คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 181

สรุปบท บทที่ 181 วางกับดักจับศัตรู: คุณพ่อสายเปย์

บทที่ 181 วางกับดักจับศัตรู – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์

ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 181 วางกับดักจับศัตรู จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 181 วางกับดักจับศัตรู

“พี่ค่ะ ทำยังไงดี แจ้งตำรวจก็ไม่ได้ พี่เขยก็ไม่ฟังที่พี่พูด ดูแล้วสถานการณ์แบบนี้ คืนนี้เขาต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ” หลินอี้เจียพูดด้วยความกังวลใจ

“ถ้างั้นเราไปรอเขาที่รีสอร์ทก่อน รอให้เขากลับมาค่อยคุยกันอีกที พวกเราอยู่ที่นี้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หลิวลี่ลี่พูดขึ้น

เมื่อถึงที่รีสอร์ทมีประตูทางเข้าหลายทาง และพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลู่เฉินจะเข้ามาจากประตูทางด้านไหน ทางที่ดีที่สุดคือต้องรอเขา

“อื้ม” หลินอี้จุนพยักหน้าตอบ น่าจะมีแค่วิธีนี้วิธีเดียวแล้ว

ทั้งสามก็ได้ตามทุกคนไปที่รีสอร์ท

ในขณะนี้ที่ลานกว้างภายในรีสอร์ท เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แม้แต่หลินอี้จุนก็ยังเห็นผู้บริหารหลายคนที่เธอรู้จัก พวกเขากำลังพูดคุยและหัวเราะกัน แต่หัวข้อเกือบทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่มีข้อเกี่ยวข้องกับลู่เฉินทั้งนั้น

“เมื่อวานลู่เฉินบริจาคเงิน 100 ล้านหยวน ฉันยังคิดว่าถึงแม้เด็กนั่นจะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ก็ยังรู้สึกห่วงอยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นคนหุนหันพลันแล่นแบบนี้”

“จริง แม้ว่า จางตาวเหริน จะทำลายซุปเปอร์มาร์เก็ตของเขาก็ตาม เขาก็ไม่ควรวู่วามขนาดนี้ บางทีถ้าทั้งสองฝ่ายจะคุยกันยังไงแล้วครอบครัวจางก็ต้องชดเชยให้เขาแน่ๆ แต่ตอนนี้เหรอ ทำให้ครอบครัวจางขุ่นเคืองใจแล้ว ไม่เพียงแต่จะไม่ได้เงินชดใช้ ตรงกันข้ามเป็นการทำลายตัวเองอีกด้วย

“เฮ้อ เขายังเด็กเกินไปจริงๆ หุนหันพลันแล่นเกินไป

พวกเขาตางพากันถอนหายใจ

เมื่อวานคนที่ไปร่วมงานเลี้ยงขอบคุณ ไม่มีใครไม่รู้จักลู่เฉิน ในฐานะเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆเขาได้บริจาคไป 100 ล้านหยวน และก็ยังถูกจัดอันดับรองลงมากจาก เทคโนโลยีอี้ฉี และสี่ครอบครอบมหาอำนาจอีกด้วย ตอนนั้นทำเอาทุกคนตกใจกันยกใหญ่เลย

สถานะของเขาตอนนี้ก็

โดยเฉพาะคำพูดที่เขาพูดออกมานั้น สร้างความภูมิใจให้กับคนที่บริจาคเงินจำนวนไม่มากอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนมากประทับใจในตัวเขา

แต่ไม่คิดเลย ว่าวันนี้เขาจะทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ได้ นี้เป็นการทำลายตัวเองชัดๆ

การเผาคฤหาสน์และระเบิดอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวจาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ครอบครัวจางเอาเป็นเอาตายกับเขา

“พูดไปแล้ว ลู่เฉินก็ถือเป็นชายหนุ่มที่กล้าที่สุดในทศวรรษนี้เลยนะ ถึงแม้ว่าจะหุนหันพลันแล่นไปหน่อย แต่ว่าก็ทำให้ทุกคนเห็นถึงความกล้าของเขา”

“นั้นก็จริง ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ คนนาดพวกกองกำลังใต้ดินก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากเลย ไม่มีใครที่จะกล้าบ้าบิ่นเท่าลู่เฉินอีแล้ว "

ผู้บริหารเหล่านี้ ไม่มีความรู้การต่อสู้แต่อย่างใด แต่พอพูดถึงความคับข้องใจระหว่างลู่เฉินและครอบครัวจางพวกเขาพูดคุยกันได้อย่างคล่องปากมาก

และที่คืนนี้ดูเหมือนจะครึกคัก ก็เพราะได้ยินมาว่าเหตุการณ์สำคัญสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวจางและลู่เฉิน ยิ่งกว่าการต่อสู้ ก็คือการรอดูว่าลู่เฉินและครอบครัวจางจะจัดการปัญหาข้อข้องใจนี้กันยังไง

แต่ก็ยังไม่เห็นจะมีใครอยู่ข้างลู่เฉิน

ก็เป็นเพราะว่างครอบครัวจางมีเป็นตระกูลเก่าแก่ มีมรดกมากมาย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่มีใครคิดว่าลู่เฉินจะชนะในเกมนี้ได้

