บทที่ 223 สร้างบ้านพักสำหรับครอบครัวตระกูลเสี่ยว
เมื่อเห็นว่าผู้คนที่ถูกนำตัวมายังสถานีตำรวจถูกจับใส่กุญแจมือและโดนนำตัวออกไปเรียบร้อยแล้วเสี่ยวเจิ้งยี่และคนอื่นๆต่างก็โล่งใจ
รวมถึงสายตาที่พวกเขาใช้มองลู่เฉินในขณะนี้ต่างก็มีการเปลี่ยนไปแล้ว
เพราะลู่เฉินไม่เพียงแต่จะช่วยพาเสี่ยวจิงออกมา แต่เขายังช่วยแก้แค้นให้ครอบครัวตระกูลเสี่ยวอีกด้วย ยิ่งพอพวกตระกูลตันได้ยินคำพูดของลู่เฉิน พวกนั้นไม่กล้าแม้แต่จะวิ่งหนี นี่จึงเป็นสิ่งยืนยันว่าลู่เฉินมีความสามารถมากกว่าที่พวกเขาได้คิดจินตนาการไว้
เขาคิดว่าหากลูกชายของตนเองได้ติดตามคนใหญ่คนโตอย่างลู่เฉินจะต้องมีอนาคตที่ก้าวไกลเป็นแน่
"เสี่ยวจิง นายไปฆ่าหมูมาซิ วันนี้ฉันจะเลี้ยงอะไรตอบแทนพวกเขาสักหน่อย” เสี่ยวเจิ้งยี่พูดออกมาด้วยความดีอกดีใจ
ลู่เฉินฉีกยิ้มเพียงเล็กน้อย เขาอยากเอ่ยปากห้ามปรามคนตรงหน้า แต่พอได้เห็นแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นของเสี่ยวเจิ้งยี่ เขาจึงกลืนคำห้ามปรามเอาไว้ เพราะนี่เป็นความตั้งใจของเสี่ยวเจิ้งยี่ และเขาคงไม่คิดจะขัดขวางความตั้งใจนั้น
"พ่อครับ แต่พวกของพี่เฉินเขาไม่ชอบทานเนื้อหมูนะครับ เดี๋ยวผมออกไปซื้อเนื้อวัวมาดีกว่า” เสี่ยวจิงยกยิ้มขึ้นที่ริมฝีปาก เขาคิดว่าพวกคนมีฐานะร่ำรวยอย่างลู่เฉินคงไม่มีชอบทานเนื้อหมูเป็นแน่
"ใครบอกว่าผมไม่ชอบทานเนื้อหมู เดี๋ยววันนี้ผมจะทำหมูตุ๋นน้ำแดงให้ทุกคนทานเอง พวกคุณไปฆ่าหมูเถอะ ส่วนผมจะออกไปซื้อเครื่องปรุงเพิ่มอีกสักหน่อย” ลู่เฉินพูดพลางส่งยิ้ม
คำกล่าวของลู่เฉินทำให้เสี่ยวเจิ้งยี่ตาเบิกโพลงด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าในทุกปีพวกเขาจะต้องฆ่าหมูเพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงฉลองวันปีใหม่ แต่ว่าเมนูหมูตุ๋นน้ำแดงที่ลู่เฉินพูดออกมานั้น เขายังไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองเลย
เพราะการใช้ชีวิตอยู่ในแถบชนบท คงไม่มีความคุ้นเคยหรือเคยชินกับการทำอาหารประเภทนั้น ถึงแม้พวกเขาจะได้ทานเนื้อหมู แต่สำหรับอาหารเลิศหรูอย่างหมูตุ๋นน้ำแดงนี้ ไม่เคยได้ลองทานจริงๆ
ทางด้านเสี่ยวจิงเองก็ตื้นเต้นไม่แพ้กัน ตัวเขานั้นไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมากล่าวขอบคุณลู่เฉินดี ในเมื่อลู่เฉินสามารถทานเนื้อหมูและยังสามารถทำหมูตุ๋นน้ำแดงได้อีก เขาก็จะให้คนจัดการฆ่าหมูตัวใหญ่ที่มีน้ำหนักถึงหนึ่งร้อยกิโลกรัมเพื่อมาเป็นมื้ออาหารที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้
