ต้าเป่าอะไรกัน ไร้รสนิยมจริงๆ เราไม่ได้จะขายเครื่องสำอางกันซะหน่อย ชื่อต้าเป่างั้นเหรอ งั้นคงต้องเจอกันทุกวันซะแล้วล่ะมั้ง!
นาโนบังเอิญเดินออกมาพอดี เสียงที่ดังออกมาจากในโทรศัพท์เธอเองก็ได้ยิน
ในตอนกลางคืน ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เชอร์รีนนอนไม่ค่อยจะหลับ แต่นาโนกลับหลับสนิทตลอดทั้งคืน
อาหารเช้าของพวกเขาทั้งสองก็คืออาหารข้างทางที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม
เพียงแค่พริบตา อาทิตย์หนึ่งก็ผ่านไปแล้ว
นาโนไปที่คอนโดของตัวเอง เห็นรถเบนท์ลีย์ยังจอดอยู่ที่โรงรถ นั่นหมายความว่าดนัยยังไม่ได้ไปทำงาน
มือหนึ่งผลักประตูห้อง จังหวะที่จะก้าวเท้าเข้าห้องก็ชนเข้ากับดนัยที่กำลังเดินมาพอดี ทั้งสองต่างก็ชะงักฝีเท้าลง
“ คุณบินไปดูงานที่อเมริกาตั้งแต่เมื่อไหร่? ”
“ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตอนวันที่ 14 ” ดนัยแสดงสีหน้าเฉยเมย
นาโนมองตรงมาที่สีหน้าของเขา “ คุณไปกับใคร? ”
“ เลขา ” หากเธอถามดนัยก็เพียงแค่ต้องตอบกลับเท่านั้น
“ ได้จูบกันหรือเปล่า? ”
ดนัยขมวดคิ้วเล็กน้อย “เขายังไม่ได้แต่งงาน อายุก็ยังน้อย อย่ามาพูดจาดูถูกคนอื่นลับหลังแบบนี้อีกนะ!”
นาโนตรงมองไปข้างหน้า แล้วจ้องเข้าไปในตาของเขา แต่เพียงแค่แว็บเดียวก็ละสายตาออก แววตานั้นชั่งแหลมคมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คล้ายกับว่าเธอต้องการที่จะขูดรีดอะไรบางอย่างออกมาซะก่อนถึงจะพอใจ
ถึงแม้ว่าเรื่องราวมันจะเป็นไปตามที่เธอคิด แต่มองอะไรสักอย่างออกจากนัยน์ตาคู่นั้นจริงๆ
“เมื่อวานตอนที่ออกไปจากสนามบิน ฉันโทรหาคุณถึง 8 สาย แต่คุณไม่ได้รับแม้แต่สายเดียว ” เธอยังคงพูดกดดันเขา
“สองสายแรกที่โทรมาตอนนั้น ผมกำลังเจรจาเอกสารอยู่กับบริษัททางฝั่งอเมริกา หลังจากนั้นโทรศัพท์ของผมก็แบตหมด มันปิดเครื่องไปเอง”
ขณะที่เขาพูด ดนัยก็ยกข้อมือมองดูนาฬิกาไปด้วยเเว็บหนึ่ง
“ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมจะไปบริษัท”
“จำสิ่งที่คุณเคยบอกกับฉันไว้นะ คุณจะไม่มีทางทรยศฉันอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณมีความคิดที่จะทำแบบนั้นจริงๆ คุณจะไม่มีทางปิดบังฉัน จะไม่ให้ฉันรู้เรื่องนั้นเป็นคนสุดท้าย ฉันเชื่อในคำพูดพวกนั้น แต่ว่าดนัย นิสัยของฉันนาโนคูณเองก็รู้ดีนี่! ”
ประโยค ที่เธอกล่าวออกไป มันมีความหมายที่ลึกซึ้ง หรือก็คือหนึ่งประโยค 2 ความหมาย
เท้าของดนัยหยุดชะงัก ตอบรับเสียงเบามาทีหนึ่ง แล้วก้าวขาที่เรียวยาวออกมาจากคอนโดไป
นาโนนั่งอยู่ในคอนโด แล้วโทรศัพท์หายู่ยี่ แล้วก็ยังถามคำถามเดียวกัน ที่นีรดาเป็นลมไป เธอมีความผิดใหญ่ไหม?
หากจะพูดอย่างเป็นกลาง แน่นอนว่าเธอมีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้
คำตอบที่ยู่ยี่บอกมา ก็เป็นคำตอบเดียวกับของเชอร์รีน
“ เธอเองก็รู้ดีนี่ว่าดนัยเป็นคนกตัญญู นีรดาสำคัญกับเขามากแค่ไหน เธอเองก็ะรู้ดียิ่งกว่าฉัน ตอนนี้นีรดานอนหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาล ความรู้สึกแบบนั้นของเขาก็คงพอจะเข้าใจได้ ”
……
หลังจากเตรียมวัตถุดิบทำอาหารเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี นาโนยังไม่ได้กินข้าว แต่พูดกับคนในห้องครัวว่า “ แบ่งอาหารเที่ยงไว้สองที่นะ ”
หลังจากนั้น เธอก็ขับรถนำอาหารเที่ยงไปที่เตชะโสภากรุ๊ป
พนักงานต้อนรับรู้จักเธอเป็นอย่างดี จึงไม่ได้ขวาง นาโนเดินตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัวของประธาน แล้วขึ้นไปยังห้องทำงานของประธาน
ดนัยที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทา กำลังนั่งตรวจเอกสารอยู่
ได้ยินเสียงดังพลันเงยหน้าขึ้น เห็นว่าคนที่มาคือนาโน เขาขมวดเล็กน้อย ประหลายใจจริงๆ
“ ถึงเวลาทานอาหารเที่ยงแล้ว ฉันเอาอาหารเที่ยงมาด้วย มากินด้วยกันเถอะ ” นาโนนั่งลงบนโซฟาอย่างถือวิสาสะ แล้วเปิดกล่องข้าวทั้งสองออก
ดนัยเดินเข้าไป สีหน้ายังคงไร้อารมณ์ ไม่ได้กล่าวคำใด แต่หัวคิ้วก็ยังขมวดอยู่เล็กน้อย
อาหารเที่ยงทั้งสองกล่องเป็นอย่างเดียวกัน เป็นอาหารที่พ่อครัวทำเอาไว้ หน้าตาของกับข้าวทั้งหมดล้วนสวยงาม และน่ารับประทาน เขาจึงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง