ชายร่างกำยำสองคนลากกล่องรถเข็นขนาดใหญ่สี่กล่องเข้ามา แล้วเปิดกล่องรถเข็นออกเบื้องหน้ากองกำลังที่มารวมตัวกันเผยให้เห็นอาวุธปืนที่แน่นขนัดอยู่ภายใน
“ทุกคนได้อาวุธปืนสั้นและยาวอย่างละหนึ่งกระบอก ซองกระสุนคนละสี่อัน ส่วนทีมมีดสั้นให้พกระเบิดมือไปด้วย”
หลงเทียนสิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทุกคนก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับอาวุธปืนอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่ได้รับปืนแล้วก็เริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
หลงเทียนสิงหยิบปืนสั้นสองกระบอกมาเหน็บไว้ที่เอวเป็นคนสุดท้าย “ภารกิจครั้งนี้สำคัญมาก เป้าหมายของเราคือการจับเป็นหลี่โม่ ส่วนรายละเอียดแผนปฏิบัติการให้รอประกาศจากฉัน ขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่โซลกันก่อน”
“ครับ!”
หลงเทียนสิงนำกำลังคนออกจากสำนักทางประตูหลัง พวกเขาขึ้นรถมินิบัสของสำนักและมุ่งไปยังกรุงโซล
......
ใกล้ถึงเวลาเลิกงาน หวูผิงผิงก็มาถึงสำนักงานของกู้หยุนหลาน เธอเหลือบมองหลี่โม่ที่นั่งอยู่ในมุมของสำนักงานเล็กน้อย สายตาของหวูผิงผิงฉายแววดูถูกเหยียดหยามออกมาจาง ๆ
แม้ว่าเธอจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่ได้ติดต่อกับกู้หยุนหลานมาเป็นเวลานาน แต่หวูผิงผิงก็ติดตามกับข่าวคราวของกู้หยุนหลานมาตลอดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งก็เคยได้ยินเรื่องที่หลี่โม่เกาะผู้หญิงกินมาไม่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นที่หวูผิงผิงมาที่นี่ในครั้งนี้ก็เพราะได้รับการไหว้วานจากจางเจียต้ง ให้เธอช่วยพูดให้กับจางเจียต้งโดยเฉพาะ
“หยุนหลาน ไม่ได้เจอกันตั้งนานเธอก็ยังสวยมากเหมือนเดิมเลยนะ ทำเอาฉันรู้สึกอิจฉาสุด ๆ ไปเลย”
หวูผิงผิงแสร้งยิ้มพลางวางกุญแจรถเบนซ์ลงบนโต๊ะ
กู้หยุนหลานส่ายหัวพร้อมหัวเราะเล็กน้อย “เธอก็พูดเกินไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองแก่แล้วเนี่ย”
“ไม่หรอกน่า ถ้าเธอแก่ก็คงเป็นเพราะสามีของเธอไร้ประโยชน์เกินไปแน่ ๆ ได้ยินมาว่าที่สามีเธอเอาแต่เกาะเมียกินอย่างเดียว ต้องเลี้ยงลูกแล้วยังต้องเลี้ยงผู้ชายอีก ก็ต้องทำงานหนักเป็นธรรมดาแหละน่า”
หวูผิงผิงพุ่งเป้าไปที่หลี่โม่อย่างเยือกเย็น
กู้หยุนหลานเข้าใจแล้วว่าหวูผิงผิงหมายถึงอะไร เธอเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องในครอบครัวของฉันหรอก สามีของฉันจะทำงานหรือไม่ทำ มันก็เป็นเรื่องของเรา”
“โอ้โห แค่นี้ก็โกรธซะแล้ว สามีเธอเอาอะไรมาล่อให้เธอหลงกันนะ บ้านคนอื่นเขาสามีเลี้ยงดูภรรยากันทั้งนั้น แต่ทำไมของเธอกลับตรงกันข้ามเสียได้ล่ะเนี่ย”
หวูผิงผิงพูดจบก็เบะปากแล้วจ้องเขม็งไปยังหลี่โม่
หลี่โม่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกม ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของหวูผิงผิงเลยแม้แต่น้อย
“นี่คือสามีเกาะเมียกินคนนั้นของเธอสินะ วันนี้พาเขาไปร่วมงานเลี้ยงรวมรุ่นด้วยก็ดีเหมือนกันนะ ให้ทุกคนได้เห็นว่าคนไร้ประโยชน์มันสภาพเป็นยังไง บางทีมันอาจจะกระตุ้นให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ได้นะ”
“พอได้แล้ว อย่าพูดถึงหลี่โม่แบบนี้อีก”
กู้หยุนหลานมองหวูผิงผิงด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก
“โอเค ๆ ฉันไม่พูดถึงเขาแล้วก็ได้ มาพูดถึงเรื่องของฉันกันดีกว่า เธอดูสิว่าสามีของฉันดีกับฉันแค่ไหน เขาซื้อรถเบนซ์ เสื้อผ้า Chanel กระเป๋า Prada และเครื่องสำอางที่ดีที่สุดมากมายให้ฉัน ผู้หญิงน่ะ ควรต้องถูกผู้ชายรักและตามใจสิ ถ้าเขาไม่ซื้อของพวกนี้ให้เรา แล้วจะแสดงความรักของผู้ชายที่มีต่อเธอออกมายังไงกันล่ะ”
หวูผิงผิงพูดพล่ามไม่หยุด อีกทั้งยังดูแคลนหลี่โม่อย่างเปิดเผยและแอบแฝง
กู้หยุนหลานฟังจนเริ่มปวดหัว หลังจากเหลือบมองเวลาเล็กน้อยเธอก็ยืนขึ้นและพูดว่า “ได้เวลาเลิกงานแล้ว เราไปกันเถอะ"
“ถึงเวลาเร็วจัง ที่ฉันเพิ่งพูดไปเธอได้ฟังบ้างหรือเปล่า โบราณว่าไว้นะ หญิงสาวออกเรือนให้ได้กินดีอยู่สบาย เธอต้องคิดให้ถี่ถ้วนล่ะ ได้ยินมาว่าหัวใจของจางเจียต้งยังมีเธออยู่ เธอต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ดี ๆ นะ”
“ถ้าเธอยังไม่หยุด ฉันจะไม่ไปงานรวมรุ่นแล้วนะ”
กู้หยุนหลานพูดอย่างหมดหนทาง
หวูผิงผิงเม้มริมฝีปากพลางอดกลั้นสิ่งที่กำลังจะพูดออกมา ในใจคิดว่ารอให้ถึงงานรวมรุ่นเสียก่อน จากนั้นจะต้องมีคนที่เหยียดหยามสามีไร้ค่าของเธอแน่ ถึงตอนนั้นแล้วเธอจะปกป้องเขาได้อย่างไร
“ไม่พูดแล้วจ้า งั้นก็พาไอ้… สามีของเธอไปด้วยกันกับฉัน วันนี้นั่งรถเบนซ์ของฉันกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...