คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 378

บทที่378 รถโดนขโมยไปแล้ว

“ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาสวยมาก น่าจะเป็นคนจีนสินะ”ชายเกาหลีตะโกนพูด

ชายหนุ่มอีกคนที่เมาเดินมาทางเฉินจิง ก่อนจะพยักหน้า “สวยจริงๆนั่นแหละ ผู้หญิงที่สวยที่สุดในเกาหลีของเรายังสวยไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเธอเลยมั้ง”

“โง่รึไง ผู้หญิงคนนี้ก็หน้าตาธรรมดา จะเอามาเทียบกับสาวสวยของเกาหลีเราได้ยังไงกัน แต่รูปร่างนี่สุดยอดไปเลย”ชายหนุ่มคนที่สามส่ายหน้าไปมา ดูเหมือนเขาจะยังไม่ถึงขั้นเมามาก

จริงอยู่ที่เฉินจิงไม่ถึงขั้นสวยล่มเมือง แต่บุคลิกของเธอสง่างาม ดูไปแล้วหน้าตาสวยกว่าดาราหลายๆคนเลย มันก็ไม่น่าแปลกที่ชายเกาหลีจะถูกดึงดูดใจทันทีแบบนี้

“ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอหน้าตาไม่คุ้นเลย น่าจะเพิ่งมาได้ไม่นาน เฮ้ยพวกเรา คืนนี้เรามาหาอะไรสนุกทำกันดีกว่า”

ชายเกาหลีกลุ่มนั้นมองไปทางเฉินจิงอย่างหื่นกระหาย ก่อนจะพูดภาษาเกาหลีระรัวก่อนจะเดินเข้ามาอย่างหาเรื่อง

พวกเขามีความสัมพันธ์ที่กับคนอังกฤษที่นี่ไม่น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นนักลงทุนจากประเทศอื่นในสายตาเลย

อีกอย่างพวกเขาก็มากันเป็นกลุ่ม จึงยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่

ลู่เฉินเหลือบมองไปที่กลุ่มชาวเกาหลี จากนั้นก็เดินเข้าไปที่โรงแรม แค่ตัวตลกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเองเฉินจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของเธอเริ่มกังวลเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้พูดอะไร และทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในโรงแรมตามหลังลู่เฉินไป

““คนกลุ่มนี้เองก็มาเจรจาร่วมลงทุนกับเสด็จท่านซางปาเหมือนกันค่ะ”เฉินจิงเดินตามหลังลู่เฉินจนทัน ก่อนจะกระซิบบอกลู่เฉิน

ลู่เฉินพยักหน้าให้ แต่เขาไม่มีท่าทีจะสนใจคนกลุ่มนี้เลย

คนเกาหลีกลุ่มนนั้นเห็นพวกเขาเดินเข้ามาในโรงแรม จึงเดินตามหลังมาติดๆ

เฉินจิงเห็นว่าพวกเขาพักอยู่ชั้นเดียวกัน พอเห็นพวกเขาเดินตามหลังมาติดๆ เธอก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา

ไม่ต้องให้ลู่เฉินพูดอะไร พอเห็นชาวเกาหลีเดินตามหลังมา เสี่ยวจิงกับหลินตงก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องของเฉินจิงแล้ว

รอจนพวกเขาเดินเข้ามา ทั้งสองคนไม่พูดอะไร จัดการต่อยหมัดใส่พวกขี้เมาจนล้มหงายหลัง ถึงขนาดกล้าพุ่งความสนใจมาที่คนของพวกเขา คนเกาหลีพวกนี้รนหาที่ตายกันหรือไง

“บ้าเอ้ย ไร้น้ำยาถึงขนาดนี้ยังจะกล้าเข้ามาหาเรื่องอีก ถ้าอยู่ที่ยวี่โจว ฉันฆ่าพวกนายไปนานแล้ว”หลินตงสะบัดมือ ก่อนจะพ่นน้ำลายใส่อีกฝ่าย

คนเกาหลีกลุ่มนั้นนอนหงายอยู่บนพื้นทางเดิน ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด ตอนนี้พวกเขาหายเมาแล้วเรียบร้อย

พอเห็นสีหน้าท่าทางโหดร้ายของหลินตงกับเสี่ยวจิง พวกเขาก็รีบช่วยกันพยุงตัวลุกขึ้นมา แล้ววิ่งหนีไปทันที