ในขณะเดียวกันเหล่าบรรดาเพื่อนบ้านของครอบครัวตระกูลเสี่ยวต่างพากันเข้ามาทักทายตามอัธยาศัย บางคนก็พากันเข้ามาช่วยพวกเขาฆ่าหมู
ศักยภาพของครอบครัวตระกูลเสี่ยวที่ได้แสดงออกมาในวันนี้ต่างทำให้ใครหลายคนต่างเกิดความเกรงกลัว ตั้งแต่นี้ต่อไปภายในหมู่บ้านชิหลงคงไม่มีใครกล้าที่จะรังแกครอบครัวตระกูลเสี่ยวอีกแล้ว
แม้แต่ตระกูลตันยังโดนจัดการอย่างราบคาบ แล้วใครกันจะยังกล้ามาต่อกรกับพวกเขาอีก
ในขณะที่ลู่เฉินออกไปซื้อเครื่องปรุงนั้น เขาได้ต่อสายโทรศัพท์หาตู้เฟย เขาสั่งให้ตู้เฟยหาทีมงานก่อสร้างมายังหมู่บ้านชิหลง
บ้านของเสี่ยวจิงหลังนี้ก็ซอมซ่อและผุพังลงทุกวัน เขาจึงคิดที่จะช่วยจ่ายเงินในการสร้างบ้านใหม่ให้แก่เสี่ยวจิง และให้เสี่ยวจิงตอบแทนเขาโดยการไปดูแลปกป้องฉีฉี
แน่นอนว่าถ้าเสี่ยวจิงสามารถดูแลและปกป้องความปลอดภัยของฉีฉีได้ ไม่ว่าเสี่ยวจิงต้องการสิ่งใด เขาก็พร้อมที่จะมอบให้แก่อีกฝ่ายทันที
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านตระกูลเสี่ยว เสี่ยวจิงก็ได้ทำการฆ่าหมูเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อลู่เฉินสำรวจดูจำนวนคนในครอบครัวเสี่ยวพบว่ามีจำนวนมากกว่าสิบคน เขาจึงให้เสี่ยวรงช่วยหาหม้อกะทะใบใหญ่มาให้ ส่วนตนเองนั้นก็เข้าครัวและเตรียมตัวสำหรับการทำหมูตุ๋นน้ำแดง
ยิ่งมีจำนวนคนเยอะก็ช่วยประหยัดพลังงานและเวลาไปได้เยอะ ครอบครัวเสี่ยวต่างช่วยเขาจุดไฟ ต้มน้ำให้เดือดและยังช่วยหั่นเนื้ออีกด้วย
ลู่เฉินเรียกทุกคนมารวมตัวกัน และดึงตัวหลิวผิงให้เข้ามาใกล้ จัดการสอนคนพวกนั้นให้ทำเมนูหมูตุ๋นน้ำแดง
เมนูหมูตุ๋นน้ำแดงยังไม่ทันจะได้เสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ตู้เฟยก็พาคนกลุ่มใหญ่มายังหมู่บ้านชิหลง เมื่อพวกเขามาถึงก็ได้โทรศัพท์หาลู่เฉิน ลู่เฉินจึงสั่งให้หลินตงเป็นคนไปพาตู้เฟยและพรรคพวกมายังบ้านของครอบครัวเสี่ยว
เสี่ยวจิงรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นว่าตู้เฟยเดินทางมาถึงบ้านของตน
เพราะตู้เฟยถือเป็นบุคคลที่กอบกุมอำนาจใต้ดินอันยิ่งใหญ่ของยวี่โจว
เขาจัดการแนะนำตู้เฟยให้คนในครอบครัวของตนได้รู้จัก แต่เขากลับพูดได้เพียงว่าตู้เฟยเป็นเจ้านายและกำลังทำธุรกิจการค้าร่วมกับลู่เฉิน
หลังจากร่วมกันรับประทานเมนูหมูตุ๋นน้ำแดงสุดพิเศษลงแล้ว ลู่เฉินก็ได้พูดกับทีมก่อสร้างที่ตู้เฟยพามา”สร้างบ้านพักระดับล้านในหมู่บ้านแห่งนี้ให้ฉันหน่อย คุณช่วยออกแบบให้ผมที ผมจะสร้างมันที่ตรงบริเวณนี้” ลู่เฉินกล่าวและชี้มายังบริเวณบ้านของเสี่ยวจิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์