ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 611

สรุปบท บทที่ 611 ผู้ชายปัญญาอ่อน: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

สรุปตอน บทที่ 611 ผู้ชายปัญญาอ่อน – จากเรื่อง ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง โดย candy cat

ตอน บทที่ 611 ผู้ชายปัญญาอ่อน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง โดยนักเขียน candy cat เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หัวเราะเสร็จสรรพ มนตรีก็เอ่ยปากกล่าวว่า:

“ลูกคือเหตุผลที่ดีที่สุดในการคืนดีของพวกคุณ แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เธออดทนอดกลั้นมาแปดปี แปดปีเต็ม ๆ นะ ไม่ใช่หนึ่งเดือน สองเดือน และไม่ใช่ปีสองปี”

“เพราะหวังอยากให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุข เพื่อให้ลูกมีครอบครัวสมบูรณ์แบบ เธอใช้ชีวิตวัยสาวของตัวเองแปดปี.......”

พูดมาถึงจุดนี้ เขาหยุดชั่วครู่ ก่อนจะจ้องไปยังอาคิระที่อยู่ตรงหน้า

ซึ่งสีหน้าอาคิระดูไม่ได้เลย ใบหน้ามืดครึ้ม แววตาเฉียบคม

ริมฝีปากบางของอาคิระยิ่งเม้มไว้แน่นขนัด เผยความไม่พึงพอใจอย่างเด่นชัด

มนตรีกล่าวต่อไปว่า:

“แม้ชีวิตคู่นี้เธอไม่เคยได้รับความสุขและความเอาใจใส่ เธอก็อายุเข้าสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งมีแปดปีได้กี่ครั้ง เป็นสาวได้กี่หน?”

“ถ้าลูกยังเล็ก เหินเดินไม่ได้ จึงจำเป็นต้องได้รับความรักและความทะนุถนอมจากมารดา ตอนนั้นเธอจึงไม่ยอมหย่า”

“ปีนี้หมีพูลอายุแปดขวบแล้ว เขาเริ่มรู้ความ บางครั้งก็เหมือนผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำ หรือบางครั้งจะมีวุฒิภาวะกว่าผู้ใหญ่อีก

“ถ้าให้เลือกระหว่างมีครอบครัวสมบูรณ์แบบจึงต้องฝืนใจแต่งงานกับความสุขของแม่ เขาต้องเลือกอย่างหลังแน่นอน”

อาคิระหรี่ตาต้องมองมนตรีด้วยการขมวดคิ้วแน่นเป็นปม

“พูดราวกับความคุณรู้ดีเรื่องความรักอย่างนั้นแหละ เรื่องของผมกับเธอ คนนอกไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”

“ฝืนแต่งงานเพราะอยากให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบ คิกคิก ตลกชะมัด เธอรักผม มันจะเรียกว่าฝืนใจได้ยังไง?”

มนตรีกลับหัวเราะเบา ๆ“ผมต้องขอเตือนคุณอาคิระหนึ่งประโยคนะครับ ก่อนหน้านี้เธออาจจะรักคุณมาก แต่ตอนนี้เธอไม่รักคุณแล้ว ไม่งั้นคุณไม่มีท่าทีเช่นนี้กับคุณ ถูกไหม?”

ประโยคนี้พูดแทงใจดำถึงขีดสุด

ชั่วพริบตา อาคิระก็หน้าถอดสี

หัวใจดั่งโดนก้อนหินปาใส่อย่างจัง

ต่อด้วยบันดาลโทสะขึ้นมา เขาตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด“เธอก็แค่โกรธผม ถ้าหายโกรธแล้วพวกเราก็จะดีกันเหมือนเดิม”

เขากำลังข่มกลั้นความรู้สึกอยากชกหน้าอีกฝ่ายไว้

แต่ไหนแต่ไรเขาเกลียดคนประเภทที่คิดว่าตัวเองถูกที่สุด

“คุณอาคิระกำลังหลอกผมหรือกำลังหลอกตัวเองอยู่เหรอ? คุณคิดว่าเธอยังยกโทษให้คุณอีกหรือ?” มนตรีเหยียดยิ้มเย้ยหยัน ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น

“หุบปากซะ ถ้าไม่อยากโดนกระทืบ”

นัยน์ตาอาคิระกลายเป็นมืดครึ้มดุดันในบัดดล

กระทั่งมือข้างลำตัวยังส่งเสียงกำหมัดแน่นได้เด่นชัด คล้ายกับความอดทนเกือบถึงขีดจำกัดแล้ว

มนตรีกลับไม่รู้จักบันยะบันยัง “ตอนนี้โกรธแล้วเหรอ?”

เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน นัยน์ตาฉายแสงพิฆาตออกมา

สุดท้ายก็หมดความอดทน อาคิระเดินย่างสามขุมเข้าไปคว้าคอเสื้อของมนตรีไว้ ทำท่าจะชกต่อยกันแล้ว

หลังจากกลับจากหุบเขา พนาวันรู้สึกเวียนหัว แสบร้อนบริเวณท้อง คล้ายกับจะสลบเหมือดได้ทุกเมื่อ

และไม่มีเวลาไปตรวจที่โรงพยาบาลเลย

อากาศที่หุบเขาหนาวเหน็บ บวกกับอยู่ในถ้ำหนึ่งคืนเต็ม ๆ ความหนาวและความชื้นจึงทำให้เธอเป็นหวัดอย่างไม่ต้องสงสัย

ตอนนี้พวกเขาสองคนยังทะเลาะวิวาทไม่หยุด จึงยิ่งรู้สึกปวดหัวมากขึ้น

“ฉันปวดหัวมาก ไม่ค่อยสบาย อยากพักผ่อน พวกคุณออกไปได้ไหม?”

พนาวันไม่อาจทนฟังเสียงเอะอะโวยวายได้ จึงเอ่ยปากพูดเช่นนี้

ได้ยินดังนี้ มนตรีถามด้วยความเป็นห่วง“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ รอผมจอดอยู่ข้างล่าง ผมพาคุณไป”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคิดว่าน่าจะเหนื่อยเกินไป ดังนั้นวันนี้ฉันต้อนรับพวกคุณไม่ได้แล้ว”

พนาวันทนความเจ็บปวดไว้ จากนั้นก็ปฏิเสธทางอ้อม

พนาวันเลิกคิ้ว ไม่ได้แสดงอารมณ์มากนัก“งั้นก็นอนเถอะลูก”

หมีพูลเอื้อมมือดึงชายเสื้อของเธอ“คุณแม่จะเลือกคุณพ่อหรือคุณอามนตรีครับ?”

“เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมช่างสงสัยจังเลย? นอนเถอะลูก” พนาวันไม่ตอบ หากแต่พูดเช่นนี้ออกมา

เธอไม่เลือกใครทั้งนั้น

“ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกคุณพ่อครับ เมื่อก่อนตอนไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณพ่อ ผมคิดว่าคุณพ่อเป็นคนเลว ชอบทำหน้าดุ หน้าเย็นชา และยังชอบอารมณ์เสียใส่คุณแม่อีก แถมไม่ชอบกลับบ้านอีก”

“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าไม่ใช่ พ่อกอดผมเป็น ยังนอนกับผมด้วย ไล่ก็ไล่ไม่ไป”

พูดมาถึงจุดนี้ หมีพูลก็รู้สึกเหลืออด

จากที่ฟังแบบไม่ใส่ใจ เมื่อได้ยินคำนี้ พนาวันก็เลิกคิ้ว“ตอนกลางคืนพ่อนอนกับลูกเหรอ?”

“ใช่ครับ พ่อจะนอนกับผมให้ได้เลย ยังกอดผมนอนด้วย ผู้ชายสองคนกอดกันนอนมันพิเรนทร์ยังไงไม่รู้ พ่อชอบฝันร้ายด้วยครับ หน้าผากมีเหงื่อซึมตลอด”

“พ่อเขาฟังผมด้วยครับ เขาไปหาหมอด้านสุขภาพจิตมา และกินยาก่อนนอนทุกคืนเลยครับ” หมีพูลพูดเป็นต่อยหอย

เพียงแต่ยิ่งฟัง พนาวันก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ

เมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนแบบนี้ กอดคนอื่นนอนเหรอ เป็นไปไม่ได้

เขาชอบย่างเท้าเข้าโรงพยาบาลด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ยอมหาหมอจิตแพทย์แล้วเหรอ

มันอดทำให้เธอประหลาดใจไม่ได้ แต่สรุปก็คือ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น หมีพูลได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อแล้ว

“ที่จริงพ่อดีมากเลยครับ ถึงบางครั้งจะบ่นเยอะหน่อย และบางครั้งยังไร้เหตุผลหน่อย ๆ แต่ก็ดีมากเลยนะครับ พ่อกลัวว่าตอนกลางคืน แม่เดินไม่สะดวก เลยให้ผมอยู่ดูแลแม่ครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่แม่เลยครับ ถ้าแม่ชอบใครก็เลือกคนนั้นได้เลยครับ ผมได้ทุกอย่างครับ”

พนาวันรู้สึกปลื้มใจยิ่ง

เธออายุสามสิบปีแล้ว ไม่ได้ประสบผลสำเร็จอะไรมากมาย

สิ่งเดียวที่ทำให้เธอภาคภูมิใจและรู้สึประสบผลสำเร็จก็คือ หมีพูลนี่แหละ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง