บทที่ 117 ผมตบคุณสักสองทีแล้วกัน
ลู่เฉินเห็นว่าจั่วชิงเฉิงกำลังหัวเราะเยาะตนอยู่ ก็ขมวดคิ้วแล้วเดินตรงเข้าไปหา
“คุณชายจั่วครับ คุณไม่ยุติธรรมเท่าไหร่เลยที่แกล้งคนซื่อๆแบบผม” ลู่เฉินเดินตรงมาที่รถของจั่วชิงเฉิงแล้วเคาะไปที่กระจกรถของเขา
ท่าทางเขาสงบนิ่งและผ่อนคลายมาก ดูไม่เหมือนผู้ถูกรังแกแม้แต่นิดเดียว คล้ายกับเพื่อนกำลังหยอกล้อกันเล่นเสียมากกว่า
จั่วชิงเฉิงตกใจ ยังไงเขาก็เป็นถึงหนึ่งในสี่คุณชายตระกูลใหญ่แห่งยวี่โจว ถึงจะไม่ได้มีอำนาจมากเท่ากับเฉินจื้อหลง แต่ก็จางดาวเรนก็เทียบเขาไม่ติด
ผู้ที่ถูกเขารังแกนั้นมีไม่น้อย แต่เมื่อทุกคนพบหน้ากันก็จะทำเหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพราะในสังคมสมัยนี้ ผู้ที่มีหน้ามีตาในสังคมล้วนผลัดกันรังแกไป วันนี้เธอรังแกฉัน วันหน้าฉันรังแกเธอถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบอาจจะหาวิธีเอาคืน แต่ถ้าเอาคืนไม่สำเร็จก็ทำเป็นลืมแล้วปล่อยมันไปก็สิ้นเรื่อง
แต่ลู่เฉินกลับมาทวงความยุติธรรมคืนจากเขาแบบตรงๆเช่นนี้ ทำให้จั่วชิงเฉิงรู้สึกงงงวย
เขาจะปฏิเสธก็รู้สึกว่าพูดออกไปไม่ได้
“คุณฉลาดดีนี่ที่เดาถูกว่าผมกำลังคิดบัญชีคุณอยู่” จั่วชิงเฉิงยักไหล่ขึ้น ในเมื่อลู่เฉินรู้แล้วว่าเป็นเขาที่จัดการกับเรื่องนั้น เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดอะไร จึงถามออกไปอย่างเปิดเผย
และนี่คือหนึ่งในคุณสมบัติที่คุณชายทั้งหลายควรจะมี
“คุณชายจั่วครับ คุณทำแบบนี้นี่มันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ คุณดูสิ พวกเราสองคนก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ผมไม่เคยทำให้คุณเดือดร้อน ทำไมคุณถึงใช้อำนาจของบ้านตระกูลจั่วมาทำร้ายพวกเราชาวบ้านธรรมดาๆละครับ เอาละหากว่าคุณอยากทำร้ายชาวบ้านอย่างเราๆนั่นก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ก็น่าจะบอกกันล่วงหน้าเสียหน่อย อย่างน้อยก็ให้ผมเตรียมตัวเตรียมใจก่อนก็ยังดีนะครับใช่ไหม?” ลู่เฉินพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง
จั่วชิงเฉิงครุ่นคิดชั่วครู่จากนั้นจึงพูดออกมาว่า “อืม ข้อชี้แนะของคุณไม่เลวนี่ ผมจะรับฟังไว้แล้วกันนะ ต่อไปนี้ถ้าจะรังแกใครผมจะเตือนล่วงหน้าแล้วกัน และจะบอกเขาว่าเขาทำผิดตรงไหน ให้เขาเตรียมใจรอการลงโทษจากผม”
เขาใช้วิธีการพูดอีกแบบหนึ่ง ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “ผมเป็นหนึ่งในสี่คุณชายบ้านตระกูลใหญ่นะคุณ จะให้คนอื่นมาดูถูกผมคงไม่ดีแน่ใช่ไหมละ?”
“นั่นสิครับ คุณชายทั้งสี่ของบ้านตระกูลใหญ่ในยวี่โจวก็เป็นตัวแทนของชาวยวี่โจวเช่นกัน แต่ละคนก็ต้องรักษาหน้ารักษื่อเสียงของตัวเองไว้ให้ดี จะยอมให้ใครมาทำลายชื่อเสียงไม่ได้นะครับ” ลู่เฉินพูด
จั่ว Qingchegnหรี่ตามองดูเขาแล้วหัวเราะออกมาว่า “ลู่เฉินประโยคที่คุณพูดไปเมื่อกี้อาจทำให้คนสี่คนไม่พอใจได้นะรู้ไหม? คุณไม่เข้าใจจริงๆหรือไงว่าเฉินจื้อหลง และจางดาวเรนไม่ชอบคุณน่ะ? อ้อจริงสิ ยังมีหลิวซานอีกคน เขาสามารถหยิบยกทุกวิธีออกมาจัดการคุณได้นะ คุณไม่กลัวว่าพวกเขาจะโกรธเหรอ ไม่กลัวว่าจะไร้ที่ซุกหัวนอนในยวี่โจวหรือไง? เบื้องหลังของสี่คนนี้มีภูเขาลูกใหญ่กำบังไว้นับไม่ถ้วน ถ้าคุณทำให้ทั้งสี่คนนั้นไม่พอใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นศัตรูกับทั้งเมืองยวี่โจวเลยนะ”
ลู่เฉินทำท่าทางตกใจแล้วพูดว่า “คุณชายจั่ว ผมเรียนมาน้อย คุณอย่าทำให้ผมกลัวสิครับ ผมไม่ได้ไปทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนเลยจริงๆ ตรงกันข้ามผมค่อนข้างจะปกป้องชื่อเสียงของพวกเขาอยู่ต่างหากนะ”
“อ้อ ปกป้องยังไงกัน?” จั่วชิงเฉิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“คุณลองดูนะครับ คุณชายทั้งสี่มีชื่อเสียงขนาดไหนก็รู้ การที่คุณไปทำลายชื่อเสียงของพวกเขา คนอื่นๆอาจคิดว่าพวกคุณเป็นคนประเภทเดียวกันก็ได้ คุณจะให้พวกเขาทั้งสามคนคิดยังไงกัน?”
ลู่เฉินพูดออกมาแบบเข้าข้างทั้งสามคนนั้น “มีคำพูดคำนึงบอกว่า ไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ แต่กลัวว่าลูกทีมจะโง่เง่าเสียมากกว่า เอ่อ......คุณอย่าเพิ่งโมโหไปนะ ผมเพียงแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ การที่คุณแบล็กเมล์พวกเขาผมเกรงว่าคนที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจจะไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณต่างหากล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์