คุณชาย แห่ง ประตูมังกร นิยาย บท 670

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะประสบความสำเร็จและเพื่อจะเป็นคนชั้นสูงที่มีรากฐานมั่นคงในต่างประเทศ จางเจียต้งได้ทุ่มเทไปมากมาย แม้กระทั่งชีวิตและเลือดเนื้อของเขา เพื่อที่วันหนึ่งเขาจะสามารถยืนอยู่ต่อหน้ากู้หยุนหลานได้อย่างมั่นใจและสารภาพความรักที่เขามีต่อกู้หยุนหลาน พากู้หยุนหลานไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่ต่างประเทศ

แต่ตอนนี้ความพยายามที่ทุ่มเทไปทั้งหมดล้วนสูญเปล่าไปกับคำพูดของเพียงคำเดียวของกู้หยุนหลาน สายตาที่จางเจียต้งมองไปทางหลี่โม่ก็ยิ่งคุกรุ่นไปด้วยความโกรธแค้นขึ้นไปอีก

"หยุนหลาน! เธอรู้ไหมว่าฉันชอบเธอมาตลอด! เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไปต่างประเทศ! เธอรู้ไหมว่าฉันแลกเท่าไหร่เพื่อที่จะประสบความสำเร็จที่ต่างประเทศ! ทั้งหมดล้วนทำเพื่อเธอนะ!"

จางเจียต้งคำราม

กู้หยุนหลานส่ายหน้ามองไปยังจางเจียต้งที่กำลังโกรธเกรี้ยว เธอดึงหลี่โม่เข้ามาและพูดว่า “เราไปกันเถอะ”

“จะไปงั้นเหรอ? ไม่มีทาง! วันนี้กู้หยุนหลานต้องไปกับฉัน!”

จางเจียต้งพูดเสียงแข็งกร้าว

กู้หยุนหลานจูงมือหลี่โม่แล้วหันหลังจากไป แต่หลังจากที่เปิดประตูก็กลับตกตะลึง

ด้านนอกประตูมีชายร่างใหญ่ผมบลอนด์ตาสีฟ้ายืนอยู่สองคน ทั้งสองคนต่างกำลังควงมีดล่าสัตว์คมกริบอยู่ในมือ

สองคนนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “กรุณาเข้าไปข้างในเถอะครับ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายของเรา ก็ไม่มีใครออกจากที่นี่ได้ทั้งนั้น”

หวูผิงผิงเอ่ยอย่างเรียบเฉย “หยุนหลาน อย่าต่อต้านเลย ตอนนี้เจียต้งไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแล้ว เขามีอำนาจและความมั่งคั่งนะ เธอไปเสวยสุขที่ต่างประเทศกับเจียต้งดีกว่าน่า ทำไมจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับไอ้ขยะไร้ค่านี่ด้วย”

“พอได้แล้ว”

กู้หยุนหลานตวาด เธอมองไปที่จางเจียต้งแล้วพูดว่า “บอกให้คนของนายหลีกไปซะ พวกเราจะกลับแล้ว”

“อย่าแม้แต่จะคิด ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ ชีวิตฉันจำเป็นต้องมีเธอ! ครูว์ คาร์ล ฆ่าไอ้ขยะนั่นซะ!”

จางเจียต้งตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ครูว์มองไปที่หลี่โม่และพูดอย่างเหยียดหยาม “ผอมแห้งแรงน้อยแบบนี้ ไม่ถึงกับต้องให้เราทั้งสองคนตัดการหรอก ให้คาร์ลจัดการคนเดียวก็ได้แล้ว เขาเป็นถึงยอดฝีมือแห่งสังเวียนใต้ดินได้แชมป์ติดกันสิบสมัยเชียวนะ แม้แต่แชมป์มวยไทยก็ยังถูกเขาอัดจนน่วมมาแล้ว”

หวูผิงผิงและคนอื่น ๆ ต่างก็ฟังด้วยความตื่นเต้น ในสายตาของพวกเขานั้นแชมป์มวยไทยเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดแล้ว แต่กลับยังถูกคาร์ลอัดจนน่วม เช่นนั้นแล้วหลี่โม่จะไม่ถูกจัดการในเวลาเพียงชั่วพริบตาหรอกหรือ

“ช่างเป็นการเอามีดฆ่าวัวมาเชือดไก่จริง ๆ จะจัดการกับคนไร้ประโยชน์จำเป็นต้องใช้ยอดฝีมือแบบนี้ที่ไหนกัน เจียต้งควรจะให้พวกเราไปสั่งสอนไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นสิถึงจะถูก”

“นี่ ๆ ไอ้ขยะนี่นอนกับคนในใจของเจียต้งมาตั้งหลายปี เจียต้งคงอยากจะฆ่ามันมานานแล้ว ถึงไอ้ขยะนี่จะถูกทุบตีจนตายก็ถือว่ากำไรแล้ว ถึงยังไงมันก็ได้นอนกับกู้หยุนหลานมาแล้ว น่าอิจฉาจริง ๆ”

จางเจียต้งจ้องมองหลี่โม่ด้วยสายตาแค้นเคือง เป็นอย่างที่พวกเพื่อนร่วมรุ่นพูดจริง ๆ ในใจจางเจียต้งรู้สึกเกลียดชังหลี่โม่อย่างยิ่ง และคิดอยากจะฆ่าหลี่โม่ให้ตาย

นอกจากนี้ในใจของจางเจียต้งยังมีความลับอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังไม่ได้พูดออกมา เพื่อที่จะตั้งหลักแหล่งในต่างประเทศ จางเจียต้งได้เข้าร่วมในการทดลองลับทางพันธุกรรมและกลายเป็นเพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการดัดแปลงพันธุกรรม

ความสำเร็จของการดัดแปลงพันธุกรรมได้ทำให้ร่างกายของจางเจียต้งแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อในสภาวะอารมณ์โกรธ จางเจียต้งจะเข้าสู่วงจรการเปลี่ยนร่างชั่วคราว ในเวลานั้นจางเจียต้งจะยิ่งน่าหวาดผวาขึ้นไปอีก

ด้วยเหตุนี้เอง จางเจียต้งจึงสามารถมีตำแหน่งสถานะในปัจจุบันของเขาได้ ครูว์และคาร์ลที่ติดตามอยู่ข้างกายเขาก็เป็นคนที่ถูกองค์กรพิเศษส่งมาเพื่อปกป้องคุ้มครองจางเจียต้ง

ครูว์และคาร์ลเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน พวกเขาทั้งสองคนต่างผ่านการฝึกพิเศษมาแล้ว สมรรถภาพทางร่างกายของพวกเขานั้นเหนือกว่านักสู้ชั้นยอดทั่วไปอย่างมาก พวกเขาต่างมีความสามารถที่จะกวาดล้างหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้ด้วยกำลังของตัวเอง เป็นเครื่องจักรสังหารในร่างมนุษย์เลยก็ว่าได้

ครูว์ถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อสนับสนุนคาร์ล คาร์ลควงมีดล่าสัตว์ในมือ มุมปากแสยะยิ้มชั่วร้าย “คุกเข่าซะ แล้วฉันจะเก็บร่างแกเอาไว้ให้ครบสามสิบสอง ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดหัวแกมาเตะเล่นเป็นลูกบอลซะ”

หลี่โม่ยื่นมือออกมาปกป้องกู้หยุนหลานที่อยู่ข้างหลัง เขาหรี่ตามองคาร์ล “คนที่จะตายมีแค่สวะอย่างแกเท่านั้นแหละ”