คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ! นิยาย บท 21

เมื่อฌอนกลับถึงบ้านหลังจากการวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า เขารู้สึกตกใจเมื่อพบว่ามีอาหารมากมายอยู่บนโต๊ะอาหารราวกับมีงานเลี้ยงใหญ่โต

“คุณ...”

“ฌอนนี่ ฉันรู้สึกแย่ที่คุณกินพูดดิ้งสำหรับแมวเข้าไปเมื่อคืนนี้ ดังนั้นฉันจึงทำอาหารเช้าเหล่านี้ให้กับคุณ” แคทเธอรีนพูดขึ้นด้วยความสำนึกผิดขณะที่เธอเสิร์ฟข้าวโอ๊ตต้มให้กับเขา

ความรู้สึกแปลกใจแสดงออกมาทางสีหน้าของเขา “ไม่เป็นไร เมื่อคืนคุณเองก็ถูกทำโทษไปแล้วนี่”

เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจ “ความจริงแล้วเมื่อคืนฉันรู้สึกคลื่นไส้มากที่ต้องกินอาหารแมว” เธอกลับอย่างช้า ๆ ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา

เขาหลบสายตาโดยไม่ได้พูดอะไรอีก

“คุณกำลังจะไปทำงานใช่ไหม? ให้ผมไปส่งที่สถานีรถไฟใต้ดินไหม?” เขาถามก่อนที่จะเดินตรงไปที่ประตูหลังจากที่เขารับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

แคทเธอรีนรู้สึกตกใจ ทว่าในไม่ช้าเธอก็ส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันถูกไล่ออกค่ะ” มีความเศร้าเจือปนอยู่ในน้ำเสียงของเธอ

เขาขมวดคิ้วของเขาอย่างเห็นได้ชัด เขาได้รับรายงานว่าเธอทำงานที่บริษัทของครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและตระกูลโจนส์ดูค่อนข้างตึงเครียด “เข้าใจแล้ว คุณตั้งใจดูแลเจ้าฟัดจ์ที่บ้านก็แล้วกันนะ”

บ้าไปแล้ว เธอจะไม่เสียเวลานั่งเฝ้าแมวหรอกนะ

“ฉันวางแผนจะหางานอื่นทำค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ฉันจะไม่ให้มันกระทบกับการดูแลฟัดจ์ค่ะ”

“แล้วแต่คุณ” เขาพึมพำตอบและออกจากบ้าน

...

ในอีกหลายวันต่อมา แคทเธอรีนยังคงยุ่งกับการหางานทำ

มีโอกาสมากมายสำหรับนักออกแบบภายในและงานที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม อย่างไรก็ตาม เพื่อปิดบังฐานะคุณหนูของตระกูลโจนส์ เธอจึงต้องเก็บประสบการณ์ทำงานก่อนหน้านี้ของเธอเอาไว้เป็นความลับ

นอกจากนี้ บริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ก็เต็มใจที่จะจ้างเธอในตำแหน่งผู้ช่วยเท่านั้น เนื่องจากเธออายุยังน้อย

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว เธอจึงเลือกที่จะทำงานกับบริษัทเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า อิมพีเรียล ดีไซน์

ทั้งสำนักงานมีพื้นที่น้อยกว่าหนึ่งร้อยตารางฟุต มีนักออกแบบสองคนที่ดูแลทุกอย่างรวมไปถึงการวางแผนออกแบบและแจกแผ่นพับโฆษณาที่ด้านนอกสำนักงาน

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำงานแบบนี้ เธอรู้สึกค่อนข้างประหม่าในตอนแรก ทว่าในไม่ช้าก็สามารถทำงานได้ตามปกติ

ผู้สัญจรไปมาบางคนรับใบปลิวของเธอ แต่บ่อยครั้งที่ผู้คนเดินผ่านเธอไปราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อและแก้มทั้งสองข้างของเธอก็เป็นสีแดงก่ำเพราะความร้อน

แม้ว่านี่จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ทว่าวันนี้อากาศกลับร้อนผิดปกติ

คนอื่น ๆ เดินผ่านโดยไม่สนใจเธอ ทันใดนั้นเอง รถ Lamborghini สีดำ ก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ

เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ มันคือรถของอีธาน

“เคธี่ ทำไมเธอถึงมาแจกใบปลิวอยู่แถวนี้...” รีเบคก้าก้าวออกมาจากที่นั่งด้านข้างของคนขับ

แคทเธอรีนรู้สึกจุกที่กลางอกของเธอ เมื่ออีธานเคยพูดว่าที่นั่งในรถข้าง ๆ เขา เป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ย้อนแย้งจริง ๆ!

“แล้วจะให้ฉันไปแจกที่ไหน? ซัมมิทเหรอ?” คำพูดของเธอไม่มีความสนใจใยดีแม้แต่น้อย

รีเบคก้าเม้มริมฝีปากของเธอราวกับเธอไม่สบอารมณ์นัก “ฉันไม่ได้หมายความว่า...”

“น้ำเสียงแบบนั้นคืออะไร? พี่สาวของคุณเป็นห่วงคุณนะ” จู่ ๆ อีธานก็ลงมาจากรถและกระแทกประตูรถปิดตามหลังของเขา “รู้ตัวเอาไว้ด้วย คุณเป็นคุณหนูของตระกูลโจนส์ คุณไม่ละอายแก่ใจบ้างหรือไง?”

แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นเพียงเพื่อเห็นความรังเกียจบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ความเจ็บปวดท่วมท้นหัวใจของเธอราวกับโดนมีดแทงเข้าไปในหัวใจของเธอ

“ทำไมฉันจะต้องอายด้วย? งานแจกใบปลิวของฉันเป็นงานที่สุจริต ไม่ใช่ว่าฉันไปขโมยของของคนอื่นมานี่”

“อีธานไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น เขาคิดว่าเธอไม่ควรทำแบบนี้ เคธี่กลับไปที่ซัมมิทเถอะนะ” รีเบคก้าพูดขึ้นทันที “ดูสิ เราเพิ่งทำการปรับปรุงข้อตกลงใหม่กับนักพัฒนาจากแมนดาริน การ์เด้น เกี่ยวกับสตูดิโอสุดหรูของพวกเขา เรากำลังตกลงกันเรื่องห้องสวีทมากกว่าหนึ่งพันห้อง ดังนั้นผลกำไรคงจะมากมายหลายล้าน มาช่วยฉันเถอะนะ ไม่ใช่ว่าพวกเราพี่น้องควรจะร่วมมือกันพัฒนาให้ซัมมิทดีขึ้นเหรอ?”

แคทเธอรีนที่รู้สึกไม่สบายตัวจากการจากตากแดดร้อนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว เริ่มรู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น “เธอไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างเลยเหรอที่ต้องเสแสร้งอยู่ตลอดเวลา? ช่วยอยู่ห่าง ๆ ฉันได้ไหม? ฉันไม่ได้แรงที่จะสร้างความบันเทิงให้เธอ”

“พอกันที” อีธานตะคอกใส่เธอด้วยความรำคาญ “รีเบคก้าให้ความช่วยเหลือเธอด้วยความห่วงใย แต่เธอกลับมองพี่สาวของเธอในแง่ร้าย เธอนี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ“

“ฉันเหรอ?” แคทเธอรีนแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน “คุณตาบอดหรืออย่างไรถึงไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหน? เราจะต้องถูกแยกออกจากกันเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ?”

“รีเบคก้ารักผมมาก แล้วคุณล่ะ? คุณเอาแต่โทษเราทั้งสองคนกับเรื่องเกิดขึ้น แต่คุณก็ไม่ได้รักผมเหมือนที่เธอรัก”

“ไม่เป็นไร ความรักของฉันเทียบกับของเธอไม่ได้ ไปได้แล้ว ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้” แคทเธอรีนไม่สามมารถคุมสติได้อีกแล้ว และเขวี้ยงแผ่นพับใส่พวกเขาทั้งสองคน

“ผู้หญิงบ้า!” อีธานก้าวขึ้นมาขวางรีเบคก้าเอาไว้ และดันผู้หญิงคนนั้นให้ออกห่างจากพวกเขา

แคทเธอรีนสูญเสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้น แผ่นพับหล่นกระจายลงเต็มพื้น

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น อีธานก็จับมือรีเบคก้าขึ้นรถไปแล้ว

รีเบคก้าหันมามองน้องสาวของเธอด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย

รถ Lamborghini ขับห่างออกไปไกล แคทเธอรีนรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสราวกับถูกถลกหนังทั้งเป็น

เธอคิดไม่ถึงว่าอีธานจะเข้าข้างรีเบคก้าแบบนี้ แม้กระทั่งตั้งใจทำให้เธอเจ็บปวดเพราะรีเบคก้า

เห็นได้ชัดว่านับวันระยะห่างระหว่างพวกเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น

แคทเธอรีนไม่เคยรู้สึกพ่ายแพ้เช่นนี้มาก่อน ทว่าในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว

...

ฌอนเพิ่งขับรถออกจากศาล ขณะที่รอสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว เขาสังเกตเห็นว่าบริเวณข้างทางมีใบปลิวหล่นกระจายอยู่เต็มพื้น ผู้หญิงที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกำลังก้มตัวลงเก็บใบปลิวขึ้นมาทีละใบ

เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเขานึกขึ้นมาได้ว่าแคทเธอรีนได้สวมเสื้อผ้าชุดเดียวกันนี้ออกจากบ้าน ก่อนที่เขาจะออกจากบ้านเมื่อเช้านี้

เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขากลับรถและจอดรถของเขาไว้ที่ข้างถนน เขาเดินตรงไปหาผู้หญิงคนนั้น พลางก้มลงหยิบใบปลิวยื่นให้

“อย่ามายุ่งกับฉัน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้นด้วยความคิดที่ว่าเป็นอีธานที่กลับมา “ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณ...”

เธอเงยหน้าขึ้นมา แม้ว่าการมองเห็นของเธอจะไม่ชัดด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นในดวงตาของเธอ ทว่าความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เมื่อเธอจำลักษณะท่าทางที่ดูสมาร์ทนั้นได้

“ฌอน... ฮิลล์”

เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอชอบเรียกเขาว่า ‘ฌอนนี่’ และมันรู้สึกแปลกที่ได้ยินเธอเรียกเขาด้วยชื่อเต็มแบบนี้

“ใครทำให้คุณเสียใจ?” เขาสังเกตเห็นคราบน้ำตารอบดวงตาที่บวมแดงของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอร้องไห้

ผู้หญิงคนนี้แสดงความอวดดีต่อหน้าเขาเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอร้องไห้

ด้วยความผิดหวัง แคทเธอรีนกัดริมฝีปากขณะที่เธอก่นด่าเขาในใจ ‘สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะหลานที่โง่เขลาของคุณนั่นแหละ พวกเขาไม่ได้สอนมารยาทในครอบครัวให้อย่างนั้นหรือ? เขาเห็นแก่ตัว ไม่มีความซื่อสัตย์ และห่วยแตกสิ้นดี

อย่างไรก็ตาม เธอรู้ดีเกินกว่าจะพูดความจริง “ฉัน... มีคนโยนใบปลิวของฉันทิ้งค่ะ” เธอตอบด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้า

มีความตกใจปรากฏขึ้นบนสีหน้าของฌอน ขณะที่มองไปที่ใบปลิวในมือของเขา

เขาคิดไม่ถึงว่าหน้าที่ใหม่ของเธอคือ การแจกใบปลิวบนถนน เขาสืบเรื่องของเธอได้ความว่าผู้หญิงคนนี้เติบโตขึ้นมาด้วยการถูกประคบประหงมและการถูกตามใจ

“คุณบอกว่าคุณจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ แต่นี่คืองานที่คุณทำอย่างนั้นเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!