คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 348

บทที่ 348 ตระกูลเฉิงหมดทางเลือก

“คิดว่าตระกูลเฉิงมีความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ลู่เฉินหัวเราะเยาะแล้วหันไปทางฮัวหลุนถามว่า “ฮัวหลุน คุณพูดออกมาเองแล้วกัน ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังมีอะไรปิดบังอยู่อีก?”

ลู่เฉินไม่เชื่อว่าฮัวหลุนจะร่วมมือกับตระกูลเฉิงอย่างกะทันหันแบบนี้มีเหตุผลมาจากตระกูลเฉิงสร้างความกดดันแก่เขา

จากที่เขามองดูเฉินกงหมิงไม่ได้มีอำนาจขนาดนั้น

ก่อนหน้านี้การที่ฮัวหลุนก่อตั้งยวนโจวกรุ๊ปขึ้นมาอาจจะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเฉิง แต่บัดนี้ยวนโจวกรุ๊ป สามารถต่อสู้กับตระกูลเฉิงได้โดยไม่ต้องสงสัย

ถ้าเป็นอย่างนั้นเหตุผลที่ฮัวหลุนเลือกตัดสินใจแบบนี้ต้องมีเหตุผลอื่น

ฮัวหลุนตกตะลึงชั่วครู่ แต่เขาก็กลับมาเป็นปกติในไม่ช้า ยังไม่กล้าสบตากับลู่เฉิน

เขาเพียงมองไปที่เฉินกงหมิงแล้วพูดว่า “หลังจากที่คุณออกไปจากบริษัท ผมได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ผมเชื่อว่าคนในสายสามารถทำให้บริษัทผมล้มละลายได้ภายในหนึ่งวัน ามารถทำให้ผมหมดสิ้นทุกอย่างได้”

“อะไรนะ?แกไม่ได้กลัวฉันถึงได้ตอบตกลงเหรอ?” เฉินกงหมิงอุทานออกมา

ฮัวหลุนหัวเราะเหอะๆแล้วพูดว่า “คุณท่านเฉิงครับ ยุคสมัยของคุณมันจบสิ้นแล้ว ขอบอกตามตรงนะว่าคุณควรที่จะไปหาข้อมูลยวนโจวกรุ๊ปของผมเพิ่มเติมสักหน่อย ตอนนี้พวกเรากลัวคุณอย่างนั้นหรือ?”

“แก......!” เฉินกงหมิงโมโหจนแทบกระอักเลือด เขาคิดไม่ถึงว่าฮัวหลุนกล้าดูถูกเขาแบบนี้

“แกสองคนไม่กลัวว่าจะไม่สามารถออกไปจากต้าหลี่ได้อย่างนั้นเหรอ?” เฉินกงหมิงพูด

ฮัวหลุนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดว่า “ผมให้คำสัญญากับคนในเมืองหลวงแล้ว บอกพวกเขาว่าตระกูลเฉิงของคุณจะช่วยเรากำจัดลู่เฉิน คนที่ปักกิ่งนั้นได้พูดออกมาแล้วว่าถ้าพวกคุณกำจัดลู่เฉินไม่ได้ ตระกูลเฉิงของคุณก็จะไม่เหลืออะไรแม้แต่สิ่งเดียว ดังนั้นคุณก็ควรที่จะคิดหาหนทางว่าจะกำจัดลู่เฉินได้ยังไงดีกว่า”

“ผมจะบอกกับพวกคุณให้นะว่า เขาเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีจริงๆ แต่บังเอิญไปมีปัญหากับผู้มีอำนาจในเมืองหลวงเข้า ดังนั้นพวกเขาต้องการให้ลู่เฉินตายที่นี่ พวกคุณลองไปคิดดูเองแล้วกัน ถ้าหากว่าผู้มีอำนาจในเมืองหลวงนั้นไม่แข็งแกร่งกว่าลู่เฉิน ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถทำให้ผมล้มละลายได้ภายในหนึ่งวัน ผมจะกล้าต่อกรกับเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีเหรอ?”

“ถ้าหากว่าผมอยู่ข้างเดียวกับเขา เขาจะให้ผมเป็นตัวแทนจำหน่ายเทคโนโลยีล้ำค่าของเขาหนึ่งอย่าง กำไรปีหนึ่งไม่ต่ำกว่าแสนล้าน พวกคุณเชื่อผมหรือยังล่ะว่าผู้มีอำนาจในเมืองหลวงคนนั้น มีความสามารถที่จะทำให้ตระกูลเฉิงของคุณไม่เหลืออะไรได้”

“ดังนั้นพวกคุณเก็บไปคิดดูให้ดีเถอะว่าจะจัดการกับลู่เฉินหรือไม่!”

คำพูดของเขาจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง ที่ผู้มีอำนาจในเมืองหลวงนั้นข่มขู่เขาเป็นเรื่องจริง

แต่ไม่ได้ข่มขู่ตระกูลเฉิง!

แล้วยังไงล่ะ เฉินกงหมิงไม่รู้หรอกว่าเป็นเรื่องจริงหรือปลอม เขาเดาว่าเฉินกงหมิงจะต้องคิดแบบเดียวกับเขานั่นคือไม่กล้าเสี่ยงเอาทรัพย์สินของตัวเองมาล้อเล่น

กว่าที่พวกเขาจะมีวันนี้ขึ้นมาได้ ต้องผ่านความลำบากมามากมาย

ให้พวกเขาสูญเสียทุกสิ่งอย่างภายในข้ามคืนอย่างนั้นหรือ???

ดังนั้นต่อให้เป็นเรื่องโกหกพวกเขาก็ยินดีจะเสี่ยง

และบัดนี้เฉินกงหมิงกับเฉิงเฉวียนก็ได้ตกหลุมพรางนี้ไปเรียบร้อย

พวกเขาตกตะลึงกับตัวตนของลู่เฉินเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ตัดสินใจเลือกทางเดินของตน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉิงเฉวียนที่ตอนนี้รู้สึกเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมา

ถ้าเขารู้ว่าลู่เฉินเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉี เขาจะกล้าคิดมิดีมิร้ายกับหลินอี้จุนได้ยังไง?

เขาจะกล้าตัดขาลู่เฉินหรือ? แล้วเขาจะกล้าให้คุณปู่ออกหน้าแทนเขาได้ยังไงกัน!

หากไม่ใช่เพราะเขาไปมีเรื่องกับลู่เฉินเข้า เรื่องราวทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ไหม?

ลู่เฉินหัวเราะแล้วพูดว่า “ฮัวหลุน ผมมองคนผิดไปจริงๆ แต่ผู้มีอำนาจในเมืองหลวงที่คุณว่ามา ผมเดาไม่ผิดรับก็คงเป็นคนที่นำสร้อยหยกเลือดนี้มาประมูลสินะ”

ฮัวหลุนไม่ได้สนใจลู่เฉิน เขาหันไปพูดกับเฉินกงหมิงว่า “นายท่านเฉิง คุณจะไม่เชื่อผมก็ได้ แต่ผมคิดว่าการที่คุณจะเอาความสำเร็จของตระกูลเฉิงหลายสิบปีมานี้เข้าเสี่ยง ช่างไร้ความคิดสิ้นดี จริงอยู่ที่คนอายุมากแล้วจะลงโลงเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วลูกหลานของคุณล่ะ ? คุณคิดว่าคนที่เมืองหลวงนั่นจะปล่อยพวกเขาไปหรือไง?”

“แกกล้าข่มขู่ฉันอย่างนั้นหรือ? ไม่กลัวว่าจะก้าวออกจากตระกูลเฉิงไม่ได้สินะ” เฉินกงหมิงโมโหจนลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าฮัวหลุน

ฮัวหลุนยักไหล่แล้วพูดว่า “ผมก็แค่คิดแทนตระกูลเฉิงเท่านั้นเอง จริงอยู่ที่ว่าผมใช้วิธีการสกปรก ผมผลักตระกูลเฉิงตกน้ำไปด้วย ผมไม่ยุติธรรม แต่ก็ยังดีกว่าที่จะให้ตระกูลเฉิงของคุณไม่เหลืออะไรเลยไม่ใช่เหรอ ?”

“ขอพูดอีกครั้งหนึ่งนะว่า ตระกูลเฉิงของพวกคุณในวันนี้มีเพียง 2 ทางเลือก ทางเลือกที่ 1 ก็คือกำจัดลู่เฉินไปซะแล้วคุณจะได้สิ่งตอบแทนจากคนที่เมืองหลวง หรือว่าทางที่ 2 ปล่อยลู่เฉินไปแล้วรอรับโทษจากเขาผู้นั้น”

“เอาล่ะผมคิดว่าตอนนี้คุณคงจะได้คำตอบแล้วสินะ”

ฮัวหลุนมองไปยังเฉินกงหมิง เขาเชื่อว่าเฉินกงหมิงไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าจะทำตามอย่างที่เขาบอก

“แก! ดี! ดีมาก......” เฉินกงหมิงโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ

เดิมทีเขาคิดว่าฮัวหลุนกลัวเขาจึงได้อ่อนข้อกับเขา คิดไม่ถึงว่าจะถูกฮัวหลุนหลอกใช้จนหัวปรักหัวปรำ

เพียงโดนหลอกใช้ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรไป แต่ที่สำคัญคือผู้มีอำนาจในเมืองหลวงที่เขาพูดถึงนั้นหมายความว่าอะไรกัน?พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปพวกเขาก็คงจะถูกฮัวหลุนกดขี่งั้นหรือ?

วันนี้เขามีทางเลือกเพียงอย่างเดียว

เขาอายุมากแล้วและไม่กล้าเอาทรัพย์สินของตระกูลเฉิงมาเป็นเดิมพัน

“ลู่เฉินใช่ไหม ผมคิดไม่ถึงว่าหลานชายของผมจะไปมีเรื่องกับคนอย่างคุณได้ คุณได้ยินเต็มสองหูแล้วใช่ไหม เดิมทีที่ผมรู้ว่าคุณเป็นใครและเรายินดีจะคุกเข่าขอโทษ แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ คุณลงมือเองแล้วกัน” เฉินกงหมิงพูดจบบอดี้การ์ดกว่ายี่สิบคนก็เดินเข้ามาล้อมลู่เฉินเอาไว้

บอดี้การ์ดพวกนี้เขาเชิญมาจากจงตง รูปร่างสูงใหญ่กำยำ คนหนึ่งสามารถต่อสู้กับคนธรรมดาได้ 7-8 คนเลยทีเดียว

เมื่อเห็นบรรดาบอดี้การ์ดเริ่มลง ฮัวหลุนจึงได้วางใจขึ้นมาบ้าง

เขานึกในใจว่า อย่าว่าแต่ 20 กว่าคนเลย ต่อให้มีเพียงบอดี้การ์ดคนเดียวลู่เฉินก็สู้ไม่ได้แล้ว

เพียงแต่เมื่อเขาหันหลังกลับไป พบว่าแววตาของลู่เฉินเต็มไปด้วยความพร้อมที่จะต่อสู้

ทำไมลู่เฉินเขาถึงสามารถควบคุมสติอารมณ์ได้นิ่งขนาดนี้กัน?

เขาไม่กลัวว่าเฉินกงหมิงจะฆ่าเขาจริงๆอย่างนั้นสินะ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์