พูดขึ้นมาก็ไม่มีแรง เพราะสองสามวันมานี้ไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้ใบหน้าทั้งหมดเป็นสีขาวซีด ไม่มีสีเลือดแม้แต่น้อย
ครั้งนี้ แม่ของเธอพูด “งั้นก็ช่างเถอะ บาร์บี้ บางทีเขาคงไม่ใช่คู่ของลูก
มือคว้าผ้าห่มไว้แน่น ในใจของบาร์บี้เป็นกับพายุในทะเล ราวกับคลื่นซัดเข้ามาบนโขดหิน น้ำได้ไหลโหมซัดสาด “แล้วยังไง จะให้ลูกช่างมันไปแบบนี้เหรอ?”
“ไม่งั้น แม่ว่ายังไงล่ะ”
“นานขนาดนี้ ลูกจะช่างมันเหรอ?”บาร์บี้จ้องที่เธอ ถามกลับอย่างไม่พอใจ
“ไม่อย่างนี้แล้วจะทำยังไง ลูกกับเขาไม่มีวาสนาต่อกัน ต่อให้ลูกเปิดใจทุ่มเทให้เขามาก แต่ตอนก็เห็นได้ชัดแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้”
บาร์บี้กัดริมฝีปากแน่นจนแตก จนถึงั้นฟันที่แหลมคมกัดจนเป็นรอยลึก
ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วอยู่อย่างเงียบๆ
แม่ของเธอไม่รู้ว่าในใจของเธอคิดยังไง เตรียมที่จะพูด เมื่อคิดไปคิดมาจึงช่างเถอะ แล้วเดินออกไป
ภายในห้อง เหลือเพียงบาร์บี้ที่เหลืออยู่
สองแขนของเธอกอดขาไว้ คางเกยเข่า ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร
หลังจากนั้นอยู่นาน เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาดนัย นัดเค้ามาเจอที่บลูเบย์ คาเฟ่
ดนัยปฏิเสธไปทันที ตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีความจำเป็นต้องเจอกันอีก
บาร์บี้กำโทรศัพท์แน่นขึ้นอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเธอราวกับถูกมีดกรีดเข้าอย่างรุนแรง
เนื้อนุ่มหมุนขึ้นลง เลือดที่ไหลเวียน ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถหยุดได้
หลังจากวางสาย ดนัยก็บอกความจริงกับนาโน “คือบาร์บี้โทรมานัดผมให้ไปเจอ ผมไม่ได้ตอบตกลง ต่อไปนี้ก็จะไม่ไปเจอกับเธออีก”
“ตอนนี้คุณเป็นแค่คนขับรถแล้วก็ผู้ช่วยของฉัน คุยกับฉันแค่เรื่องงานของคุณก็พอ ส่วนเรื่องส่วนตัวไม่จำเป็นต้องมารายงานฉัน หนึ่งคือฉันไม่ได้สนใจ สองก็คือเพราะมันรบกวนการทำงานของฉัน เข้าใจมั๊ย?”
ปากกาในมือของนาโนยังขยับไม่หยุด คำพูดตามอำเภอใจและตามใจชอบเป็นพิเศษ ไม่ใส่ใจเลย
“ผมไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เป้าหมายเดียวที่ทำให้ผมเป็นห่วงนั่นก็คือคุณจะเข้าใจผมผิดหรือเปล่า ผมเป็นห่วงแค่นี้ สนใจแค่จุดนี้ ที่เหลือผมไม่แคร์!”
ดนัยแสดงความคิดที่ซื่อตรงที่สุดออกมา
ไม่มีคำพูดต่อ นาโนขี้เกียจที่จะสนใจเขา แล้วทำงานต่อ
อดไม่ได้ ความรู้สึกผิดหวังในใจค่อยๆขึ้นมา ดนัยจัดเก็บภาพแบบอยู่ข้างๆ คิวที่คิ้วขมวดขึ้นระหว่างหน้าผากปรากฏให้เห็นถึงความเจ็บปวดใจ
เมื่อไม่เคยรู้มาก่อน ตอนนี้รู้ซึ้งได้ถึงประโยคที่ว่ากรรมใดใครก่อได้อย่างถ่องแท้
ในฐานะผู้ช่วย ตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ไม่ได้อยู่มากนัก
เมื่อมองไปที่นาโนพี่ยุ่งจนแม้แต่เวลาจะเงยหน้าขึ้นยังไม่มี ดนัยอยากช่วยเธอทำจริงๆเลย
แต่ตัวเองไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการออกแบบเลย จึงทำได้แค่มองเฉยๆ
ดังนั้น เมื่อฉากนี้ก็ขึ้นแล้ว เมื่อนาโนจ้องมองแบบวาดในมือโดยไม่ละสายตา
แต่ ดนัยจ้องมองที่เธออย่างว่างงาน
สายตาของเขานั้นร้อนผ่าว ราวกับว่าถูกไฟลุกโฮม แผดเผาทุกอย่างให้ละลาย จ้องมองเธอตาไม่กะพริบ
นาโนที่เดิมทีความสนใจจับจ้องอยู่กับแบบวาด แต่สายตาที่ร้อนผ่าวที่ผ่านมาจากด้านข้าง จึงทำให้สัมผัสได้อย่างชัดเจน
ในตอนแรกที่ไม่อยากจะสนใจเขา แต่เขาจองเธอราวกับเป็นรูปปั้น ถึงต่อให้หน้าหนาขนาดไหนก็ทนการถูกมองไม่ได้
ขมวดคิ้ว เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้น แต่จัดการยกกองสมุดขึ้นมา แล้วทุบไปที่เขา
ดนัยหลบไม่ทัน จึงโดนเข้าไปที่หางตาอย่างจังพอดี เจ็บจนเอามือปิดไว้ทันที
“ ถ้าคุณว่างไม่มีอะไรทำจริงๆก็ไปถูพื้นให้ฉัน ฉันจ่ายเงินเดือนให้คุณมากขนาดนี้ไม่ได้ให้คุณมานั่งเล่น”
เมื่อได้ยิน ดนัยก็ลุกขึ้น แล้วไปไม้ถูพื้นที่อยู่ด้านข้างมาถูพื้น
เมื่อก่อนเขาก็ทำงานอะไรแบบนี้ที่ไหน แต่ตอนนี้กลับสะอาดหมดจด เชื่อฟังเป็นพิเศษ
ถูพื้น เช็ดโต๊ะ หลังจากนั้นก็รถน้ำต้นไม้ที่อยู่ตรงข้างหน้าต่าง เค้ายุ่งอย่างมีความสุขมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง