอาหารเช้ากันไหมครับ?”
“ฉันทานไข่ทอดมาแล้วค่ะ”เธอเช็ดมุมปากตอนที่ออกมาเมื่อครู่นี้
ดวงตาที่ลึกซึ้งของฉันทัชเหลือบมองแก้มของเธอ : “คุณยังต้องการน้ำเต้าหู้หรือนมอีก....”
ยู่ยี่คิดว่ามุมปากของตัวเองมีอะไรติดอยู่ จึงเช็ดด้วยใบหน้าแดงๆอีกครั้ง มองตรงที่เขามอง ไม่มีอะไรนี่นา?
ฉันทัชยิ้ม แล้วสตาร์ทรถขับตรงไปยังร้านอาหารเช้า
เขาสั่งมาไม่น้อย ส่งให้เธอก็คือข้าวต้ม และยังมีนมอีกด้วย ยู่ยี่ทานไม่ลงแล้ว มือใหญ่ของฉันทัชเคาะลงที่แก้วเบาๆ : “ปริมาณไม่เยอะ ทานได้อยู่แล้วครับ.....”
ยู่ยี่ขมวดคิ้วแต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่น แล้วดื่มนมในแก้วจนหมด และแม้แต่ข้าวต้มก็ทานหมดด้วยเช่นกัน
ฉันทัชทานข้าวต้มไปหนึ่งถ้วย ขนมปัง แล้วดื่มกาแฟด้วยท่าทางที่สง่างาม
ทานอาหารเช้าแล้วนั้น ก็เกือบจะถึงเวลาเข้างานแล้ว เธอให้เขาไปส่งเธอตรงหัวมุมของบริษัท
ฉันทัชจ้องมองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยน ไม่ได้เอ่ยพูดออกมา และตอนที่เธอลงจากรถ เขาก็ส่งผลไม้ถุงหนึ่งให้เธอ ล้วนแต่สดใหม่ทั้งสิ้น : “เลิกงานแล้วอย่าลืมโทรหาผมนะครับ....”
ยู่ยี่ตอบรับ เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมากจริงๆ ทุกๆเรื่องคิดได้อย่างรอบคอบขนาดนี้
เดินเข้าในออฟฟิศ หัวใจของยู่ยี่ยังคงกำลังเต้นแรงอยู่ เธอยืนขึ้นแล้วมองลงไปทางด้านล่างผ่านหน้าต่าง
มองจากมุมนี้เห็นรถของเขาได้พอดี มองดูเขาค่อยๆขับรถออกไป
เรนบีจ้องมองดูการเคลื่อนไหว้ของเธอด้วยความสงสัย หลังจากที่ยู่ยี่สังเกตเห็นแล้ว จึงยิ้มออกมาเล็กน้อย : “อยากจะยืดเส้นยืดสายหน่อยไหมคะ?”
ได้ยินแล้ว ก็ส่งเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เรนบีไม่ได้สนใจเธอ
ยู่ยี่หัวเราะเบาๆ แล้วก็ไม่ได้สนใจเธออีก เธอนั่งแล้วแล้วหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมา กรอบและหวาน
รสชาติหวานกรอบนั้นดูเหมือนกับจะหวานเข้าในถึงส่วนลึกในหัวใจของเธอ ส่วนที่เหลือนั้นเธอวางอยู่ในลิ้นชัก
ในเมื่อได้งานมาอยู่ในมือแล้ว เช่นนั้นต่อไปก็จะเป็นการเตรียมงาน
อย่างที่เขาพูดไว้ไม่ผิด ผู้จัดการไม่วางใจในความสามารถของเธอจริงๆ มีการโยกย้ายนักออกแบบที่มีความสามารถมาอีกสองสามคน
“เนื่องจากงานนี้เป็นโครงการของรัฐบาล บริษัทจึงให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ไม่ได้มีความหมายอื่น เปอร์เซ็นต์ที่คุณทำให้ได้งานนี้จะให้คุณเดือนนี้”ผู้จัดการเรียกเธอมาคุย
ยู่ยี่พยักหน้าลง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง และยิ่งสามารถพูดได้ว่า สำหรับการตัดสินใจแบบนี้ เธอรู้สึกโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ความหนักเบาของตัวเอง เธอรู้ดีกว่าใคร ให้เธอรับงานนี้เพียงลำพัง เธอจะเป็นเหมือนอย่างที่เขาบอก ต้องมาแบกรับภารกิจอันสำคัญนี้
ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าเธอกลัว แต่ไม่มีประสบการณ์เลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้อายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว แต่กลับเป็นการได้มาสัมผัสสังคมครั้งแรก แม้แต่เธอก็ยังรู้สึกเยาะเย้ยตัวเองเลย
ผู้จัดการตบไหล่เธอ : “ยี่เป็นคนรู้เหตุรู้ผล ใช่แล้ว ช่วงสองสามวันนี้คุณฉันทัชเป็นอย่างไรบ้าง?”
ยู่ยี่เงียบ ส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น : “ฉันไม่ทราบค่ะ ฉันกับคุณฉันทัชไม่ได้คุ้นเคยกันจริงๆ”
“แต่ก็คุ้นกันมากกว่าผม”ผู้จัดการพูดความจริงออกมา
ยู่ยี่ : “……”
ออกมาจากออฟฟิศ ยู่ยี่นั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงาน เรนบีโผล่ส่วนบนของร่างกายออกมาจากช่องว่างระหว่างสองคน : “เธอมีช่องทางการติดต่อคุณฉันทัชหรือเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง