คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 391

บทที่ 391 พระราชวงศ์เจียซือปฏิเสธความร่วมมือ

“เอ๊ะ? ยังไม่มีรายงานมาเลยว่าป๋ายเย่าเคลื่อนกำลัง” หวงไห่ทาวส่ายหน้าพลางมองลู่เฉินอย่างอธิบายไม่ถูก

“พระราชวงศ์เจียซือขอให้อิงลอนเคลื่อนกำลังมาช่วยพวกเขาไม่ใช่เหรอ?” ลู่เฉินพูดยิ้มๆ

หวงไห่ทาวตกใจและตอบสนองทันที

พระราชวงศ์เจียซือกำลังพาหมาป่าเข้าบ้าน!

แต่ที่แน่ๆอิงลอนส่งกองกำลังส่วนหนึ่งไปสนับสนุนพระราชวงศ์เจียซือแล้ว ถ้าเป็นไปตามที่กล่าวไว้ก็น่าจะถึงคืนนี้

เจียซือขอให้กองทัพอิงลอนมาช่วยปกป้องพวกเขา ไม่ใช่ว่าเดินกรีดกรายพาหมาป่าเข้ามา จากนั้นก็โดนหมาป่ากินเสียเองหรอกนะ?

“ประธานลู่ ถ้าสิ่งที่คุณเดานั้นถูกต้อง อย่างงั้นวันนี้พวกเราก็ต้องพากันอพยพออกจากที่นี่ มิฉะนั้นจะไม่ทันการ!” หวงไห่ทาวพูดด้วยความตกตะลึง

ลู่เฉินพยักหน้าและมองดูเวลา “ชาวหัวเซี่ยในเจียซือมีเท่าไหร่? เมืองอื่นๆยังออกเดินทางทัน แต่ในเซิ่งหูอานคาดว่าจะไม่ทันแล้ว”

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าโมงเย็นแล้ว ถ้าคนมีจำนวนมากก็ไม่สามารถอพยพได้ทันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแน่ๆ นี่เป็นเรื่องกะทันหันเกินไป

แต่ถ้าจำนวนคนน้อยก็พอจะใช้เวลาไล่เลี่ยกันได้

พอกองทัพอิงลอนมาถึงเจียซือในคืนนี้จะต้องลงมืออย่างแน่นอน ถ้าพวกเขาสามารถควบคุมพระราชวงศ์เจียซือได้ก็ยังพอคุยกันได้ แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถคุมตัวพระราชวงศ์เจียซือได้ก็จะเป็นการเปิดศึกสงครามอย่างเต็มรูปแบบ เซิ่งหูอานจะต้องตกอยู่ในท่ามกลางความโกลาหล

“แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตอนนี้พวกเราจะต้องรวบรวมพวกเขาทั้งหมดมาที่นี่” หวงไห่ทาวพูดด้วยความแน่วแน่

“อืม” ลู่เฉินพยักหน้า

หวงไห่ทาวบอกลาลู่เฉินแล้วออกไปเตรียมการ

การอพยพไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อสงครามยังไม่เริ่มขึ้นก็ถือว่าโชคดี แต่พอสงครามเริ่มขึ้น สนามบินอาจจะต้องถูกควบคุม ดังนั้นจึงเหลือเพียงการอพยพทางทะเลแล้วให้กองเรือหัวเซี่ยมาช่วยได้เท่านั้น

หลังจากที่หวงไห่ทาวออกไป ในที่สุดเฉินจิงก็โทรศัพท์มาหาลู่เฉิน

ระหว่างคุยโทรศัพท์เฉินจิงบอกว่าในที่สุดเสด็จท่านซางปาก็มาพบเธอและตอบตกลงเงื่อนไขที่ลู่เฉินให้ไว้ก่อนหน้านี้ ตราบใดที่ลู่เฉินช่วยคุ้มกันมณฑลวันทองได้ เขาจะตอบรับเงื่อนไขทั้งหมดที่ลู่เฉินเคยให้ไว้

แต่เงื่อนไขของเขาก็คือคืนนี้เขาต้องได้เห็นกองทัพของลู่เฉิน

สำหรับเรื่องนี้ ไม่ได้เกินความคาดหมายของลู่เฉินเลย เนื่องจากเขารู้อยู่แล้วว่าซางปาไม่มีทางเลือกอื่น

