เห็นเพียงมือข้างหนึ่งของนภัทรกุมอยู่ที่คอ มืออีกข้างหนึ่งจับที่นั่งข้างคนขับไว้แน่น นั่งลงข้างๆ ด้วยสีหน้าแดงก่ำ เส้นเอ็นบริเวณหน้าผากรัดตึง ทำให้คนรู้สึกกลัว
มณิการู้สึกตกใจเพราะเขา แต่ก็ไม่ได้ลังเล ยื่นน้ำเต้าหู้ที่อยู่ในมือให้กับนภัทร"ผู้ช่วยนภัทร คุณดื่มน้ำเต้าหู้สักหน่อยเถอะค่ะ"
นภัทรเหลือบมองมณิกาครู่หนึ่ง และเหลือบมองน้ำเต้าหู้ที่อยู่ในมือของเธอ ด้วยสีหน้าต่อต้าน
"ฉันยังไม่ได้ดื่มค่ะ"
เธอพูดขึ้นว่ายังไม่ได้ดื่ม นภัทรจึงยกน้ำเต้าหู้ดื่มอึกใหญ่แล้วค่อยๆ คลายลง
พลางสูดหายใจยาวผ่อนคลายหนึ่งที และยื่นมือออกไปตบที่หน้าอก"เฮ้อ เกือบตาย"
"ให้ตายเถอะ!"
มณิกาพูดกับนภัทร"คนเหมือนกันมักเป็นพวกเดียวกันจริงๆ เหมือนเจ้านายไม่มีผิด ใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังจะมารังเกียจอีกว่าฉันดื่มน้ำเต้าหู้นี้แล้วหรือยัง คนอะไรนี่!"
"เหอะๆๆๆ ขอบคุณคุณมณิกา"
นภัทรยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนใจ ขอบคุณมณิกาที่ยื่นน้ำเต้าหู้แก้วนั้นมาช่วยชีวิตเขาได้ทัน
ก้นบึ้งของหัวใจเขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า ต่อไปจะไม่กินไข่ต้มชาอะไรนั้นอีกต่อไป
เขาสตาร์ทรถแล้วค่อยๆ ขับไปข้างหน้า
มณิกานั่งอยู่ด้านหลัง มองไปยังวายุที่สัปหงกอยู่ พบว่าผู้ชายคนนี้ยิ่งดูยิ่งเหมือนเด็ก ก็แค่เลี้ยงอาหารเช้าเขาแค่สามหยวนไม่ใช่เหรอ ทำไมยังจะต้องเห็นเป็นบุญคุณด้วย
เธอยื่นมืออออกไปลูบจมูก ครุ่นคิดพลางพูดขึ้นว่า:"ที่จริงแล้วร้านข้างทางอร่อยจำนวนมาก เช่น วุ้นเส้นหมาล่า ซาวข่าว หมาล่าทั่งเป็นต้น ถ้างั้น......พรุ่งนี้ฉันพาคุณไปกิน?"
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง หางตาเหลือบมองไปยังมณิกา"หมาล่าทั่งราคาสามหยวน?"
"อะไร สาม......ฮ่าๆๆ ......"
คำพูดประโยคเดียวของเขาทำให้มณิการู้สึกขำ"ฮ่าๆๆ......"
หัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนต้องเอามือกุมที่หน้าท้อง แล้วตบที่หน้าขาอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์
การหัวเราะอย่างประหลาดนี้ ทำให้วายุกับนภัทรรู้สึกงงงวย ไม่เข้าใจว่ามีอะไรกระตุ้นมณิกากันแน่
คนคนหนึ่งหันข้างมองไปที่เธอ คนอีกคนหนึ่งมองเธอผ่านกระจกหลัง มณิกาจึงค่อยๆ หุบยิ้มแล้วพูดขึ้นเสียงเบาว่า:"คำพูดบางอย่างจะพูดส่งเดชไม่ได้"
"อ่า?"
วายุงงงวย
"เกี่ยวกับหมาล่าทั่งนั้นเป็นมุขตลกนึง ที่บอกว่าจะพาคุณไปกินหมาล่าทั่งสามหยวนนั้นก็คือ ที่จริงก็คือ......ช่างเถอะ ไม่เป็นไร "
เรื่องบางอย่าง'ฟังไม่ได้'ไม่พูดออกมาน่าจะดีกว่า (*มีข่าวที่หญิงสาวคนนึงไปหาแฟนในต่างเมือง แฟนเลี้ยงหมาล่าทั่งราคาหกหยวนแล้วคืนนั้นได้มีเซกส์กับหญิงสาวตั้ง 13 ครั้ง จึงมีประโยคฮิตในโซเชียลหลายประโยค ว่า'เลี่ยงคุณหมาล่าทั่ง' 'หมาล่าทั่งหกหยวน' 'หกหยวนทำ 13 ครั้ง'... มีความหมายแผงว่าเชิญนอนด้วยกัน)
เธอโบกมือ"ไม่ต้องสนใจหรอกว่าหมาล่าทั่งจะราคากี่หยวน พรุ่งนี้ฉันจะพาคุณไปกินให้อิ่มเลย"
เพื่อที่ต่อไปจะได้กินอาหารเช้าฟรีในอนาคต มณิกาจึงทำได้เพียงอดทน แล้วค่อยเชิญวายุกินอาหารเย็น
วายุไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป ทั้งสามกลับมายังอพาร์ทเม้นท์ทิวกาล
หลังจากที่กลับมาถึงคอนโด นิอรก็ไปทำงานแล้ว มณิกาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทักทายวายุ"ฉันไปทำงานแล้วนะคะ บ๊ายบาย"
เธอยืนอยู่ที่ด้านหน้าห้องรับแขก พลางตะโกนบอกวายุที่อยู่ในห้องนอนเสียงดัง
ผลก็คือเมื่อคำพูดสิ้นสุดลง วายุที่สวมใส่เสื้อสูทสีเทาเข้มก็เปิดประตูออก เขาเดินตัวตรงออกมา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเย็นยะเยือก ราวกับเทพที่สูงเกินเอื้อม หล่อเหล่าไม่ธรรมดา
บุคลิกลักษณะไม่ธรรมดาของชายคนนี้ แม้จะมองเพียงครู่เดียว ก็ยังรู้สึกเกิดความสุขทั้งสายตาและจิตใจ
มณิกามองวายุอย่างไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น แต่กลับถูกเสน่ห์ของใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดึงดูดจนต้องตกหลุมพราง
ผู้ชายบ้าคนนี้ ทำไมถึงได้หล่อขนาดนี้นะ?
เวลาสร้างคนเทพนฺหวี่วก็ต้องเอนเอียงบ้างล่ะ
"เดี๋ยวผมไปส่งคุณ"
วายุพูดขึ้น
"ถ้างั้นก็ดีเลย ประหยัดเงิน"
เธอยิ้มหัวเราะฮ่าๆ
ยากมากที่ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว ไม่มีข้อขัดแย้ง
วายุรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
นภัทรขับรถไปด้วยพลางอธิบายไปด้วย:"หลังจากที่บริษัทเครื่องมือแพทย์เจริญกิจจำกัด เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทรุ่งเรืองภพแล้ว ผู้บริหารบริษัทระดับสูงก็ได้เปลี่ยนคนในองค์กรขนาดใหญ่ จู่ๆ คุณชายเหนือเมฆก็รู้สึกฮึกเหิม ไม่รู้เหมือนกันว่าใช่สิ่งที่เรียกว่า'การต่อสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความพึงพอใจของตน'ไหม"
"ผู้ช่วยนภัทร คุณพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ตอนนี้เหนือเมฆตั้งใจทำงานไม่น้อยเลย"
มณิกาทนดูไม่ไหว จึงพูดกับนภัทรอย่างตรงไปตรงมา
เธอยอมรับว่าตอนแรกที่เธอไปบริษัทเครื่องมือแพทย์เจริญกิจจำกัด พนักงานของบริษัทไม่ว่าจะระดับสูงหรือระดับล่างต่างอยู่ในสภาพที่ วันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่กินกับนอน แต่หลังจากที่เธอถูกจับตัวไปต่างประเทศแล้วได้กลับมา จู่ๆ บริษัทของเหนือเมฆก็เปลี่ยนชื่อเป็น'บริษัทรุ่งเรืองภพ'พนักงานระดับกลางและระดับสูงของบริษัทเกิดการเปลี่ยนแปลงบุคลากรครั้งยิ่งใหญ่ ส่วนเหนือเมฆก็ใส่ใจบริษัทมากยิ่งขึ้น
มณิกาคิดเพียงว่าการที่เหนือเมฆเป็นเช่นนี้ก็เป็นเพียงตื่นรู้ชั่วขณะเพื่อที่จะทำงานอย่างหนักเพื่อความก้าวหน้าเท่านั้น
แต่กลับไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เหนือเมฆทำทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น รอกระทั่งตนปีกกล้าขาแข็งแล้ว จะสามารถปกป้องมณิกาได้
ที่เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น'บริษัทรุ่งเรืองภพ'เป็นเพราะว่าเหนือเมฆชอบประโยคประโยคนี้'คุณอยู่เคียงข้างผมรอวันที่ฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเพื่อมองดูความยิ่งใหญ่เจริญในใต้ล้า'!
"ใช่ ใช่ ใช่ คุณมณิกาพูดถูก"
นภัทรไม่โต้เถียงกับเธอ
ดวงตาปราดเปรียวของวายุโน้มลง นัยน์ตาสีดำค่อยๆ จางหายไป กลับนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง มณิกาก็มาถึงบริษัทรุ่งเรืองภพ พลางโบกมือให้กับวายุ"บ๊ายบาย"
"คืนนี้ผมจะมารับคุณกลับบ้านเก่า"
"ได้ค่ะ"
มณิกาตอบรับ สะพายกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปที่บริษัทรุ่งเรืองภพ
ภายในรถ สายตาของวายุจ้องมองไปที่มณิกาที่ค่อยๆ ห่างออกไปไกลขึ้น สีหน้าของเขาค่อยๆ ขรึมขึ้น เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า :"ตรวจสอบสถานะของคนในหมู่บ้านบุริมพิสัยคนนั้นได้หรือยัง?"
คนที่วายุพูดถึงก็คือชายที่สวมใส่หน้ากากของหมู่บ้านบุริมพิสัย
"ผมไม่มีความสามารถ ยังตรวจสอบไม่เจอครับ"
นภัทรรู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย"รู้เพียงว่าสถานะของคนคนนี้ไม่ธรรมดา อาจจะเป็นคนที่ตระกูลธนัตถ์โชติส่งมาเพื่อทำร้ายคุณมณิกา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า