เพราะถึงอย่างไรฐานะอย่างตระกูลเตชะโสภาแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ต้องการเด็ก
ตอนนี้ดนัยปกป้องเธอ และต่อต้านนีรดา
แต่รอจนถึงวันนึงที่ยืนหยัดต่อไปไม่ได้แล้ว บางทีทั้งสองคนก็จะต้องมาเผชิญหน้ากับสภาพที่เป็นอยู่ที่ต้องหย่าร้างกัน
แต่สิ่งเดียวที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ ตอนนี้สาเหตุของการหย่าร้างก็คือเธอมีความรู้สึกดีๆกับผู้หญิงคนอื่น!
เมื่อคิดขึ้นมาอีกครั้ง หรือบางที ความหมายของพระเจ้าก็คือจะทำให้เธอต้องหย่ากัน
มิเช่นนั้นแล้ว ก็คงจะไม่ทำให้เธอต้องมาพบว่าตัวเองท้องหลังจากที่หย่ากันแล้ว
แท้ที่จริงแล้ว ก็มีการจัดการเอาไว้ทุกอย่างแล้วโดยที่ใครๆก็ไม่คาดคิด ไม่อยากจะให้เธอต้องเสียใจ ดังนั้นจึงให้ลูกกับเธอมา
สำหรับที่ว่าจะเอาเด็กคนนี้ไว้หรือเปล่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการคิดพิจารณานานเลย
เธอต้องการเด็กคนนี้!
เมื่อก่อนก็อยากได้เต็มแก่ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว ไม่มีทางที่จะทอดทิ้งอยู่แล้ว อีกทั้งเธอเองก็กลัว กลัวว่าต่อไปตัวเองจะไม่สามารถตั้งท้องได้อีก
ถึงอย่างไรเธอตั้งท้องได้ยากขนาดนี้ ความเสี่ยงแบบนี้ เธอทนแบกรับไม่ไหว!
ความสามารถอย่างเธอ นาโน เลี้ยงดูลูกหนึ่งคนไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว
เด็กคนนี้จะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับดนัยทั้งสิ้น เขานามสกุลภูษาธร ไม่ใช่นามสกุลเตชะโสภา นี่คือลูกของเธอ!
เธอเดินอยู่บนรองเท้าส้นสูง5-6เซ็น นาโนไปยังร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้ๆ
ต่อไปรองเท้าส้นสูงก็ใส่ไม่ได้แล้ว จะต้องใส่รองเท้าส้นเตี้ยพื้นเรียบ
แล้วเธอก็ซื้อรองเท้าพื้นเรียบมาสองสามคู่ในทีเดียว หลังจากนั้นเธอก็กลับไปที่โรงแรมอีกครั้ง
ปารีสสวยงามมากจริงๆ แล้วก็โรแมนติกมาอีกด้วย เพียงแต่กลับไม่เหมาะกับเธอในตอนนี้
สภาพหัวใจของเธอในตอนนี้ อยู่ที่นี่ต่อก็คงไม่เหมาะสมนัก รอจนถึงวันนั้นหลังจากที่เธอจิตใจสงบลงได้ เธอจะสามารถอยู่ที่นี่ได้
ตอนนี้เธอยังคิดอยากจะไปเที่ยว ไปเที่ยวอย่างอิสระ ไปเที่ยวคนเดียวเพียงลำพัง.....
ข่าวเรื่องท้องนั้น ตอนนี้เธอยังไม่อยากบอกคนอื่น รอให้หลังจากนั้นอยากจะบอกแล้วถึงค่อยบอก
นาโนทำตามอำเภอใจตัวเองมาโดยตลอด เริ่มต้นชีวิตการแต่งงาน เธอไม่เคยคิดที่จะสิ้นสุดมันลง แต่สุดท้ายแล้วก็สิ้นสุดลงแล้ว......
เมืองs
ดนัยคิดว่าที่นีรดาให้เขาไปที่ร้านอาหารนั้นเป็นการล้อเล่น แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเอาจริง ไม่ได้ล้อเล่นเลย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
นีรดาโทรหาดนัยให้เขาไปที่ร้านอาหาร
ดนัยเอ่ยขึ้น : “พรุ่งนี้แล้วกันครับ ที่ร้านอาหารปิดไปก่อนอีกหนึ่งวัน วันนี้ที่บริษัทมีประชุมสำคัญด้วย”
“บริษัทแกมีตั้งหลายคน นอกจากแกแล้วก็ยังมีรองประธาน ผู้จัดการใหญ่อีก หรือว่าจะไม่ให้พวกเขาทำงานกันเลยเหรอ?”
นีรดาเอ่ยขึ้น : “จะต้องไป ร้านอาหารปิดนานเกินไปก็ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นักหรอกนะ คนจะคิดว่าปิดกิจการไปแล้ว”
ดวงตาหรี่ลง ในใจของดนัยนั้นกำลังดิ้นรนอย่างรุนแรง
เขาเป็นประธานของเตชะโสภากรุ๊ป ตอนนี้กลับไปทำอยู่หลังครัวที่ร้านอาหาร ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป แล้วศักดิ์ศรีของเขาจะอยู่ตรงไหนกัน?
