คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 130

มณิกาเอี้ยวหัวไป ส่งสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งมองไปทางวายุ แล้วโกหกออกไป "หนูไม่ทราบค่ะ คุณย่าลองโทรถามเขาดูสิคะ"

"อ่า ได้เลย ๆ หนูเมื่อไหร่จะมีเวลาว่าง มาอยู่เป็นเพื่อนหญิงชราคนนี้หน่อยสิ ตั้งแต่ที่ช่วยฉันครั้งที่แล้วจนตอนนี้มันก็เดือนกว่าแล้ว มีแค่เมื่อหลายวันก่อนที่เพิ่งจะได้เจอหน้าหนู ทำไมถึงได้ยุ่งขนาดนี้ทุกวันเลย?"

น้ำเสียงของนายหญิงเนตรเป็นมิตรเป็นกันเองอย่างมาก

"งั้นเย็นนี้หนูจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าดีมั้ยคะ?"

"ดี ๆ งั้นตกลงตามนี้นะ"

"ค่ะ คุณย่า เย็นนี้เจอกันค่ะ"

มณิกาวางสายไป รู้สึกเพียงแค่ว่าวันนี้นายหญิงเนตรดูแปลก ๆ

"มีอะไร?" วายุสังเกตเห็นสายตาของมณิกาผิดไป จึงได้ถามออกไป

มณิกาส่ายหน้าไม่ได้พูดอะไรออกมา รอนายหญิงเนตรโทรหาวายุไปเงียบ ๆ แต่รออยู่นานก็ไม่มีสายของนายหญิงเนตรโทรเข้ามาเลย

เธอไม่ใช่ว่าจะหาวายุอยู่หรือไง ทำไมถึงไม่ติดต่อมาหาเขา?

"เอ่อ โทรศัพท์ของคุณ ยังมีแบตอยู่หรือเปล่า?" มณิกาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าโทรศัพท์ไม่มีแบต สายของนายหญิงเนตรก็ควรจะโทรเข้ามาแล้ว

"มี"

"อ้อ..." มณิกาก้มหัวลงไปเล็กน้อย แล้วจมอยู่ในความคิด ในทันใดนั้นเองก็นึกอะไรขึ้นมาได้อีก จึงถามออกไป "คุณย่าฉลองวันเกิดเมื่อไหร่?"

"อีกหนึ่งเดือนกับหกวัน"

"งั้นก็เป็นวันที่ยี่สิบสี่ เดือนสิงหา ตามปฏิทินจันทรคติสินะ"

มณิกาคำนวณเวลาตามที่วายุบอกมาดู แล้วนึกถึงตอนที่เธอช่วยนายหญิงเนตรเมื่อครั้งที่แล้ว นายหญิงเนตรบอกว่าอีกสองเดือนเธอจะฉลองวันเกิด

ถ้าตามเวลาที่นายหญิงเนตรบอกมา อีกไม่กี่วันก็เป็นวันเกิดของเธอ แต่วายุกลับบอกว่าอีกเดือนนึง ส่วนตระกูลเดชากุลจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย

อย่างนี้แล้ว ครั้งที่แล้วนายหญิงเนตรพูดผิดงั้นเหรอ?

แล้วก็ยังมีเมื่อหลายวันก่อนอีก เธอไปที่บ้านเก่าตระกูลเดชากุล นายหญิงเนตรเห็นเธอแล้วบอกว่าไม่ได้เจอเธอมาเดือนนึงแล้ว แต่ความจริงแล้วหลังจากที่เธอได้ช่วยนายหญิงเนตรไป ก็ไม่ได้เจอกันมาเกินครึ่งเดือนไปแล้ว

แล้วก็เมื่อกี้อีก เห็นได้ชัดว่าลูกสาวคนเล็กของเธอได้เสียไปสิบปีแล้ว ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก?

"เธอกำลังคิดอะไรอยู่?"

วายุสังเกตเห็นว่าสีหน้าของมณิกาผิดไปเล็กน้อย จึงซักถามเธอออกไป

"ฉันคิดว่า..." มณิกาลังเลชั่วขณะนึง เห็นสีหน้าวายุดูจริงจังออกมา สายตาดูเป็นกังวลอย่างมาก "ช่างเถอะ ไม่มีอะไร เมื่อกี้คุณย่าเรียกหาคุณ คุณโทรกลับไปหาท่านหน่อยเถอะ"

บางคำพูด ก่อนที่จะได้พิสูจน์ดู มณิกาก็ไม่อยากจะคาดเดาไปมั่ว ๆ ช่วงนี้ก็เลือกที่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนนายหญิงเนตรลองจับตาดูสักหน่อยแล้วค่อยยืนยันอีกทีก็ไม่มีปัญหา

ต่อมาวายุก็ได้โทรกลับไปหานายหญิงเนตร อีกฝ่ายเหมือนกับไม่ได้มีธุระอะไร จึงถามไปสองประโยคแล้ววางสายไป

รถค่อย ๆ ขับมาถึงใจกลางเมืองอย่างช้า ๆ ในทันใดนั้นเองวายุก็ได้เอ่ยปากพูดออกมา "เลี้ยงฉันกินอะไร?"

มณิกาคิดไปแป๊บนึง เห็นร้านอาหารเช้าที่ข้างทาง แล้วพูดกับนภัทรออกไป "ผู้ช่วยนภัทร รบกวนช่วยจอดรถที่ข้างทางสักหน่อยค่ะ"

"เอ๋ ได้ครับ คุณมณิกา"

นภัทรตอบรับออกมา แล้วก็ได้หมุนพวงมาลัย จอดรถลงข้างทาง

"คุณรอฉันอยู่ที่บนรถนะ ฉันจะไปซื้อมาให้คุณ"

มณิกาพูดกับวายุไปประโยคนึง แล้วเปิดประตูตรงไปที่ร้านอาหารเช้าที่อยู่ตรงข้ามถนน

หลังจากผ่านไปหลายนาที สาวน้อยก็ได้หิ้วของมา ข้ามถนนไปอย่างระมัดระวัง กลับขึ้นไปบนรถ ปิดประตูรถลง

"นี่ดูสิ มื้อเช้าของคุณ"

และของกินเล่นที่แผงลอยข้างทางอาจจะไม่ได้สะอาดนัก แต่คนเราก็กินธัญพืชหลากหลายชนิด เลยไม่ได้กังวลเรื่องพวกนี้

"พรุ่งนี้เป็นต้นไป กินข้าวจะเก็บเงิน"

วายุกินไข่ใบชาในมือเสร็จ ดื่มน้ำเต้าหู้ไปพลางพูดกับมณิกาไปพลาง"

มณิกาที่กำลังกินไข่ใบชาอยู่ก็ได้หยุดนิ่งไป แล้วก็ได้รู้สึกว่าไข่ใบชาในมือมันไม่อร่อยขึ้นมาทันที

คิ้วสวยของเธอไปบิดเข้าด้วยกัน หน้าบึ้งถามออกไปด้วยความไม่พอใจ "มีสิทธิ์อะไร? ตกลงกันแล้วว่าจะไม่เก็บเงิน ทำไมถึงจะผิดสัญญา?"

"แก้หน่อย ที่ฉันบอกก็คือ "ดูที่การประพฤติตัวของคุณ" ต่างหาก"

ใบหน้าชายหนุ่มได้เผยรอยยิ้มออกบาง ๆ ไม่ชัดนัก

เมื่อวันนั้นแท้จริงแล้ววายุได้บอกมณิกาไปว่า อยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา กินโจ๊กไม่เก็บเงิน แต่...ขีดเน้นเอาไว้ว่า: ต้องดูการประพฤติตัวแล้วค่อยการตัดสินใจ

นั่นก็คือว่า วายุได้สงวนสิทธิ์ของการตีความเอาไว้หมดแล้ว

"การประพฤติตัวของฉันมันยังไม่ดีพอ? เลี้ยงอาหารเช้าคุณ ซื้ออาหารเช้าให้คุณ มีปัญหา?"

"อาหารเช้าสามหยวน ดีมากเลย?"

มันก็ดีกว่าไม่มีจะกินเยอะเลยไม่ใช่หรือไง"

มณิกาโกรธเคืองขึ้นมาไม่หยุด

ดูสิ คนอะไรกันน่ะ ให้กินก็ดีแล้ว ไม่เพียงจะไม่รู้สึกขอบคุณแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะยังรังเกียจอีก

ภายในใจของเธอไม่สบอารมณ์อย่างมาก จึงได้เสริมไปอีกประโยคนึง "ในเมื่อไม่อยากกิน ก็ไม่ได้มีใครบังคับให้คุณกินนี่ มีปัญญาคุณก็อ้วกมาสิ!"

"พรืด แค่กแคก...อุ๊บ..."

นภัทรที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับกำลังกินไข่ใบชาอยู่ ตอนที่กำลังเคี้ยวไข่แดงอยู่ มณิกาพูดออกมาประโยคหนึ่งจนนภัทรรู้สึกขำขึ้นมา เขาได้กลืนไข่แดงลงไปทันที จุกอยู่ที่ในลำคอ สำลักจนหายใจไม่ทันขึ้นมาเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า