บทที่ 254 แปดคนสุดท้าย
“ไม่มี” เสี่ยวจื่อหยวนส่ายหัวโดยไม่คิด
ชายวัยกลางคนผู้นั้นนิ่งเงียบไปสักครู่ ทันใดนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ผมมีวิธีแล้ว!”
“วิธีอะไรกัน?”เสี่ยวจื่อหยวนถามเขา
“หมู่จองยังอยู่ที่ยวี่โจว ผมจะลองโทรหาเขาดู บางทีเรื่องนี้เขาอาจจะช่วยได้” ชายวัยกลางคนพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาหมู่จอง
หมู่จองก็คือคนที่เสี่ยวเบชิงส่งไปเพื่อให้จัดการกับลู่เฉินในตอนนั้นเอง
ครั้งที่แล้ว ณ ฉีเจียง เขาปะทะกับลู่เฉิน อีกทั้งถูกตู้เฟยต่อยเข้าอย่างจังจึงทำให้ช้ำใน เดิมทีเสี่ยวเบชิงต้องการจะเปลี่ยนอีกคนหนึ่งมา แต่เมื่อหมู่จองกล่าวว่า ตนมีวิธีจัดการกับลู่เฉิน ดังนั้นเสี่ยวเบชิงให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง
บัดนี้หมู่จองได้ซ่อนตัวอยู่ในยวี่โจวเพื่อรอโอกาสจับตัวลู่เฉิน
เนื่องจากเสี่ยวเบชิงไม่ต้องการให้ลู่เฉินถึงแก่ชีวิต เธอต้องการให้ลู่เฉินมีชีวิตกลับมาหาเธอ
ก่อนหน้านี้เธอได้ทำการสืบค้น พบว่าลู่เทียนซิงล้มละลายกิจการในครอบครัว และได้มอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับลู่เฉิน เธอจะต้องนำเงินเหล่านี้มาไว้ในครอบครองให้ได้
พูดตามหลักของกฎหมาย เธอนั้นเป็นภรรยาคนที่หนึ่งของลู่เทียนซิง สมบัติทั้งหมดของลู่เทียนซิงควรจะต้องเป็นของเธอครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้กลับกลายไปเป็นของลู่เฉินทั้งหมด แน่นอนว่าเธอต้องไม่พอใจ
และนี่ก็คือเหตุผลที่หมู่จองซ่อนตัวในยวี่โจวเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม
จับเป็นลู่เฉิน
......
ขณะนี้ลู่เฉินนั่งหลับตารวบรวมสมาธิอยู่ข้างๆหลานหลิน ที่นี่คือห้องสำหรับเก็บตัวผู้เข้าแข่งขัน แต่ลู่เฉินไม่ได้สูญเสียพลังงานไปแม้แต่น้อย เขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพักผ่อน
อีกทั้งเขาและผู้แข่งขันคนอื่นๆไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจรจากัน ดังนั้นเขาจึงได้หลับตาลง
เมื่อมองเห็นลู่เฉินหลับตารวบรวมสมาธิ หวังยาวจุนและหวู่จองหัวจึงได้ลดเสียงการสนทนาลงมา
หวู่จองหัวเองก็ได้เข้าร่วมแข่งขันการเดิมพันหินอัญมณีเช่นกัน แต่เขาเข้าไปได้ถึงแค่เพียงรอบ 32 คน ในรอบการแข่งขันที่ 2 เขาก็ได้ถ้าแพ้ลง ขณะนี้ลู่เฉินได้แข่งขันเข้าไปในรอบ 16 คน ซึ่งไม่เพียงแต่เขา แม้แต่ลูกศิษย์คนอื่นๆก็มองดูลู่เฉินด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
เนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายได้กล่าวร้ายดูถูกลู่เฉินไว้ต่างๆนานา ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกว่าตนจึงจะเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ
จากการที่ลู่เฉินได้เข้ามาอย่างรอบ 16 คนสุดท้าย ก็หมายความว่าลู่เฉินได้ขึ้นเป็นหนึ่งใน 16 คนแรกของประเทศแล้ว เก่งกว่าอาจารย์ของเขาด้วยซ้ำไป
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงก็ทำการแข่งขันครั้งที่ 3
คนที่เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไม่มีใครเป็นผู้อ่อนแอ ในรอบนี้คู่แข่งขันของลู่เฉินมาจากสมาคมหินอัญมณีจงหยวน
เป็นชายชราอายุประมาณ 50 กว่าปี
“เจ้าหนู แกยอมแพ้เสียเถิด อย่าหาว่าฉันรังแกเด็กที่ไม่มีความสามารถเลย” ชายชรามองไปยังลู่เฉินด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
ลู่เฉินมองไปยังต้นเสียง เขาไม่ได้มีท่าทีโกรธแค้นใดๆ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ถ้าหากว่าคุณกลัวก็กลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายให้สงบสุขซะ อย่าได้วิ่งออกมาเพ่นพ่านให้อายคนอื่น”
เดิมทีเขาไม่ใช่คนที่ไร้มารยาทเช่นนี้ แต่ตาแก่นี่ทำตัวเสียมารยาทกับเขาก่อน แน่นอนว่าลู่เฉินก็ไม่เกรงใจเขาเช่นกัน
“หึๆ รนหาที่ตาย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำให้แกแพ้อย่างราบคาบ” ชายชราผู้นั้นหัวเราะหึๆ และหยิบหินอัญมณีขึ้นมาเพื่อทำการตัดสินน้ำหนัก
แม้ลู่เฉินจะเข้ามายังรอบ 16 คนสุดท้ายได้ แต่เขาเองก็ได้ติดตามการแข่งขันก่อนหน้านี้และเห็นว่าลู่เฉินไม่ได้มีสิ่งใดวิเศษไปกว่าคนอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าลู่เฉินเพียงแต่โชคดีที่พบกับสู้ต่อสู้ที่ไม่มีความสามารถเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นดูจากอายุของลู่เฉินแล้ว จะเข้ามาในรอบ 16 คนสุดท้ายได้อย่างไร?
กระทั่งคิดไปเองว่าการที่ลู่เฉินได้เข้ามาแข่งขัน ณ ที่นี้เป็นการทุจริตเพื่อให้ได้เข้ามาเท่านั้น
ชายชราเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ หินอัญมณีที่เขาหยิบขึ้นมานั้น ภายในคือหยกชนิดหนึ่งและน้ำหนักความคลาดเคลื่อนเพียงแค่ 27 กรัมซึ่ง สำหรับความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยเพียงนี้พูดได้ว่า ติด 1 ใน 16 ของประเทศเลยก็ว่าได้
“เจ้าหนู ถึงตาแกแล้ว” ชายชราผู้นั้นมองลู่เฉินด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์