บทที่ 25 คนที่คอยช่วยพวกคุณอยู่เบื้องหลังก็คือผมเอง
โดยเฉพาะวังเสวี่ยและหลินอี้เจีย ในใจของพวกเขานั้นล้วนเต็มไปด้วยความโกรธขั้นสุด
ไม่มีใครชอบที่จะถูกหลอก โดยเฉพาะการโดนหลอกจากคนที่ตนเองไว้ใจ
หลินอี้เจียจ้องเขม็งไปยังหูหง เพราะในบรรดาคนพวกนี้หูหงเป็นคนที่น่าโมโหมากที่สุด “ช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟังหน่อย!”
“ผม…อี้เจีย…คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ ผมรักคุณจริงๆนะ” หูหงพูดพลางมองไปยังหลินอี้เจีย ภายในใจเต็มไปด้วยความเสียใจและความกลัว
“คุณออกไปเถอะ ความรักจอมปลอมของคุณฉันรับไว้ไม่ได้หรอก และฉันก็ไม่สามารถชอบคนโกหกแบบคุณได้!”หลินอี้เจียตะโกนไล่หูหงให้ออกไปด้วยความโกรธ พลางชี้นิ้วไปที่ประตูทางออกของบ้าน
“อี้เจีย ผมขอโทษ” ใบหน้าของหูหงซีดลงฉับพลันเมื่อได้ยินคำขับไล่ ใบหน้ากลมเต็มไปด้วยความละอายแก่ใจ
“ออกไปสิ!” หลินอี้เจียออกปากขับไล่หูหงออกไปอย่างไร้ความปราณี
เมื่อเห็นหูหงยังคงยืนนิ่งไม่คิดจะขยับตัวไปไหน วังเสวี่ยจึงลุกขึ้นและผลักหูหงให้ออกไปจากที่นี่
หลังจากนั้นทุกคนในบ้านต่างก็เงียบงัน
"แม่คะ ถ้าไม่ใช่ความช่วยเหลือจากหูหง แล้วใครเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเรากันแน่คะ?" หลินอี้จุนตัดสินใจพูดทำลายความเงียบในที่สุด
วังเสวี่ยส่ายหัว เพราะเธอก็คิดไม่ออกเช่นกัน
พวกเธอไม่ได้รู้จักคนใหญ่คนโต จึงคิดไม่ออกว่าใครกันที่แอบช่วยเหลือเธอและลูกสาว
“เป็นไปได้ไหมที่คนใหญ่คนโตบางคนมาช่วยเราอย่างลับๆ หลังจากที่ได้พบลูก?” วังเสวี่ยนึกถึงเรื่องตลกของหลินอี้เจียก่อนหน้านี้จึงพูดแทรกอย่างกะทันหัน
“จะเป็นไปได้ยังไง ความสัมพันธ์ของหนูกับลู่เฉินกำลังพัฒนาไปได้ดี และหนูไม่รู้จักคนใหญ่คนโตที่ไหนเลย” หลินอี้จุนส่ายหัวอย่างรีบร้อน แต่ภายในใจของเธอก็แอบมีความสงสัยเพียงเล็กน้อย
“มีคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน” จู่ๆหลินอี้เจียก็พูดแทรกขึ้นมา
“ใคร?" คำพูดของหลินอี้เจียดึงดูดความสนใจของทุกคน
“พี่เขยไง ฉันจำได้ว่าวันนั้นในโรงพยาบาล เขาบอกใบ้ว่าไม่ใช่หูหงที่ช่วยแม่ในการจัดการธุรกิจของกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย แต่ในตอนนั้นพวกเราต่างไม่เชื่อเขาเลย เมื่อกี้เขาก็สาบานและพูดว่ามันไม่ใช่ความช่วยเหลือจากหูหงไม่ใช่เหรอ และเขายังขอให้หูหงเรียกพ่อของตนเองมาเผชิญหน้าด้วย แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าทั้งพ่อทั้งลูก พวกเขาจะเป็นคนเจ้าเล่ห์และไร้ยางอายขนาดนั้น” หลินอี้เจียอธิบาย
หลินดาไห่ผู้ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเงียบ
เมื่อวังเสวี่ยและหลินอี้จุนได้ฟังจึงพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อได้สังเกตุพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของลู่เฉิน ลู่เฉินอาจรู้ว่าใครคือคนที่แอบช่วยเหลือพวกเขาอย่างลับๆ
"อี้จุน เมื่อลูกกลับไปลูกก็ลองไปถามลู่เฉินดูว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังในการแอบช่วยพวกเรา พวกเราต้องขอบคุณพวกเขา" หวังเสวี่ยมองไปที่หลินอี้จุนและกล่าว
“อืม” หลินอี้จุนพยักหน้า ไม่ต้องรอให้วังเสวี่ยบอกเธอหรอก เพราะเธอคิดอยู่แล้วว่าหลังจากกลับไปก็จะต้องถามลู่เฉินอยู่แล้ว
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย หลินอี้จุนก็จากไปทันที หลังจากที่หลินอี้จุนจากไปได้ไม่นาน จู่ๆหลินอี้เจียก็พูดต่อหน้าแม่ของเธอว่า "แม่ แม่คิดว่าคนที่ช่วยพวกเราคือลู่เฉินหรือเปล่า?"
“นี่ลูกคิดอะไรอยู่? เขาเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้น ถ้าเขามีความสามารถขนาดนี้ เขาจะเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหรอ?” วังเสวี่ยกล่าวถึงลู่เฉินด้วยความรังเกียจ
“ไม่ใช่แบบนั้น หนูหมายถึงเขาอาจจะขอความช่วยเหลือจากซินเทียนเจ๋อที่เป็นเจ้านายของเขา แม่ลองคิดดูสิเขากับซินเทียนเจ๋อเป็นเพื่อนกัน แถมเรายังเคยมอบบัตรกำนัลให้เขาหนึ่งใบด้วย ถ้าเขาขอให้ซินเทียนเจ๋อช่วยพวกเรา ซินเทียนเจ๋อก็คงไม่กล้าที่จะปฏิเสธ” หลินอี้เจียครุ่นคิดพลางวิเคราะห์ไปด้วย
“สิ่งที่ลูกพูดนั้นก็มีความสมเหตุสมผลอยู่ แต่เราควรจะรอให้หลินอี้จุนถามลู่เฉินเกี่ยวกับเรื่องทุกอย่าง ถ้าหากเขาเป็นคนขอความช่วยเหลือจากซินเทียนเจ๋อจริงๆ แม่จะคืนคำสิ่งที่แม่เคยพูดไปก่อนหน้านี้" วังเสวี่ยพูดออกมาด้วยท่าทางลังเล
ถ้าหากลู่เฉินทำเรื่องแบบนี้จริงๆ เธอจะไม่ทำให้ลู่เฉินต้องยุ่งยากลำบากใจเหมือนเมื่อก่อนอย่างแน่นอน
ทางด้านของหูหงหลังจากที่เขากลับถึงบ้าน หูจุนเฉิงก็เข้ามาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว "เป็นยังไงบ้างพวกเขายกโทษให้แกไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์