คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 117

สรุปบท บทที่ 117 ผมตบคุณสักสองทีแล้วกัน: คุณพ่อสายเปย์

ตอน บทที่ 117 ผมตบคุณสักสองทีแล้วกัน จาก คุณพ่อสายเปย์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 117 ผมตบคุณสักสองทีแล้วกัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต คุณพ่อสายเปย์ ที่เขียนโดย ลู่ลู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 117 ผมตบคุณสักสองทีแล้วกัน

ลู่เฉินเห็นว่าจั่วชิงเฉิงกำลังหัวเราะเยาะตนอยู่ ก็ขมวดคิ้วแล้วเดินตรงเข้าไปหา

“คุณชายจั่วครับ คุณไม่ยุติธรรมเท่าไหร่เลยที่แกล้งคนซื่อๆแบบผม” ลู่เฉินเดินตรงมาที่รถของจั่วชิงเฉิงแล้วเคาะไปที่กระจกรถของเขา

ท่าทางเขาสงบนิ่งและผ่อนคลายมาก ดูไม่เหมือนผู้ถูกรังแกแม้แต่นิดเดียว คล้ายกับเพื่อนกำลังหยอกล้อกันเล่นเสียมากกว่า

จั่วชิงเฉิงตกใจ ยังไงเขาก็เป็นถึงหนึ่งในสี่คุณชายตระกูลใหญ่แห่งยวี่โจว ถึงจะไม่ได้มีอำนาจมากเท่ากับเฉินจื้อหลง แต่ก็จางดาวเรนก็เทียบเขาไม่ติด

ผู้ที่ถูกเขารังแกนั้นมีไม่น้อย แต่เมื่อทุกคนพบหน้ากันก็จะทำเหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เพราะในสังคมสมัยนี้ ผู้ที่มีหน้ามีตาในสังคมล้วนผลัดกันรังแกไป วันนี้เธอรังแกฉัน วันหน้าฉันรังแกเธอถือเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบอาจจะหาวิธีเอาคืน แต่ถ้าเอาคืนไม่สำเร็จก็ทำเป็นลืมแล้วปล่อยมันไปก็สิ้นเรื่อง

แต่ลู่เฉินกลับมาทวงความยุติธรรมคืนจากเขาแบบตรงๆเช่นนี้ ทำให้จั่วชิงเฉิงรู้สึกงงงวย

เขาจะปฏิเสธก็รู้สึกว่าพูดออกไปไม่ได้

“คุณฉลาดดีนี่ที่เดาถูกว่าผมกำลังคิดบัญชีคุณอยู่” จั่วชิงเฉิงยักไหล่ขึ้น ในเมื่อลู่เฉินรู้แล้วว่าเป็นเขาที่จัดการกับเรื่องนั้น เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดอะไร จึงถามออกไปอย่างเปิดเผย

และนี่คือหนึ่งในคุณสมบัติที่คุณชายทั้งหลายควรจะมี

“คุณชายจั่วครับ คุณทำแบบนี้นี่มันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ คุณดูสิ พวกเราสองคนก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ผมไม่เคยทำให้คุณเดือดร้อน ทำไมคุณถึงใช้อำนาจของบ้านตระกูลจั่วมาทำร้ายพวกเราชาวบ้านธรรมดาๆละครับ เอาละหากว่าคุณอยากทำร้ายชาวบ้านอย่างเราๆนั่นก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ก็น่าจะบอกกันล่วงหน้าเสียหน่อย อย่างน้อยก็ให้ผมเตรียมตัวเตรียมใจก่อนก็ยังดีนะครับใช่ไหม?” ลู่เฉินพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง

จั่วชิงเฉิงครุ่นคิดชั่วครู่จากนั้นจึงพูดออกมาว่า “อืม ข้อชี้แนะของคุณไม่เลวนี่ ผมจะรับฟังไว้แล้วกันนะ ต่อไปนี้ถ้าจะรังแกใครผมจะเตือนล่วงหน้าแล้วกัน และจะบอกเขาว่าเขาทำผิดตรงไหน ให้เขาเตรียมใจรอการลงโทษจากผม”

เขาใช้วิธีการพูดอีกแบบหนึ่ง ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “ผมเป็นหนึ่งในสี่คุณชายบ้านตระกูลใหญ่นะคุณ จะให้คนอื่นมาดูถูกผมคงไม่ดีแน่ใช่ไหมละ?”

“นั่นสิครับ คุณชายทั้งสี่ของบ้านตระกูลใหญ่ในยวี่โจวก็เป็นตัวแทนของชาวยวี่โจวเช่นกัน แต่ละคนก็ต้องรักษาหน้ารักษื่อเสียงของตัวเองไว้ให้ดี จะยอมให้ใครมาทำลายชื่อเสียงไม่ได้นะครับ” ลู่เฉินพูด

จั่ว Qingchegnหรี่ตามองดูเขาแล้วหัวเราะออกมาว่า “ลู่เฉินประโยคที่คุณพูดไปเมื่อกี้อาจทำให้คนสี่คนไม่พอใจได้นะรู้ไหม? คุณไม่เข้าใจจริงๆหรือไงว่าเฉินจื้อหลง และจางดาวเรนไม่ชอบคุณน่ะ? อ้อจริงสิ ยังมีหลิวซานอีกคน เขาสามารถหยิบยกทุกวิธีออกมาจัดการคุณได้นะ คุณไม่กลัวว่าพวกเขาจะโกรธเหรอ ไม่กลัวว่าจะไร้ที่ซุกหัวนอนในยวี่โจวหรือไง? เบื้องหลังของสี่คนนี้มีภูเขาลูกใหญ่กำบังไว้นับไม่ถ้วน ถ้าคุณทำให้ทั้งสี่คนนั้นไม่พอใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นศัตรูกับทั้งเมืองยวี่โจวเลยนะ”

ลู่เฉินทำท่าทางตกใจแล้วพูดว่า “คุณชายจั่ว ผมเรียนมาน้อย คุณอย่าทำให้ผมกลัวสิครับ ผมไม่ได้ไปทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนเลยจริงๆ ตรงกันข้ามผมค่อนข้างจะปกป้องชื่อเสียงของพวกเขาอยู่ต่างหากนะ”

“อ้อ ปกป้องยังไงกัน?” จั่วชิงเฉิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“คุณลองดูนะครับ คุณชายทั้งสี่มีชื่อเสียงขนาดไหนก็รู้ การที่คุณไปทำลายชื่อเสียงของพวกเขา คนอื่นๆอาจคิดว่าพวกคุณเป็นคนประเภทเดียวกันก็ได้ คุณจะให้พวกเขาทั้งสามคนคิดยังไงกัน?”

ลู่เฉินพูดออกมาแบบเข้าข้างทั้งสามคนนั้น “มีคำพูดคำนึงบอกว่า ไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ แต่กลัวว่าลูกทีมจะโง่เง่าเสียมากกว่า เอ่อ......คุณอย่าเพิ่งโมโหไปนะ ผมเพียงแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ การที่คุณแบล็กเมล์พวกเขาผมเกรงว่าคนที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจจะไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณต่างหากล่ะ”

เพื่อนงั้นหรือ?

แกมีสิทธิ์อะไรมาเป็นเพื่อนกับฉัน?

แกเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน?

แกคงจะเข้าใจคำว่าเพื่อนผิดไปแล้วแน่ๆ

จั่วชิงเฉิงหัวเราะอยู่ในใจ เขารู้ว่าลู่เฉินมีความสามารถระดับหนึ่ง และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเฉิน

แล้วยังไงละ?

ยังไงลู่เฉินก็ไม่ใช่คนบ้านตระกูลเฉินอยู่ดี มีสิทธิ์อะไรมาเปรียบเทียบกับคุณชายจั่วอย่างเขากัน

“ขอโทษทีนะครับ ผมคบเพื่อนก็เลือกอยู่บ้าง ไม่ใช่เจอหมาแมวที่ไหนก็คว้ามาเป็นเพื่อนหมด คนที่จะเป็นเพื่อนกับผมได้ก็น่าจะต้องคู่ควรกับผมเสียหน่อย คุณคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติดีพอจะเป็นเพื่อนผมได้ไหมละ?” จั่วชิงเฉิงหัวเราะออกมาด้วยความโมโห เขาเสียเวลาพูดจากับลู่เฉินมาไม่น้อย แต่สุดท้ายลู่เฉินต้องการจะตบเขา! อีกทั้งยังพูดออกมาอย่างเรียบง่าย ทำเหมือนไม่เห็นจั่วชิงเฉิงอยู่ในสายตา

“อืมนั่นสินะ ผมคิดว่าคุณไม่เหมาะจะเป็นเพื่อนผมจริงๆ ถ้าเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ก็คงต้องเป็นศัตรูกันสินะ”

ลู่เฉินพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเขาก็กดหัวของจั่วชิงเฉิงกระแทกเข้ากับพวงมาลัยเข้าอย่างจัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์