เมื่อได้ยินที่หลายๆคุยกันและไม่มีใครอยู่ข้างลู่เฉินเลยแม้แต่คนเดียว จึงทำหลินอี้จุนรู้สึกกังวล

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลู่เฉิน แล้วเธอกับฉีฉีจะทำอย่างไร

“ปรมาจารย์ตงฟางปรากฏตัวแล้ว”

ในขณะนี้ ผู้คนมากมายเริ่มส่งเสียงโห่ร้องและเห็นคนหนึ่งสวมชุดฮันบก พร้อมปิ่นปักผมของตงฟางหลง รายล้อมไปด้วยผู้คนในครอบครัวจาง เดินขึ้นไปบนแท่นสูงในบริเวณนั้น

เมื่อตงฟางหลงเดินออกมาก ผู้คนท้วมท้นจะเต็มลานกว้างไปหมด จนทำให้รู้สึกได้ว่าหายใจลำบาก

แท่นสูงนี้มีความสูงมากกว่าหนึ่งฟุต และกว้างมากกว่าห้าเมตร สร้างขึ้นชั่วคราว สำหรับการต่อสู้ในคืนนี้โดยเฉพาะ

เมื่อตงฟางหลงเดินขึ้นสู่เวที ยังไม่ได้มองผู้ชมเลยด้วยซ้ำ เขาถอยออกมานั่งบนแท่น แล้วหลับตาเพื่อสงบจิตสงบใจก่อน

ทุกคนตกใจเมื่อเห็นตงฟางหลงปรากฏตัว ผู้คุมในหอปะลองให้การเคารพเขา และต้องการที่จะผูกมิตรกับเขา และนักธุรกิจเหล่านั้นถึง

“คุณปู่ ปู่กำลังพูดอะไรกัน คนเขามีครอบครัวแล้ว” เฉินจื่อหรานหน้าแดง พูดด้วยความเขินอาย

“แต่งงานแล้วก็หย่ากันได้ ขอเพียงแค่หลานไม่ใส่ใจกับมัน บ้านเฉินเราก็ไม่ใช่พวกบ้านที่หัวโบราณยึดตามกฏตายตัว”

“คุณปู่ นี่มันเวลาไหนแล้ว ปู่ยังมีกระจิตกระใจพูดเล่น ปู่ดูวางชั้นของบ้านจาง เกาะนี้มีคนไม่ต่ำกว่าร้อยสอยร้อยคนไม่ว่าลู่เฉินจะแพ้หรือชนะพวกเขาก็จะไม่ปล่อยจังหวะให้ลู่เฉินเป็นแน่” เฉินจื่อหรานพูด

“วางใจเถอะ พวกเธอประเมินลู่เฉินต่ำไป เขากล้าทำแบบนี้ กล้าไปท้าทาย นี่ก็แสดงว่าเขามีมั่นใจแล้ว หากถึงเวลาที่เขาสู้บ้านจางไม่ได้จริงๆฉันจะออกหน้าช่วยเขาสักครั้ง ยังไงบ้านจางก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับบ้านเฉินของฉัน” ปู่เฉินพูดอย่างมั่นใจ

บ้านเฉินเป็นครอบครัวทหารผ่านศึกมาเป็นร้อยปีพื้นภูมิไม่ใช่บ้านที่อีกสามบ้านจะมาเทียบได้เรื่องนี้เป็นจุดที่ปู่ยังคงมั่นใจ

“อึ้ม”เฉินจื่อหรานหยักหน้ารับในใจยังคงเป็นกังวล ปล่อยวางไม่ได้เมื่อนึกถึงคำพูดหยอกล้อของปู่ใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะอย่างอธิบายไม่ถูก

“พี่หาน ไอหมาลู่เฉินนั้นจะกล้ามาไหม?”ผ่านมาเป็นครึ่งวันยังไม่เห็นเงาของลู่เฉิน,จางดาวเรนขนวดคิ้วพูด

วันนี้บ้านจางพวกเขาตั้งเรื่องมาใหญ่ขนาดนี้พูดอีกอย่างได้ว่าแหฟ้าตาข่ายดินรอลู่เฉินเข้ามาติดแห

ถ้าหากลู่เฉินไม่กล้าออกมางั้นพวกเขาก็ทำไปเปล่าประโยชน์

หานเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีเขาตั้งใจเชิญศิษย์พี่ของเขาออกมาถ้าหากว่าลู่เฉินไม่มาอย่างงั้นนี้ก็ไม่ใช่เป็นการให้ศิษย์ออกมาวิ่งเปล่าประโยคหรือ?

“มาแล้ว ลู่เฉินมาแล้ว!”

ทันใดนั้นมีชายร่างใหญ่ตะโกนวิ่งมาใน รีสอร์ท

ทุกคนต่างหันไปมองที่ประตู รีสอร์ท

หลังจากนั้นทุกคนต่างเบิกตากว้างจองมองอย่างไม่น่าเชื่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์