แต่คำพูดของนีรดานั้นเด็ดขาดเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีช่องทางที่เหลืออยู่ให้สามารถปรึกษาได้เลย นอกเสียจากว่าเขาอยากจะทำให้นีรดาโมโหเสียจนป่วยไปเลยจริงๆ
ไม่มีวิธีอื่น ดนัยจำต้องใส่ชุดสูทที่รีดจนเรียบไปที่ร้านอาหารแบบนั้น
พนักงานที่ร้านเห็นเขาแล้วใบหน้าก็เผยถึงสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึงและประหลาดใจ แต่สีหน้าท่าทางของดนัยนั้นเย็นชา เดินเข้าไปในครัวนิ่งๆโดยไม่ได้มีอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆเลย
นีรดาเอาสูตรเฉพาะให้เขา แล้วบอกว่าเดี๋ยวอีกซักพักเธอจะนั่งวีล์แชร์มาชี้แนะเขา
และเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงกว่า พยาบาลรับจ้างเข็นนีรดาเข้ามา
ดนัยถอดชุดสูทที่อยู่บนร่างออก ใส่เพียงแค่เสื้อแขนสั้น
นีรดานั่งข้างๆ แล้วพูดถึงการผสมวัตถุดิบตามอัตราส่วนแต่ละอย่าง ให้ดนัยหยิบออกมา หลังจากนั้นชั่งปริมาณอีกครั้ง และเทลงไปในหม้อเหล็ก เริ่มคลุกให้เข้ากัน
กำลังความเข้าใจของดนัยนั้นมีอยู่ไม่น้อย ตอนที่ทำเรื่องพวกนี้นั้นไม่ได้มือไม้อ่อนจนทำอะไรไม่ถูกมากมายนัก แต่กลับนิ่งและมีความเป็นระเบียบอีกด้วย
เช้าตรู่
นีรดารอเขาอยู่ที่ร้านอาหารแล้ว เห็นว่าเขายังไม่มาจึงโทรเร่ง
พนักงานที่ร้านอาหารนั้นล้วนแต่รู้สึกสงสัยมาก เมื่อก่อนคนที่มาร้านทุกวันไม่ใช่ว่าเป็นภรรยาของคุณชายหรอกหรือ? ตอนนี้ทำไมเปลี่ยนเป็นประธานแล้ว?
เรื่องที่ดนัยไปช่วยงานที่ร้านนั้นเชอร์รีนรู้เรื่องแล้ว จึงเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะเยาะ : “สมน้ำหน้า! เขาก็ควรจะไปที่ร้านบ้าง! แล้วก็ควรจะรู้ด้วยว่างานที่ร้านน่ะลำบากขนาดไหน เหนื่อยขนาดไหน สกปรกขนาดไหน! ได้รู้ถึงความลำบากพวกนี้ที่ตอนนั้นนาโนของพวกเราได้รับมาบ้าง!”
การผสมวัตถุดิบนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากว่ายอดการขาดนั้นเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นก็หมายความว่าส่วนผสมก็จะเพิ่มขึ้น งานหลังครัวก็จะยิ่งยุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ดนัยขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น แล้วเอ่ยพูดขึ้นกับนีรดา : “แม่ ซื้อเครื่องจักรซักเครื่องเป็นไงครับ แบบนี้ประสิทธิภาพในการผสมวัตถุดิบตามอัตราส่วนจะต้องดีขึ้นแน่ๆ”
“ร้านอาหารร้านอื่นก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรกันตั้งนานแล้ว มีเพียงแค่ของพวกเราตระกูลเตชะโสภานี่แหล่ะที่ยังใช้แรงงานคนอยู่ ส่วนผสมที่ใช้แรงคนออกมานั้นจะหอมมาก นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมตระกูลเตชะโสภาถึงได้ใช้แรงงานคนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นแกจะซื้อเครื่องจักรมาทำอะไร?”
คลุกให้เข้ากัน บดให้ละเอียด ส่งวัตถุดิบที่ผสมตามอัตราส่วน เช็คบิล กลับมาถึงบ้านตอนกลางคืนดนัยยังต้องจัดการเอกสารด่วนของที่บริษัทอีก ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้านั้น คนอื่นไม่สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเลยจริงๆ
เพราะฉะนั้น สองสามวันนี้ ดนัยหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย
วันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสิ้นสุดได้เร็วขึ้นมาบ้าง หัสดินก็โทรมาหาก่อนล่วงหน้า ดังนั้นจึงพากันไปที่ผับ
“ได้ยินว่าคุณชายดนัยตอนนี้ทำกิจการทางอาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นพ่อครัวระดับอาจารย์เลยด้วย รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างครับ?” หัสดินเจตนาพูดขึ้นมา
“อย่าปากดีนักเลย”
ดนัยผลักเขาแล้วเอนลงบนโซฟา ยกเหล้าขึ้นมาดื่ม
“ถ้าหากเป็นไปได้ ฉันอยากเลือกที่จะปิดร้านอาหารไปเลยจริงๆ”
ออกัสเหลือบมองเขา ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆออกมา
หัสดินเลิกคิ้วขึ้นพลางเอ่ยถาม : “ทำไม ได้ยินมาว่ากิจการดีมากเลยนี่!”
“ถ้าหากมีคนผสมวัตถุดิบตามอัตราส่วนเฉพาะทางที่ร้านก็ไม่ส่งผลกระทบอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่สำคัญเลยก็คือตอนนี้ให้ฉันทำนี่สิ!”
ดนัยดื่มเหล้าอย่างหงุดหงิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง