คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 290

บทที่ 290 ใส่ร้าย

"เออ เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้ไอ้เจ้านี่ก็คือร้อนตัวขึ้นมา จากนั้นถึงมาคุกคามพวกเรา"เซี่ยซู่พยักหน้าและพูด

"เขาไม่เพียงแต่คุกคามพวกเรา ยังคิดจะให้พวกเราไปต่อต้านกับตระกูลหลานในเมืองจงหยวนอีก จองตั๋วเครื่องบินเลย วันนี้พวกเราต้องออกจากเมืองยวี่โจวแน่นอน จากนั้นไปจ้างนักฆ่ามืออาชีพมาฆ่าเขา"สายตาของไจ้เย้าหวยปรากฏความฆาตกรรมออกมา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจองตั๋ว

ทั้งสองคนจองตั๋วเสร็จ ก็ไปที่สนามบินโดยตรง

……

ณ วิลล่าตระกูลหลาน

"คุณหนูครับ ก่อนหน้านี้ลู่เฉินได้ไปพบไจ้เย้าหวยและเซี่ยซู่ที่โรงแรมแล้ว"หลานของรายงานข้อมูลข่าวสารที่ตัวเองได้ยินมาให้กับหลานหลิน

"แล้วนังไงต่อ ลู่เฉินไม่ได้ฆ่าพวกเขาเหรอ?"หลานหลินถาม

"ไม่ครับ ตอนนี้ไจ้เย้าหวยและเซี่ยซู่ได้ไปที่สนามบินแล้ว แต่ผมได้ตรวจสถานเที่ยวบินของพวกเขา ยังมีอีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะบิน คุณหนูครับ พวกเราสามารถฆ่าพวกเขาสองคนแบะใส่ร้ายลู่เฉิน"สายตาของหลานของปรากฏความโหดเหี้ยมขึ้นมา

สายตาของหลานหลิมีการดิ้นรนบางอย่าง เงียบขรึมอยู่กับที่

"คุณหนูคะ ฝั่งของตระกูลได้ลงคำสั่งแล้ว พวกเขามีความสนใจต่อเทคโนโลยีอี้ฉีของลู่เฉินเป็นอย่างยิ่ง ให้พวกเรารีบเอาเทคโนโลยีอี้ฉีลงมาให้ได้ ความสามารถของลู่เฉินแข็งแกร่งกว่าที่เราคิด ถ้าหากแข่งกันในทางตรง พวกเราอาจไม่สามารถเอาชนะลู่เฉินได้ แต่ถ้าหากเราสร้างปัญหาความวุ่นวายให้เขาไปเรื่อยๆ เขาจะต้องยุ่งแต่ไปจัดการเรื่องอื่นแน่นอน พอถึงเวลานั้นพวกเราถึงมีโอกาสชนะเขาได้"หลานจิงพูดโน้มน้าวใจเธอ

หลานหลินไม่พูด และขมวดคิ้วขึ้นมา

เขาไม่อยากถึงวันที่ต้องแข่งกับลู่เฉิน แม้กระทั่งเธอยังคิดแผนขึ้นมาเสร็จ จะให้ลู่เฉินหย่ากับหลินอี้จุน จากนั้นเธอก็ฉวยโอกาสนี้เข้าใกล้ลู่เฉิน

แต่สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อวานเธอได้รับรับการมอบหมายที่แทบจะทำไม่ได้สำหรับเธอ

นั่นก็คือยึดเทคโนโลยีอี้ฉีของลู่เฉินมาเป็นส่วนตัว

จากความเข้าใจที่เธอมีต่อลู่เฉินในช่วงเวลานี้ เธอรู้ว่านี่เป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จ แต่เธอไม่กล้าพูด

เพราะถ้าหากเธอบอกว่านี่เป็นงานที่ทำสำเร็จไม่ได้ ตระกูลหลักก็จะสั่งให้คนที่มีความสามารถกว่าเธอมา

หลานหลินไม่อยากให้ตระกูลหลักต้องสั่งคนที่มีความสามารถกว่ามา

ตระกูลหลักของตระกูลหลานไม่ใช่ตระกูลหลานในเมืองตงหยวน แต่เป็นหนึ่งในตระกูลที่ลึกลับในโลก ถ้าหากตระกูลหลักสั่งคนเก่งมา เธอเชื่อว่าลู่เฉินจะต้องถูกคนเก่งที่มาจากตระกูลหลักฆ่าแน่ๆ

"เออ เรื่องนี้คุณไปจัดการเถอะ"หลานหลินไม่อยากต้องทำจนเกินไป ไม่นั้นเธอเชื่อว่าหลานจิงจะบอกเรื่องทุกอย่างของเธอให้พ่อเธอแน่นอน ไม่แน่คุณพ่ออาจมาจัดการลู่เฉินเองที่เมืองยวี่โจวด้วย

หลานจิงพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์และโทรออกไป

"อย่าให้ไจ้เย้าหวยและเซี่ยซู่กลับไปถึงเมืองจงไห่"เขาแค่พูดประโยคเดียว จากนั้นก็วางสาย เขาเชื่อว่าลูกน้องของเขาต้องเข้าใจความหมายของเขาแน่นอน

"คุณหนูครับ สิ่งที่พวกเราจะทำต่อก็คือ นำความขัดแย้งระหว่างไจ้เย้าหวยและเซี่ยซู่สองคนกับลู่เฉินเผยแพร่ออกไป และนำรูปภาพของเขาที่ไปพบทั้งสองที่โรงแรมยวี่โจวในวันนี้โพสต์ไปบนเน็ตด้วย พอถึงเวลานั้น การตายของทั้งสองคนก็จะสามารถใส่ร้ายไปที่เขาได้อย่างสบายๆ"หลานของพูด

"เออ คุณไปจัดการเถอะ"หลานหลินขมวดคิ้วและพูด

หลังจากหลานจิงถอยตัวออกไป หลานหลินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปให้เฉินจือหราน

"จือหราน ทำอะไรอยู่?"หลานหลินถาม

"เมื่อกี้ได้รำไทเก๊กด้วยกันกับคุณปู่ของฉัน กำลังจะไปอาบน้ำ หลินเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"เฉินจือหรานพูด

"ไม่มีอะไร ก็แค่เศร้าโศกเล็กน้อย อยากหาคนนึงไปดื่มเหล้าด้วยกัน เดี๋ยวคุณไปดื่มเหล้ากับฉันไหม?"หลานหลินถาม

"โอเค ไปร้านไหน หรือไปที่คลับของฉัน?"เฉินจือหรานพูด

"โอเค ไปคลับของคุณละกัน"หลานหลินต้องการความเงียบ คลับของเฉินจือหรานเป็นคลับส่วนตัว คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้

"โอเค นั้นฉันอาบน้ำเสร็จก็จะไปนะ คุณไปก่อนเลย"เฉินจือหรานพูด

หลานหลินวางสาย จากนั้นก็ออกจากบ้านไปที่คลับของเฉินจือหราน

……

หลังจากลู่เฉินออกมาจากโรงแรมแห่งเมืองยวี่โจว ก็กลับบ้านโดยตรง ส่วนไจ้เย้าหวยกับเซี่ยซู่ เขาได้ให้โอกาสแก่พวกเขาแล้ว ถ้ายังมีครั้งต่อไป เขาบอกแล้วว่าจะฆ่าพวกเขาจะคือจะฆ่าแน่นอน

นิสัยอย่างเขา แม้ว่าวิ่งไล่ตามจนถึงเมืองจงไห่ เขาก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่นอน

หกโมงเย็น ลู่เฉินไปทำกับข้าวที่ครัวเหมือนปกติ ถ้าวันปกติเขาชอบทำกับข้าวกินเอง ไม่ค่อยชอบอาหารข้างนอก

"พ่อคะ โทรศัพท์ของพ่อดังขึ้นค่ะ"ฉีฉีหยิบโทรศัพท์ของลู่เฉินและวิ่งไปทางห้องครัว

ก่อนที่ลู่เฉินจะทำกับข้าวก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้บนโซฟา ฉีฉีเลยเอาไปดูการ์ตูน

"โอเค พ่อมาดูว่ามครโทรมานะ"ลู่เฉินเช็คมือและรับโทรศัพท์มาดู ตู้เฟยโทรมานั่นเอง

"อาเฟย"ลู่เฉินรับสายแล้วพูด

"ไจ้เย้าหวยและเซี่ยซู่ตายไปแล้ว"ตู้เฟยพูด

"ตายไปแล้ว?"ลู่เฉินตะลึง และเปลี่ยนท่าการถือโทรศัพท์"เกิดขึ้นเมื่อไหร่?"

"หนึ่งชั่วโมงก่อน ถูกคนยิงฆ่าในสนามบิน ตำรวจกำลังจับคนอยู่ แต่ดูเหมือนยังจับตัวไม่ได้"ตู้เซฟพูด

"เออ ตายไปแล้วก็ดี ไม่ต้องให้ฉันลงมือเอง"ลู่เฉินพูดอย่างไม่สนใจ

"แต่ตอนนี้มีคนโพสต์รูปภาพที่คุณไปพบกับพวกเขาที่โรงแรมแห่งเมืองยวี่โจวในวันนี้ลงบนโซเซียล นี่คือจะใส่ร้ายคุณนะ คุณไม่แปลกใจเหรอ?"ตู้เฟยพูด

"ใส่ร้ายให้ฉัน?"ลู่เฉินขมวดคิ้ว ใครจะมาใส่ร้ายเขาล่ะ

"ฉันได้สั่งคนไปตรวจแล้ว คุณลองคิดดูให้ดี คุณยังไม่ถูกกับใครอีก?"ตู้เฟยพูด ความสัมพันธ์ของเขากับลู่เฉิน ไม่เพียงแค่ง่ายอย่างที่เห็นจากภายนอก

ตอนที่เขารู้จักกับลู่เฉิน เขายังมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก ส่วนเขาก็ได้ออกจากยุทธจักรตั้งนานแล้ว ทั้งสองคนพูดคุยกันไดเอย่างสนุก ล้วนรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนเก่งทางด้านการต่อสู้ จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนกัน

แม้ว่าต่อมาลู่เฉินกลายเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลลู่ แต่ถ้าหากไม่ใช่ว่าภรรยาของเขาถูกฆ่า เขาก็จะไม่กลับมาที่ยุทธจักรอีกหรอก

แต่พอได้ตกลงกับลู่เฉินว่าจะช่วยเขส เขาก็จะต้องใส่ใจเรื่องทุกอย่างของลู่เฉิน ไม่ให้เขาได้รับอันตรายใดๆ

ดังนั้นเมื่อรู้ว่ามีคนใส่ร้ายลู่เฉิน เขาก็โกรธขรึมอยู่ในใจ ดังนั้นไม่รอให้ลู่เฉินออกคำสั่ง เขาก็เริ่มสั่งให้คนไปตรวจสอบแล้ว

จากนั้นถึงโทรมาให้ลู่เฉิน

"ฉันก็ไม่รู้เช่นกัน หรือเป็นคนของตระกูลจาง จั่ว หลิวสามตระกูลนี้เหรอ?"ลู่เฉินรู้สึกหดหู่มาก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะไม่เป็นเรื่องอะไรมาก แต่นี่เห็นได้ชัดว่า คนนั้นมีความแค้นกับเขาแน่นอน อยากจะให้เขาต้องคลื่นไส้สักหน่อย

"ฉันได้คิดไปทางนี้แล้ว แต่ฉันว่าโอกาสที่เป็นสามตระกูลใหญ่มันไม่มากนัก"ตู้เฟยพูด

ลู่เฉินพยักหน้า เขาก็เห็นด้วยกับความคิดของตู้เฟย

ความขัดแย้งที่เขากับสามตระกูลใหญ่มันช่างมากหรือเกิน สามตระกูลใหญ่รู้ว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้ขะไม่ส่งผลอะไรต่อเขา พวกเขาจะไม่ทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์แบบนี้แน่ๆ

สามตระกูลใหญ่จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขา แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ได้มีความมั่นใจ ก็จะเลือกอดทนไว้ก่อนแน่นอน

แต่ถ้าหากไม่ใช่สามตระกูลใหญ่ จะเป็นใครล่ะ?

ลู่เฉินขมวดคิ้ว คิดไม่ออกว่าตัวเองยังมีความแค้นกับใครอีก