วันต่อมา ลู่เฉินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมา ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เขาเดินไปเปิดประตู จึงเห็นหลินตงกับเสี่ยวจิงขมวดคิ้วมุ่งเดินเข้ามา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”ลู่เฉินมองหน้าทั้งสองคนอย่างสงสัย

“บ้าเอ้ย รถของเฉินจิงถูกผมขับไปทำหายไปแล้วครับ”หลินตงพูดอย่างอารมณ์เสีย

เงินค่ารถไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อีกทั้งทางบริษัทเองก็สามารถชดเชยค่าเสียหายให้เฉินจิงได้ แต่้ขาแค่รู้สึกเสียหน้ามาก

เช้าวันนี้เขากับเสี่ยวจิงตื่นเช้ามาก พอเห็นว่าลู่เฉินยังไม่ตื่น ทั้งสองคนจึงขับรถของเฉินจิงออกไปรับลมเล่น

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามาทวีปแอฟริกาใต้ พวกเขาจึงรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาจึงขอกุญแจรถจากเฉินจิงมา

ถึงแม้ว่าชาวประเทศเจียซือทั้งประเทศจะยากจน แต่ก็มีของแปลก ๆ มากมาย พวกหลินตงจึงรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที จึงพากันเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาซื้อของแปลกประหลาดจำนวนมากเสร็จและกลับไปที่ลานจอดรถ พบว่ารถหายไปแล้ว

เสี่ยวจิง โทรแจ้งตำรวจในเวลานั้นทันที แต่หลังจากรอมาเกือบชั่วโมงตำรวจท้องที่ก็รีบเข้ามาจากนั้นตำรวจก็ไม่สนใจ เพราะทั้งสองฝ่ายมีอุปสรรคด้านภาษา

เมื่อเขาได้ฟังเรื่องราวที่หลินตงเล่าจนจบลู่เฉินก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เรื่องค่าเสียหายไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องนี้มันน่าอับอายมาก และไม่สะดวกที่จะออกไปไหนโดยไม่มีรถด้วย

"ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่แย่ถึงขนาดนี้เลยเหรอ กล้าขโมยรถกลางวันแสกๆแบบนี้" ลฃลู่เฉินพูด

"ใช่ค่ะ ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่แย่มาก แต่คนในพื้นที่โดยทั่วไปจะไม่กล้าเพ่งเป้าหมายไปที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน เพราะได้ทำการฝากฝังตัวไว้กับรัฐบาลท้องถิ่นของที่นี่ไว้แล้วแต่ตราบใดที่คุณยินดีจ่าย คุณก็สามารถซื้อนักฆ่าไปฆ่าคนได้อย่างเปิดเผยค่ะ "ในตอนนี้เอง เฉินจิงเดินเข้าไปในห้องของลู่เฉินและพูด

“ ฉันคิดส่าเป็นไปได้มากที่จะเป็นชาวเกาหลีเหล่านั้นขโมยรถไป” เฉินจิงพูดต่อ เมื่อคืนที่ผ่านมาเสี่ยวจิงกับหลินตงจัดการพวกขี้เมาชาวเกาหลีอย่างอนาถ เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาไม่กี่คนจะตอบโต้พวกเขาแบบนี้

“ ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นพวกนั้นขโมยไปฉันจะฆ่าพวกมันจริงๆแน่!” หลินตงพูดอย่างโมโห

เขาเป็นคนเดียวที่ทำเรื่องแบบนี้มาโดยตลอด และไม่เคยมีใครกล้าขโมยรถของเขาแบบนี้ ที่ทำให้เขาโมโหที่สุดคือวันนี้การแจ้งความไม่มีประโยชน์อะไรเลย

"น่าจะเป็นพวกเขา ออกไปดูว่าจะพบเบาะแสบางอย่างหรือไม่" แววตาเยือกเย็นวาบในดวงตาของลู่เฉินน่ากลัวมาก

“ คุณชายคะ มันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะออกไปข้างนอกในวันที่อากาศร้อนจัดแบบนี้ ถ้าเป้าหมายของพวกเขาคือจริงๆพวกเขาน่าจะมาที่โรงแรมเพื่อหาพวกเราเอง” เฉินจิงกกล่า

ลู่เฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและรู้สึกว่าสิ่งที่เฉินจิงพูดนั้นสมเหตุสมผลจริงๆข้างนอกมันร้อนมากและไม่เหมาะกับการออกไปข้างนอก

“ งั้นก็รอ” ลู่เฉินพยักหน้าและพาคนสองสามคนไปที่ห้องอาหารของโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารค่ำ

หลังจากรับประทานอาหารแล้วหลายคนก็กลับไปที่ห้องเพื่อเล่นสนุกด้วยตนเอง

ลู่เฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศประเทศเจียซือออกมาอ่าน ดังนั้นเขาควรเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศนี้ก่อน

หลังจากดูมาสักพักลู่เฉินก็ตระหนักว่าประเทศนี้วุ่นวายกว่าที่เขาคิดไว้ อีกทั้งยังมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นตลอดทั้งปีด้วย

เขาเข้าไปที่เว็บไซต์ที่นี่และหลังจากแปลเสร็จเขาก็เห็นข่าวพาดหัวทันทีว่ากษัตริย์เจ้าผู้ครองนครปาเอ่อจ้างทหารรับจ้างกว่าสองพันคนเพื่อโจมตีเสด็จท่านเจียซือ เสด็จท่านเจียซือได้ขอความช่วยเหลือจากอังกฤษแล้ว ทางอังกฤษยังส่งทีมทหารรับจ้างหลายพันนายไปสนับสนุนพวกเขาและพวกเขาจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นี่คือจังหวะของสงครามกลางเมืองอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ

ลู่เฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็โทรหาตู้เฟยเพื่อและจัดการอะไรบางอย่าง

ตอนหกโมงเย็นแล้ว เฉินจิงจึงเดินมาเรียกลู่เฉินไปทานอาหารเย็น

ลู่เฉินจึงถามว่า “คนเกาหลีไม่มาหาคุณเหรอ”

“ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไร”เฉินจิงส่ายหัว

““อืม” ลู่เฉินพยักหน้าให้ เขาเองก็สงสัยเหมือนกัน หรือว่าจะไม่ใช่ฝีมือของคนเกาหลีกลุ่มนั้นกันนะ

“ ที่นี่มีรายการบันเทิงอะไรบ้างในตอนกลางคืน” ลู่เฉินถามขึ้นมาอีกครั้ง

"แค่ผับบาร์เท่านั้นค่ะ ที่นี่มีบาร์เยอะมาก และเป็นที่นิยมมากในหมู่ชาวต่างชาติ พวกเขามักจะไปบาร์ตอนกลางคืนค่ะ" เฉินจิงตอบกลับ

"งั้นคืนนี้พาพวกเราไปที่บาร์ที่ใหญ่ที่สุด เดี๋ยวออกไปเช่ารถกันก่อนเถอะ" ลู่เฉินพูด

“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเอารถอีกคันมาใช้งานแทนนะคะ” เฉินจิงตอบรับ

เฉินจิงรู้ดีว่ารถมีความสำคัญมากแค่ไหน ถึงยังไง ถ้ารถคันนั้นจะหากลับมาได้ มันก็ยังสามารถใช้งานได้ ดังนั้นวันนี้เธอจึงพาบอดี้การ์ดสองสามคนออกเดินทางไปซื้อรถใหม่มาอีกหนึ่งคัน

“อืม งั้นก็ได้” ลู่เฉินพยักหน้า

แววตาของหลินตงและเสี่ยวจิงเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินว่าพวกเขากำลังจะไปเที่ยวผับกันในคืนนี้

พวกเขาไม่คุ้นเคยกับที่นี่มากนัก และตอนกลางคืนก็ไม่มีอะไรทำ ดังนั้นการไปเที่ยวผับเพื่อฆ่าเวลามันก็ดีเหมือนกัน

ถ้าได้ดื่มเหล้าเข้าไป ตอนกลับไปถึงห้องจะได้นอนหลับสบาย

หลังจากินอาหารเย็นเสร็จ เมื่อเห็นว่าท้องฟ้ายังไม่มืด ทุกคนจึงนั่งรอไปอีกหนึ่งชั่วโมงกว่า ถึงจะเดินทางไปที่ผับ โดยมีเฉินจิงเป็นคนนำทาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์