ขอเพียงแค่เขาช่วยซางปาต่อต้านทหารพันธมิตรของปาเอ่อได้สำเร็จ

ลู่เฉินวางสายเฉินจิงแล้วโทรศัพท์หาตู้เฟย

ก่อนหน้านี้ตู้เฟยและคนอื่นๆควบคุมความเร็วมาตลอด คาดว่าจะมาถึงที่ท่าเรือวันทองในเช้าวันพรุ่งนี้

แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เขาจึงต้องให้ตู้เฟยและคนอื่นๆเร่งความเร็วเพื่อให้พวกเขามาถึงล่วงหน้า

“คุณชายใหญ่ พวกเราต้องออกจากเซิ่งหูอานด้วยไหม?”หลินตงถาม

ลู่เฉินส่ายหน้า “ไม่ต้อง”

หลินตงไม่เข้าใจ “ไหนคุณบอกว่าคืนนี้ที่นี่จะมีสงครามไม่ใช่เหรอ พวกเราอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์”

“การที่พวกเราอยู่ที่นี่จะได้ช่วยคุ้มกันคนในประเทศออกไป อีกอย่างก็จะได้นั่งดูพระราชวงศ์เจียซือทำสงครามกับอิงลอน พอถึงช่วงเวลาสำคัญพวกเราก็ไปช่วยพระราชวงศ์เจียซือสักหน่อยเพื่อถือโอกาสแลกเปลี่ยนความร่วมมือ”เสี่ยวจิงอธิบาย

“แบบนี้นี่เอง” หลินตงพยักหน้าเข้าใจในที่สุด

ลู่เฉินหมายความว่าแบบนี้นี่เอง

เขาอยู่ที่นี่ ด้านหนึ่งเพื่อช่วยอพยพ อีกด้านหนึ่งคือแสวงหาโอกาส

หากมีโอกาสช่วยพระราชวงศ์เจียซือพลิกสถานการณ์ พระราชวงศ์เจียซือจะต้องยอมร่วมมือกับเขา

พวกเขาจะต้องได้ยูเรเนียมบนภูเขาเซิ่งซานมาให้ได้

อีกไม่นานบริษัทเทคโนโลยีอู๋ฉีจะได้พัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้ ยูเรเนียมเป็นวัสดุสำคัญ แต่ยูเรเนียมภายในประเทศถูกควบคุมโดยรัฐ เขาจึงต้องออกมาหาที่ต่างประเทศ

ตอนที่เขามาถึง เขาคิดเพียงแค่จะทำสัญญาข้อตกลงหินธรรมชาติเท่านั้น แล้วดูว่ามีแร่หายากที่เขาสามารถทำสัญญาความร่วมมือได้หรือไม่

เขาไม่คาดคิดว่าจะมาเจอกับเหมืองแร่ยูเรเนียมขนาดใหญ่ แน่นอนว่าเขาพลาดไม่ได้

ไม่นานหลังจากที่หวงไห่ทาวจัดเตรียมการอพยพเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับมาหาพวกลู่เฉินอีกครั้ง

“ประธานลู่ พวกคุณยังมีคนที่อยู่ทางมณฑลวันทองหรือไม่ พวกเขาจะมาเมื่อไหร่?” หวงไห่ทาวสอบถาม

“พวกเขาไม่มาแล้ว ทางมณฑลวันทองผมเตรียมการไว้หมดแล้ว” ลู่เฉินพูดยิ้มๆ

ตู้เฟยจะนำทหารกว่าสี่พันนายมาถึงท่าเรือวันทองในคืนนี้ แม้เจ้าผู้ครองนครปาเอ่อกับทหารพันธมิตรของหมี่เล่อจะเปิดสงครามในคืนนี้ พวกเขาก็สามารถคุ้มกันมณฑลวันทองได้อยู่แล้ว

“ครับ เอาล่ะ ทางด้านเซิ่งหูอาน ผมคาดว่าจะเตรียมการแล้วเสร็จประมาณสองทุ่ม พอถึงตอนนั้นพวกเราจะเดินทางไปที่สนามบินกันก่อน” หวงไห่ทาวพยักหน้าพร้อมกับพูด

ลู่เฉินพยักหน้าและจู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า “เอกอัครราชทูตหวง คุณสามารถติดต่อกับพระราชวงศ์เจียซือได้ไหม? ช่วยเราติดต่อกับพวกเขาหน่อย บอกว่าพวกเราสามารถช่วยพวกเขาก้าวข้ามความยากลำบากได้”

“เอ๋?” หวงไห่ทาวมองลู่เฉินด้วยความตกใจ คำพูดของลู่เฉินทำให้เขาไม่ตอบสนองไปชั่วขณะ

“ประธานลู่ คุณหมายความว่ายังไง? พวกเราจะช่วยพวกเขาได้ยังไง? ทางเมืองหลวงให้พวกเราอพยพให้เร็วที่สุดเพราะพวกเขาไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงเจียซือ” หวงไห่ทาวอธิบาย

“เอกอัครราชทูตหวงเข้าใจผมผิดไปแล้ว”

ลู่เฉินยิ้มพลางพูดต่อ “คุณรู้จักสำนักสังหารโกก้างไหม?”

“ครับ”

หวงไห่ทาวพยักหน้าและมองลู่เฉินด้วยความประหลาดใจ “ได้ยินมาว่าผู้ก่อตั้งสำนักสังหารโกก้างเป็นชาวหัวเซี่ย หรือว่าประธานลู่รู้จักพวกเขาด้วย แล้วจ้างพวกเขามาที่เจียซือ?”

ลู่เฉินเลิกคิ้วและพูดว่า “ผมเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งสำนักสังหารโกก้าง คนของผมจะมาถึงที่ท่าเรือวันทองคืนนี้”

ทางกองทัพและเมืองหลวงต่างก็รู้เรื่องที่เขาเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งสำนักสังหารโกก้าง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง

“ห๊ะ!”

หวงไห่ทาวช็อกอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

แต่เมื่อนึกได้ว่าเจ้านายใหญ่ในเมืองหลวงให้ความสำคัญกับลู่เฉินมาก เขาจึงคิดตกได้อย่างรวดเร็ว

ลู่เฉินไม่เพียงแค่เป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอู๋ฉี เขายังเป็นหัวหน้าใหญ่แห่งสำนักสังหารโกก้าง

“ประธานลู่โปรดรอสักครู่ เดี๋ยวผมจะติดต่อพวกเขาให้” หวงไห่ทาวกลับมาตั้งสติและหยิบโทรศัพท์ต่อสายกับทางพระราชวงศ์เจียซือ

โทรศัพท์ต่อสายได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากทั้งสองคุยกันแล้ว ก็วางสายโทรศัพท์อย่างไม่พอใจ

เนื่องจากทางเจียซือไม่สนใจข้อเสนอของหวงไห่ทาว

จะพูดอะไรได้ล่ะ พวกเขาคิดว่าการมีกองทัพอิงลอนก็เพียงพอที่จะช่วยระงับความวุ่นวายภายในของพวกเขาได้แล้ว

“ประธานลู่ เมื่อกี้คุณก็ได้ยินแล้ว พวกเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา ถึงขนาดสงสัยความใจดีของพวกเรา ไร้เหตุผลสิ้นดี”หวงไห่ทาววางสายพลางแสยะยิ้ม

เมื่อครู่นี้เขาเปิดสปีกเกอร์โฟนโทรศัพท์ ดังนั้นลู่เฉินจึงได้ยินท่าทีของพระราชวงศ์เจียซือ

พวกเขาไม่เชื่อชาวหัวเซี่ยจริงๆด้วยและไม่ยอมร่วมมือกับชาวหัวเซี่ย

ถึงขนาดพูดออกมาตรงๆผ่านทางโทรศัพท์ว่าพวกลู่เฉินกับคนอื่นๆไม่น่าไว้วางใจ ทั้งยังจงใจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับอิงลอนอีกด้วย

“หึ พวกเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราก็ช่างเถอะ รอให้ถึงตอนที่พวกเขาถูกพวกอิงลอนลอบกัด พวกเขาถึงจะเข้าใจได้ว่าใครกันแน่ที่โฉดชั่วเหมือนหมาป่า” หลินตงพูดอย่างไม่สบอารมณ์

ลู่เฉินส่ายหน้า เดิมทีเขาต้องการช่วยพระราชวงศ์เจียซือในการรักษาราชวงศ์ให้คงอยู่ แต่พวกเขากลับไม่เห็นคุณค่า งั้นก็ช่างเถอะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์