มณิกาเอี้ยวหัวไป ส่งสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งมองไปทางวายุ แล้วโกหกออกไป "หนูไม่ทราบค่ะ คุณย่าลองโทรถามเขาดูสิคะ"
"อ่า ได้เลย ๆ หนูเมื่อไหร่จะมีเวลาว่าง มาอยู่เป็นเพื่อนหญิงชราคนนี้หน่อยสิ ตั้งแต่ที่ช่วยฉันครั้งที่แล้วจนตอนนี้มันก็เดือนกว่าแล้ว มีแค่เมื่อหลายวันก่อนที่เพิ่งจะได้เจอหน้าหนู ทำไมถึงได้ยุ่งขนาดนี้ทุกวันเลย?"
น้ำเสียงของนายหญิงเนตรเป็นมิตรเป็นกันเองอย่างมาก
"งั้นเย็นนี้หนูจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าดีมั้ยคะ?"
"ดี ๆ งั้นตกลงตามนี้นะ"
"ค่ะ คุณย่า เย็นนี้เจอกันค่ะ"
มณิกาวางสายไป รู้สึกเพียงแค่ว่าวันนี้นายหญิงเนตรดูแปลก ๆ
"มีอะไร?" วายุสังเกตเห็นสายตาของมณิกาผิดไป จึงได้ถามออกไป
มณิกาส่ายหน้าไม่ได้พูดอะไรออกมา รอนายหญิงเนตรโทรหาวายุไปเงียบ ๆ แต่รออยู่นานก็ไม่มีสายของนายหญิงเนตรโทรเข้ามาเลย
เธอไม่ใช่ว่าจะหาวายุอยู่หรือไง ทำไมถึงไม่ติดต่อมาหาเขา?
"เอ่อ โทรศัพท์ของคุณ ยังมีแบตอยู่หรือเปล่า?" มณิกาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าโทรศัพท์ไม่มีแบต สายของนายหญิงเนตรก็ควรจะโทรเข้ามาแล้ว
"มี"
"อ้อ..." มณิกาก้มหัวลงไปเล็กน้อย แล้วจมอยู่ในความคิด ในทันใดนั้นเองก็นึกอะไรขึ้นมาได้อีก จึงถามออกไป "คุณย่าฉลองวันเกิดเมื่อไหร่?"
"อีกหนึ่งเดือนกับหกวัน"
"งั้นก็เป็นวันที่ยี่สิบสี่ เดือนสิงหา ตามปฏิทินจันทรคติสินะ"
มณิกาคำนวณเวลาตามที่วายุบอกมาดู แล้วนึกถึงตอนที่เธอช่วยนายหญิงเนตรเมื่อครั้งที่แล้ว นายหญิงเนตรบอกว่าอีกสองเดือนเธอจะฉลองวันเกิด
ถ้าตามเวลาที่นายหญิงเนตรบอกมา อีกไม่กี่วันก็เป็นวันเกิดของเธอ แต่วายุกลับบอกว่าอีกเดือนนึง ส่วนตระกูลเดชากุลจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย
อย่างนี้แล้ว ครั้งที่แล้วนายหญิงเนตรพูดผิดงั้นเหรอ?
แล้วก็ยังมีเมื่อหลายวันก่อนอีก เธอไปที่บ้านเก่าตระกูลเดชากุล นายหญิงเนตรเห็นเธอแล้วบอกว่าไม่ได้เจอเธอมาเดือนนึงแล้ว แต่ความจริงแล้วหลังจากที่เธอได้ช่วยนายหญิงเนตรไป ก็ไม่ได้เจอกันมาเกินครึ่งเดือนไปแล้ว
แล้วก็เมื่อกี้อีก เห็นได้ชัดว่าลูกสาวคนเล็กของเธอได้เสียไปสิบปีแล้ว ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก?
"เธอกำลังคิดอะไรอยู่?"
วายุสังเกตเห็นว่าสีหน้าของมณิกาผิดไปเล็กน้อย จึงซักถามเธอออกไป
"ฉันคิดว่า..." มณิกาลังเลชั่วขณะนึง เห็นสีหน้าวายุดูจริงจังออกมา สายตาดูเป็นกังวลอย่างมาก "ช่างเถอะ ไม่มีอะไร เมื่อกี้คุณย่าเรียกหาคุณ คุณโทรกลับไปหาท่านหน่อยเถอะ"
บางคำพูด ก่อนที่จะได้พิสูจน์ดู มณิกาก็ไม่อยากจะคาดเดาไปมั่ว ๆ ช่วงนี้ก็เลือกที่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนนายหญิงเนตรลองจับตาดูสักหน่อยแล้วค่อยยืนยันอีกทีก็ไม่มีปัญหา
ต่อมาวายุก็ได้โทรกลับไปหานายหญิงเนตร อีกฝ่ายเหมือนกับไม่ได้มีธุระอะไร จึงถามไปสองประโยคแล้ววางสายไป
รถค่อย ๆ ขับมาถึงใจกลางเมืองอย่างช้า ๆ ในทันใดนั้นเองวายุก็ได้เอ่ยปากพูดออกมา "เลี้ยงฉันกินอะไร?"
มณิกาคิดไปแป๊บนึง เห็นร้านอาหารเช้าที่ข้างทาง แล้วพูดกับนภัทรออกไป "ผู้ช่วยนภัทร รบกวนช่วยจอดรถที่ข้างทางสักหน่อยค่ะ"
"เอ๋ ได้ครับ คุณมณิกา"
นภัทรตอบรับออกมา แล้วก็ได้หมุนพวงมาลัย จอดรถลงข้างทาง
"คุณรอฉันอยู่ที่บนรถนะ ฉันจะไปซื้อมาให้คุณ"
มณิกาพูดกับวายุไปประโยคนึง แล้วเปิดประตูตรงไปที่ร้านอาหารเช้าที่อยู่ตรงข้ามถนน
หลังจากผ่านไปหลายนาที สาวน้อยก็ได้หิ้วของมา ข้ามถนนไปอย่างระมัดระวัง กลับขึ้นไปบนรถ ปิดประตูรถลง
"นี่ดูสิ มื้อเช้าของคุณ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า