บทที่159 พบกับวังซิงอีกครั้ง
เมื่อต้าปอลั่งเห็นลู่เฉินเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเธอ แต่ละคนก็มีท่าทีทางกระสับกระส่าย แต่เมื่อคิดว่าลู่เฉินเดินมานั่งด้วยกัน ไม่ได้เดินเข้าไปด้านในพวกเขาก็ถอนหายใจออกมา
เพราะการที่ลู่เฉินไม่ได้เข้าไปด้านในก็หมายความว่าเขาไม่ใช่ผู้บริจาคเงินและไม่ใช่ตัวแทนจากบริษัทใดๆ
หรือเขาจะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปจริงๆ? ต้าปอลั่งนึกอยู่ในใจ
“คุณลู่ครับ ผมขออนุญาตแนะนำหน่อย คนนี้ชื่อว่าเจียงเทา นี่คือเจียงฮาย นี่คือเจียงถิงและคนนี้คือเจียงหยู พวกเขาเป็นคนในตระกูลเจียง และเป็นเพื่อนของผมด้วย” หลอหยุนฮวยแนะนำพวกเขาต่อลู่เฉินทีละคน
เจียงเทาก็คือคนที่เยาะเย้ยถากถางลู่เฉินเป็นคนแรก เจียงฮายก็คือคนที่ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่นัก ส่วนเจียงถิงก็คือต้าปอลั่งนั่นเอง และเจียงหยูคือผู้หญิงผมสั้น
“เขาชื่อว่าลู่เฉิน เป็นเพื่อนผมเหมือนกัน” หลอหยุนฮวยแนะนำลู่เฉินให้พวกเขารู้จัก
“แหม โลกนี้มันแคบจริงๆ” ลู่เฉินมองไปที่พี่น้องตระกูลเจียงทั้งสี่และพูดจาถากถาง
สี่พี่น้องตระกูลเจียงทำท่าทำตัวไม่ถูก
“อ้าว! รู้จักกันมาก่อนเหรอครับ?”
“หลอหยุนฮวย เขาคนนี้เป็นใครกัน ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน” ต้าปอลั่งกระพริบตาและถามหลอหยุนฮวย
ในเมื่อลู่เฉินไม่ได้เข้าไปด้านในก็หมายความว่าตัวเขาเองก็ไม่มีความสามารถเท่าไหร่นัก
ในสมองของเจียงถิงก็นึกขึ้นมาได้ว่า รถหรูคันนั้นน่าจะเป็นเศรษฐินีคนใดคนหนึ่งมอบให้แก่ลู่เฉินแน่ๆ ที่ชายกลางคนคนนั้นพูดไปเมื่อสักครู่ น่าจะเป็นการให้เกียรติเขามากกว่า
เธอมองดูลู่เฉินแต่หัวจรดเท้าและพบว่าที่จริงลู่เฉินก็ไม่เลวเหมือนกัน รูปร่างจัดว่ากำยำและหน้าตาดูดี
หากลู่เฉินมีแม่ยกเป็นมหาเศรษฐีจริงๆแล้วละก็ การที่เขามาในสถานที่แห่งนี้ก็ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม
เนื่องจากคนประเภทนี้มาร่วมงานเลี้ยงใหญ่ๆ ก็มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือเพื่อได้รู้จักกับผู้มีหน้ามีตาในสังคม
หากลู่เฉินรู้ว่าในสายตาต้าปอลั่งมองเขาเป็นคนอย่างไร เขาคงต้องกระอักเลือดตายแน่ๆ!!!
“ผมเหรอ ผมก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่งเท่านั้นแหละ” ไม่รอให้หลอหยุนฮวยตอบออกมา ลู่เฉินกลับยิ้มและพูดเอง
ต้าปอลั่งไม่สนใจลู่เฉิน เธอกลับจ้องไปที่สายตาของหลอหยุนฮวย
“เอ่อ......ที่จริงแล้ว พี่......” หลอหยุนฮวยทำตัวไม่ถูก บอกตามตรงว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลู่เฉินเป็นใคร เขารู้เพียงแค่ว่าเซ่ซูเจี๋ยยังต้องยกแก้วดื่มให้ลู่เฉิน
และการที่เขาไปเชิญลู่เฉินมาเมื่อครู่ ก็เพียงแค่ต้องการยืมใช้บารมีเขาเท่านั้นเอง
เขารู้สึกว่าหากวันนี้ลู่เฉินนั่งอยู่โต๊ะเดียวกับเขา อีกสักประเดี๋ยวเซ่ซูเจี๋ยน่าจะออกมาดื่มกับลู่เฉินแน่ๆ และเมื่อถึงตอนนั้นทุกคนในโต๊ะก็จะอิจฉาเขา
ถึงแม้เขาและลู่เฉินจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันจริงๆแต่คนอื่นๆก็คิดว่าเขาเป็นเพื่อนกัน
ส่วนเรื่องตัวตนที่แท้จริงของลู่เฉิน เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมและไม่กล้าถาม
เพราะเขาเองก็กลัวว่าลู่เฉินจะโกรธ
“พี่ซิงคะ มานั่งที่นี่สิ”
ในขณะที่หลอหยุนฮวยกำลังคิดว่าจะตอบต้าปอลั่งอย่างไรดี ก็พบว่าวังซิงเดินมากับผู้หญิงรูปร่างหน้าตางดงามคนหนึ่ง ตาเขาเป็นประกายและรีบเดินหน้าขึ้นไปทักทาย
“คุณชายวัง!”
“สวัสดีค่ะคุณชายวัง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์