“แม่เจ้า!”
ราชาผุดตัวลุกขึ้นยืนจากโซฟา นัยน์ตาเปลงประกายด้วยความโกรธ
“วันนี้จัดการมันเบาไปหน่อย ถ้าผมรู้อยางนี้นะ ผมจะจัดการมาให้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเลย แล้วก็คังซีก็เป็นเบบี๋ของผม คุณอย่าบอกเรื่องนี้กับมันนะ ผมจะไม่ให้มันรู้ว่าคังซีเป็นลูกชายของมันจนกระทั่งมันตาย!”
“รอให้คังซีโตขึ้นเรียกผมว่าแดดดี้ ผมจะไม่เพียงแต่ให้เบบี๋คังซีบอกว่ารักนะแดดดี้ต่อหน้ามัน แต่ผมจะสอนเทควันโด้ให้กับคังซีด้วย จะชกหน้ามันให้บวมไปเลย คิดดูแล้วก็สะใจดีเหมือนกัน!”
จ้องมองผู้ชายที่ได้เข้าสู่ห้วงจินตนาการที่ถอนตัวได้ยาก นาโนให้เลิกคิ้วขึ้น ส่ายหน้ารับไม่ได้
ในขณะนั้นเสียงข้อความก็ได้ดังขึ้นมา
นาโนเปิดดู คนที่ส่งข้อความมาเป็นดนัย “พวกเราคุยกันหน่อย!”
นาโนยิ้มอย่างเยือกเย็นยื่นมือออกไปที่จะกดลบข้อความ
อาจจะเป็นเพราะไม่ได้รับข้อความตอบกลับอยู่นาน ดนัยเลยส่งข้อความทักไปหาอีก
นาโนทีได้ยินเสียงข้อความติ๊ดๆเข้ามาในใจก็ให้รู้สึกเกิดความรำคาญ มือซ้ายถือโทรศัพท์ เธอเตรียมที่จะบล็อคเบอร์ของเขา
แต่มือกลับไปเปิดโดนข้อความอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ใบหย่าอยู่ที่ผมยังไม่ได้เซ็น แน่ใจนะว่าจะไม่มาคุยกัน?
เห็นดังนั้น มือของนาโนก็ค้างอยู่อย่างนั้น
จนมาถึงตอนนี้ใบหย่ายังไม่ได้เซ็น เขาหมายความว่าไง?
เธอลุกขึ้นยืนแล้วกดโทรหาทนาย ผ่านไปไม่นานก็ติดต่อได้ เธอเลยถามถึงใบหย่าวันมันเกิดอะไรขึ้น?
ทนายพูดด้วยความรู้สึกงงว่า “ตอนนั้นผมจะเอาใบหย่าให้กับท่านประทานดนัย แต่คุณหญิงเชอร์รีนบอกว่าจะเอาไปให้เอง เรื่องนี้ผมจึงยกให้คุณหญิงเชอร์รีนจัดการ ผมคิดว่าคุณนาโนรับรู้แล้ว”
“โอเคค่ะ เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจะถามเธอเอง” นาโนวางสายแล้วโทรไปที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์
บังเอิญเชอร์รีนอยู่บ้านพอดี นาโนเลยถามเรื่องใบหย่า
“ตอนนั้นเธอถูกทำร้ายอย่างหนักแล้วไม่ยอมเอาเงินเขาแม้สตางค์แดงเดียว เธอเลยไปต่างประเทศแต่ฉันยอมไม่ได้ ก็เลยเอาใบหย่าไปให้ดนัย เบื้องหลังเธอทุ่มเทให้กับเขาไปเท่าไหร่ ทิ้งงานของตัวเอง วันๆทำอาหารอยู่กับบ้าน”
“สุดท้ายเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น เขากลับเอาความรับผิดชอบทั้งหมดมาผลักไสให้เธอ เธอจัดเตรียมอาหารทุกวันตั้งแต่เช้าตรู่ วันไหนที่ยุ่งก็กลับบ้านดึกดื่น นี่ยังไม่เท่าไหร่ แล้วยังต้องมาเจอหน้าเขา มารับความเย็นชาของเขา ตอนที่เธออยู่เป็นเพื่อนผู้ป่วยเหล่านั้นเพื่อขอโทษเขาไปอยู่ที่ไหน?”
“เอ้อ เขากำลังสาละวนอยูกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ไง ทุกๆวันเธอเอาอาหารกลางวันไปให้เขาที่บริษัทโดยไม่ปริปากบ่นก็เพื่อที่จะมีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น จนเกิดอุบัติเหตุทางรถ ดีที่ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น ถ้าร้ายแรงกว่านี้อีกนิดเธอกคงไม่รอดหรอก!”
“แต่เขากลับไม่ให้เธอไปที่บริษัทอีก ฉันจะให้เขาทำแบบนี้กับเธอได้ไง ก็เลยเอาใบหย่าไปให้เขา ฉันตบเขาแล้วยังไม่พอ แล้วยังบอกความน้อยเนื้อต่ำใจที่เธอไม่ยอมพูดบอกกับเขาทั้งหมด….”
แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านไปสิบเดือนแล้ว แต่พอพูดขึ้นมา อารมณ์ของเชอร์รีนก็ยังคงมีความเซ็นซิทีฟอยู่มาก
เธอหยิบแก้วขึ้นมาจิบน้ำ แล้วพูดต่อว่า “แต่หลังจากที่ฉันพูดอย่างนั้นไป เขาไม่ยอมที่จะเซ็นหย่าอีก แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เซ็นไม่ใช่หรอ?”
“หลังจากที่เธอไป เขาเหมือนจะตกลงคบหากับเลขาคนนั้นที่เขารู้สึกดีด้วย ฉันได้ยินหัสดินพูดว่ามีครั้งนึงเห็นคนทั้งสองไปดูหนังด้วยกันที่โรงหนัง ฉันก็นึกว่าเขาเซ็นแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าจนป่านนี้เขากลับยังไม่เซ็น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง