รองเท้าที่ใส่อยู่ค่อนข้างที่จะสูง ทำให้เดินไม่คล่องแคล่วนัก
เห็นดังนั้นราชาก็เดินเข้ามา มือใหญ่รวบที่บริเวณเอวของเธอแล้วอุ้มเธอไปยังชั้นบน ท่าทางสนิทสนมมาก
ดนัยมองอย่างชะงัก มือใหญ่กำแน่น สายตามองตามหลังของคนทั้งสอง!
“ดูเหมือนว่าในตอนนี้นาโนของพวกเราจะมีเจ้าของแล้วเหมือนกัน!”
เชอร์รีนยิ้มแล้วตั้งใจพูดต่อหน้าดนัย “บนโลกนี้ใครคนนึงได้เดินจากใครไปก็มีชีวิตดีขึ้นด้วยกันทั้งนั้น! อย่าคิดว่าตัวเองนั้นแน่!”
คำพูดนั้นทำให้สีหน้าของดนัยค่อยๆเจื่อนลง
บาร์บี้ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ได้ยินเต็มๆ เธอเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “คุณหญิงเชอร์รีน คุณเป็นผู้หญิงที่มีการศึกษา อย่ามาพูดคำพูดที่ดูไม่น่าฟังในที่แบบนี้ดีกว่านะคะ”
ในใจของเธอดนัยเป็นหนุ่มที่มีอนาคต เรื่องการงานก็ประสบความสำเร็จสูงมาก เขาอยู่ในใจเธอเปรียบเสมือนเทพก็ไม่ปาน ยกให้เป็นคนสูงส่งจนใครก็ไม่สามารถที่จะมาล่วงละเมิดได้ และไม่ใช่ต้องมาถูกต่อว่าต่อหน้าอย่างนี้
ได้ยินดังนั้น มุมปากของเชอร์รีนก็ยกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา เธอมองไปที่บาร์บี้หลังจากนั้นก็มองมาที่หัสดินแล้วถามว่า “ฉันมีการศึกษามั้ย?”
หัสดินหัวเราะ “คุณเป็นถึงอาจารย์นะ ถ้าคุณไม่มีแล้วใครจะมี นี่ล้อเล่นกันใช่มั้ยเนี่ย?”
เชอร์รีนก็มองมาที่ออกัสอีก “คุณว่าการอบรมบ่มเพาะของฉันเป็นยังไง?”
“ใครจะมาเทียบกับคุณได้….”
ออกัสเสียงทุ้มต่ำ นัยน์ตาดำขลับกวาดมามองที่บาร์บี้
บาร์บี้ก้มหน้ามุดลงต่ำ ตามองที่พื้น หัวใจเต้นแรง ไม่กล้าที่เงยหน้ามองเขา
“ฉันก็ยอมรับนะว่าการอมรมบ่มเพาะของฉันค่อนข้างดีเลยทีเดียว ดังนั้นเจอคนประเภทไหนก็พูดออกมาแบบนั้น ไม่เคยพูดเกินจริง ในเมื่อฉันพูดกับเขาแบบนั้นก็ย่อมรู้ฐานะของเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร มีที่ที่ให้เธอมาพูดแทรกตั้งแต่เมื่อไร่กัน?” เชอร์รีนพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
คำพูดนี้ไม่น่าฟังเอาเสียเลยจริงๆ บาร์บี้ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ที่ตรงนี้ไม่มีพื้นที่ที่ให้เธอพูดจริงๆ!
