บทที่ 389 ลูข่าหักหลัง
นี่ก็ไม่ต้องโทษจินจื้อหยุ่งที่มีความคิดแบบนี้
เนื่องจากในเจียซือมีนักลงทุนชาวหัวเซี่ยจำนวนน้อยมาก และก่อนหน้านี้หนึ่งในนั้นก็มีตระกูลโจว
ซึ่งต่างจากเกาลี่ที่มีการลงทุนหลากหลายธุรกิจในเจียซือ ดังนั้นสถานกงสุลเกาลี่จึงเป็นที่นิยมของชาวเจียซือ
จินจื้อหยุ่งจึงมีความคิดที่ว่าตัวเองเหนือกว่าหวงไห่ทาวและเอกอัครราชทูตประเทศอื่นๆ
หวงไห่ทาวเลิกคิ้ว เขารู้จุดประสงค์ในการมาของจินจื้อหยุ่ง เขามองไปที่ลู่เฉินแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
ก่อนหน้านี้จินจื้อหยุ่งแสร้งทำเป็นบีบเขา คราวนี้เขาจึงวางแผนตบหน้าจินจื้อหยุ่งสักครั้ง
“ขอโทษนะ คุณคงคิดมากไปแล้ว ผมไม่ได้มีเวลามาต้อนรับคุณหรอก ใช่สิ คุณมาหาผมมีธุระอะไร?” หวงไห่ทาวยิ้มจางๆ
จินจื้อหยุ่งเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ที่แท้แล้วหวงไห่ทาวพูดออกมาแบบนั้นก็เพราะอยากทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าชุยหยุ่งจวิ้นสินะ
ก่อนหน้านั้นเขายังคุยโอ้อวดต่อหน้าชุยหยุ่งจวิ้นว่าหวงไห่ทาวเป็คนขี้กลัวและจะต้องโดนพวกเขาจูงจมูกได้แน่ แต่ตอนนี้เขากลับพบว่าหวงไห่ทาวมีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน เขาไม่ไว้หน้าเอกอัครราชทูตเกาลี่เลย
“หวงไห่ทาว คนหัวเซี่ยของพวกคุณขโมยรถของคนเกาลี่ของพวกเราไป คุณต้องส่งตัวเขามา” ท่าทีจินจื้อหยุ่งเปลี่ยนไป เขาพูดอย่างเย็นชา
“คนหัวเซี่ยของพวกเราไปขโมยรถของคนเกาลี่ของพวกคุณ?” หวงไห่ทาวผงะเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะ
เขาทราบมาว่าลู่เฉินมีปัญหาขัดแย้งกับชาวเกาลี่อยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าชาวเกาลี่จะหาข้ออ้างได้ง่อยขนาดนี้
นี่คืออภิมหาเศรษฐีแห่งหัวเซี่ยและเป็นเจ้าของผู้อยู่เบื้องหลังบริษัทเทคโนโลยีอู๋ฉี การที่เขาขโมยรถ ไม่เกรงว่ามันจะน่าหัวเราะไปหน่อยหรือ
หลังจากที่ลู่เฉินกับพวกได้ยินที่จินจื้อหยุ่งพูดแล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าและพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาหันกลับไปมอง นั่นไม่ใช่ชุยหยุ่งจวิ้นที่ทำให้พวกเขาขายหน้าเมื่อค่ำวานหรอกหรือ?
ในขณะนี้ชุยหยุ่งจวิ้นก็เห็นพวกลู่เฉินแล้ว สักพักบนใบหน้าก็แสดงท่าทีหยอกล้อ
“เอกอัครราชทูตจิน พวกเขาสามคนนั่นไง” ชุยหยุ่งจวิ้นชี้ไปยังกลุ่มของลู่เฉิน
จินจื้อหยุ่งมองไปทางลู่เฉินและคนอื่นๆ จากนั้นก็มาพูดกับหวงไห่ทาว “ใช่ พวกเขาสามคนนั่นแหละ เมื่อคืนพวกเขาขโมยรถของพวกเราชาวเกาลี่ที่เมืองหรื่นหม่า”
“นั่นก็คือรถคันนี้” ชุยหยุ่งจวิ้นชี้ไปที่รถออฟโรดที่พวกลู่เฉินขับมา
“ไม่ได้ขโมย แต่แย่งมาต่างหาก” ลู่เฉินยิ้มเบาๆโดยไม่มองชุยหยุ่งจวิ้นและจินจื้อหยุ่งอยู่ในสายตา
คำพูดของลู่เฉินฟังดูเย่อหยิ่งจนทำให้จินจื้อหยุ่งและชุยหยุ่งจวิ้นโมโหแล้วในตอนนี้
“หวงไห่ทาว แม้ว่าชาวหัวเซี่ยอย่างพวกคุณจะจนมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรมาขายหน้าที่เจียซือ บอกว่าไม่ได้ขโมยแต่แย่งไปโต้งๆเนี่ยนะ? พวกคุณชาวหัวเซี่ยยังมีเกียรติกันอยู่ไหม?” จินจื้อหยุ่งชี้ไปที่หวงไห่ทาวโดยตรงด้วยความโมโหพร้อมกับพูดจาถากถาง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม การที่ประธานลู่บอกว่าแย่งมา เขาจะต้องมีเหตุผลของเขา” หวงไห่ทาวยักไหล่โดยไม่ใส่ใจเลยสักนิด
เขาจะใส่ใจไปทำไมกัน?
นี่เป็นถึงเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอู๋ฉี เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะขโมยรถ มันต้องเป็นความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย จากนั้นต่างคนก็ต่างเถียงกัน
ถ้าเป็นนักธุรกิจทั่วไป เขาจะต้องทำการตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อเป็นการไว้หน้าตัวเองและไว้หน้าชาวเกาลี่
แต่นี่เป็นถึงเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอู๋ฉี เจ้านายของเจ้านายของเจ้านายสูงสุดโทรศัพท์มากำชับเขาด้วยตัวเอง อย่างไรเขาก็ไม่กล้ายุ่ง
“คุณ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์