บทที่ 237 ทุกคนต้องฟังคำพูดผม
"งั้นก็รีบไปตรวจสอบเข้าสิ ผมอยากจะเห็นจริงๆว่าคนที่มีการศึกษาจบมาจากเมืองนอกอย่างเธอ ได้ความรู้อะไรกลับมาบ้าง หรือทำเป็นแค่ใส่ร้ายป้ายสีและรังแกเด็กตัวเล็กๆอย่างนั้นเหรอ? คนที่มีจิตใจพิสดารแบบนี้ มีคุณสมบัติอะไรที่จะอยู่ในบริษัทต่อไป?” ลู่เฉินพูดด้วยท่าทางเยือกเย็น
"คุณพูดอะไรน่ะ! ฉันจะไปใส่ร้ายป้ายสีเขาได้ยังไง? คุณลองฟังเสียงที่บันทึกไว้ ก็จะรู้ว่าหลี่หงเหม่ยเธอยอมรับด้วยตัวเอง ฉันไม่ได้ใส่ร้ายว่าลูกชายเธอเป็นขโมยเพียงฝ่ายเดียว” หยูลี่ตะโกนออกมา คำพูดของลู่เฉินนั้นดูถูกเหยียดหยามเธอ จะให้เธอยอมรับได้อย่างไรว่าเป็นคนใส่ร้ายเสี่ยวเป่า
"ในเมื่อคุณยืนยันว่าไม่ได้ใส่ร้ายเขา ถ้าอย่างนั้นก็ให้วังเหว่ยมาตรวจสอบสิ ผมไม่เชื่อว่าจะตรวจสอบอะไรไม่เจอ” ลู่เฉินหัวเราะเหอะๆและต่อสายไปยังวังเหว่ยทันที
เสี่ยวจื่อเหิงตกใจสุดขีด หากว่าให้วังเหว่ยมาจัดการ แล้วเขาจะทำอย่างไร?
เมื่อเห็นว่าลู่เฉินกำลังโทรไปหาวังเหว่ย เขาก็ยกมือขึ้นตบหน้าหยูลี่แล้วพูดว่า
"ทำไมคุณถึงใส่ร้ายป้ายสีเด็กตัวเล็กๆกัน?” เสี่ยวจื่อเหิงพูดด้วยความโมโห
ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง รวมทั้งหยูลี่ก็ด้วย
เธอมองไปยัง เสี่ยวจื่อเหิงด้วยท่าทางโมโหสุดขีด “ เสี่ยวจื่อเหิง คุณกล้าตบฉันอย่างนั้นเหรอ? ยังมีหน้ามาพูดว่าทำไมฉันถึงใส่ร้ายป้ายสีเด็กตัวเล็กๆ? ทุกอย่างก็เป็นสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันทำไม่ใช่หรือไง? ครั้งที่แล้วคุณทำให้ลู่เฉินโมโหจนถูกคุณวังลงโทษ คุณก็ขับแค้นใจตลอดมา จนกระทั่งตรวจเจอว่าหลี่หงเหม่ยเป็นคนที่ลู่เฉินแนะนำมาทำงานที่บริษัท คุณเลยต้องการจะแก้แค้นลู่เฉิน จึงใช้ให้ฉันมาหาเรื่องหลี่หงเหม่ย คุณยังมีหน้ามาถามฉันว่าทำไมฉันต้องใส่ร้ายป้ายสีเด็กตัวเล็กๆอีกเหรอ?”
หา! นี่มัน......
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนตกตะลึง ที่แท้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หยูลี่ร่วมมือกับ เสี่ยวจื่อเหิงจัดฉากขึ้นเพื่อใส่ร้ายเสียวเป่าหรือนี่?!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเพื่อนร่วมงานผู้ชายหลายๆคน ก็พานึกสงสัยว่าหยูลี่กับ เสี่ยวจื่อเหิงมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน ทำไมหยูลี่ต้องร่วมมือกับ เสี่ยวจื่อเหิงในการทำเรื่องแบบนี้ด้วย
ส่วนบรรดาเพื่อนร่วมงานผู้หญิงก็รู้สึกดูถูกเหยียดหยามเธอมาก ก่อนหน้านี้พวกเธอถูกหยูลี่หลอกมาตลอดหรือ? อีกทั้งพวกเธอยังใสซื่อ คิดว่าเสียวเป่าเป็นคนขโมยลิปสติกของหยูลี่จริงๆ
"คุณพูดไร้สาระอะไรน่ะ” เสี่ยวจื่อเหิงคิดไม่ถึงว่าหยูลี่จะพูดออกมาตามตรงแบบนั้น หน้าตาก็ดูดีแต่ไอคิวต่ำจริงๆ
เดิมทีเขาเพียงแค่ต้องการแสดงละครตบตาลู่เฉิน และให้หยูลี่เป็นแพะรับบาปไปก่อน ไม่อย่างนั้นหากหยูลี่ยังไม่วางมือเรื่องนี้และเรียกวังเหว่ยออกมาจัดการก็คงจะแย่
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าหยูลี่จะโง่เพียงนี้
"เสี่ยวจื่อเหิง! คุณกล้าลงไม้ลงมือกับฉันได้ยังไง เราเลิกกันเถอะ!!!” หยูลี่พูดออกมาด้วยความโมโหแล้วเดินจากไป
เธอโมโหมากจริงๆ และไม่คิดว่า เสี่ยวจื่อเหิงจะหวาดกลัวลู่เฉินถึงขั้นนี้ กระทั่งกล้าตบหน้าเธอต่อลู่เฉินและคนอื่นๆได้ นี่เป็นการทำให้เธออับอายขายหน้าจริงๆ
"อะไรนะ! เลิกกัน?”
พวกเขามองหน้ากันไปมา นึกไม่ถึงว่านางฟ้าหยูลี่ที่พวกเขาใฝ่ฝัน จะกลายมาเป็นแฟนของ เสี่ยวจื่อเหิงได้
เดิมที เสี่ยวจื่อเหิงจะตามไป แต่เมื่อเขาก้าวออกไปได้เพียงสองก้าวก็หยุดลง
ลู่เฉินมอง เสี่ยวจื่อเหิงด้วยสายตาเยือกเย็นและหันหลังกลับไปพูดกับหลี่หงเหม่ยว่า “พี่หลี่ครับ วันนี้พี่พาเสียวเป่ากลับบ้านไปก่อน พักผ่อน 2 วันค่อยกลับมาทำงานใหม่”
"คุณลู่ พี่......พี่อยากลาออกแล้ว” หลี่หงเหม่ยคิดได้ว่าลู่เฉินไม่ใช่คนของบริษัทนี้ แม้วันนี้เขาจะมาช่วยลูกชายเอาไว้ได้ทันแต่ครั้งหน้าล่ะ?
ลู่เฉินจะมาช่วยเธอทุกครั้งได้อย่างไรกัน? และเธอเองก็ไม่กล้าให้ลู่เฉินมาช่วยเสียทุกครั้งไป
"วางใจได้เลยครับ นับจากนี้เป็นต้นไปจะไม่มีใครกล้ารังแกพี่อีก ถ้าใครรังแกพี่ ผมก็จะได้เขาออก” ลู่เฉินพูดด้วยท่าทางแน่วแน่
เสี่ยวจื่อเหิงมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ในใจเขาจดจ่อกับคำพูดของหยูลี่ แต่ไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของลู่เฉิน
แม้ว่าลู่เฉินจะไม่ได้พูดถึงหยูลี่โดยตรง แต่คำพูดของลู่เฉินก็ทำให้ เสี่ยวจื่อเหิงเจ็บแค้นเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์