สุดท้ายดนัยเลยเอ่ยปากขึ้นแก้ต่างให้บาร์บี้ว่า “เอาละ หัวข้อนี้เอาไว้แค่นี้พอ”
เชอร์รีนไม่ได้สนใจที่ดนัยแก้ต่างให้บาร์บี้ เพราะตอนนี้นาโนก็ไม่ได้มีความสนใจเขาเลย ดังนั้นเธอเลยไม่รู้สึกโกรธเคือง
แต่บาร์บี้เป็นคู่ของดนัยที่เชิญมา ถึงอย่างไรสถานการณ์แบบนี้ในวันนี้จะให้เธอที่ไม่ผิดอะไรมาลำบากใจด้วยไม่ได้
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” และต่อมาเขาก็ถามเชอร์รีน
“นี่คุณกำลังถามฉันหรอคะ? แต่น่าเสียดายฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเลย”
เชอร์รีนเหลือบมองเวลา หลังจากนั้นก็พูดกับออกัสว่า “พวกเราออกมาก็นานแล้ว รีบกลับบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ดีกว่าค่ะ ไม่งั้นฉันกลัวลูกๆทั้งสองจะร้องไห้โวยวายเอา”
ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าเป็นหัวแก้วหัวแหวนของเขา ออกัสจะยอมให้พวกเขาเสียน้ำตาซะที่ไหน เลยเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน”
ไม่ว่างานเลี้ยงจะจบลงหรือไม่นั้น ก็ไม่มีความสำคัญในใจเขาเลย
หัสดินก็ไม่ได้มีความสนใจที่อยากจะอยู่ต่อ เลยเดินออกจากโรงแรมมาพร้อมพวกเขาแล้วพาเลขาไปส่งที่บ้านก่อน
ดนัยยังคงยืนอยู่กับที่ สายตามองขึ้นไปที่ชั้นสอง เก็บกลั้นความขื่นขมไว้
บาร์บี้ที่อยู่ข้างกายเขาพูดเตือนเบาๆว่า “ท่านประธานคะ”
เขาได้สติพลางกลืนน้ำลายแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสอง แต่ว่าพนักงานที่อยู่บนชั้นสองไม่ได้เยอะก็เลยถามหาไม่ได้ว่านาโนไปทางไหน
สุดท้ายก็ให้ยอมแพ้ เนื่องจากดนัยดื่มและไม่สามารถขับรถได้ เลยเป็นบาร์บี้ที่ขับมา
บ้านตระกูลเตชะโสภาเธอเคยมาบ้างแล้ว เลยคุ้นชินกับทาง ไม่นานบาร์บี้ก็ขับรถเข้ามาที่บ้านตระกูลเตชะโสภา ดนัยที่นั่งอยู่ด้านหลังกำลังหลับลึก
เธอตะโกนเรียกยามที่อยูตรงป้อม หลังจากนั้นก็ช่วยประคองดนัยที่เมาเข้าไปในบ้าน
เขาพยักหน้า กลางคืนราชาและนาโนแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ก่อนเที่ยงคืนนาโนอยู่เป็นเพื่อนกับคังซีน้อย หลังเที่ยงคืนเป็นราชา
โชคดีที่ขณะที่ใกล้จะเที่ยงคืน ไข้ของคังซีน้อยก็ได้ลดลงไปพอประมาณ หัวใจของนาโนก็รู้สึกสงบลงไปบ้าง
ตั้งแต่เบบี๋คลอดออกมาก็ไม่เคยป่วย จนมาถึงที่เมืองSนี่ เขาถึงมีอาการ เฮ้อจริงๆเลย!
นาโนที่เฝ้าอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกง่วงขึ้นมา เธอค่อยๆหลับตาลงแล้วผล็อยหลับไป
ในฝันเหมือนจะปรากฏให้เห็นใบหน้าของดนัย ในแสงสลัวเหมือนถูกปกคลุมด้วยหมอกมองเห็นไม่ชัด
แต่ใจของเธอไม่ได้สั่นแล้วก็ไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บปวดอะไรอย่างนั้น มันเรียบเฉยเหมือนผิวน้ำ
เช้าตรู่ของวันถัดมา
ในขณะที่ดนัยกำลังกินข้าว นีรดาก็ถือโอกาสถาม “นาโนกลับมาแล้วใช่มั้ย?”
มือของเขาที่กำลังยกกาแฟขึ้นดื่มให้หยุดลงเล็กน้อย ดื่มพลางเม้มปากไป แล้วให้คิดไปถึงเมื่อวาน
ต่อมานีรดากลับไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีก็เลยทำเป็นนิ่งเสีย จัดแจงเก็บของแล้วไปที่ห้องอาหาร
นั่งอยู่ในห้องทำงานที่โปร่งกว้าง คิ้วของดนัยขมวดขึ้น เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้
เขาได้โทรหาผู้รับผิดชอบที่จัดงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้เพื่อขอเบอร์โทรCY
ผู้รับผิดชอบก็ไม่ได้ลังเลอะไรเลยให้เบอร์มา
ดนัยโทรไปตามเบอร์นั้น แต่กลับไม่มีคนรับต่อมาก็กลายเป็นปิดเครื่อง
ผ่านมานานอย่างนี้เบอร์โทรศัพท์ของดนัยไม่เคยเปลี่ยน ดังนั้นนาโนจึงรู้แน่นอนว่าเป็นเขาที่โทรมา
เขาขมวดคิ้ว นิ้วมือเรียวยาวคลึงที่ระหว่างคิ้ว แล้วโยนโทรศัพท์ไว้อีกฝั่งนึง หลังจากนั้นให้เลขาผู้ช่วยไปเช็คแพลนการทำงานของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง