สรุปเนื้อหา บทที่ 408 ตระกูลหลินยอมแพ้ – คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
บท บทที่ 408 ตระกูลหลินยอมแพ้ ของ คุณพ่อสายเปย์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลู่ลู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 408 ตระกูลหลินยอมแพ้
แต่การเป็นผู้ระดับแข็งแกร่งของเขาฝึกฝนมานานหลายสิบปี แล้วลู่เฉินเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง?
กำลังภายในของเขาแข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้วหรือนี่?
หลินเจิ้นตงมองลู่เฉินด้วยความตกตะลึง หัวใจของเขากระสับกระส่ายสุดขีด
ในขณะนี้หลินเจิ้นตงแทบจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้
ลู่เฉินจะต้องมาจากตระกูลลู่แห่งโลกอิ่นแน่ๆ
ในนาทีนี้โจวซวี่นฉายและผู้อาวุโสแต่ละคนแห่งภาคกลางต่างก็มองตาตั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาจะได้เห็นฉากนี้
หลินโพ่จวูนเป็นถึงนักศิลปะการต่อสู้ระดับแข็งเกร็งที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยปืน แต่กลับไม่คิดเลยว่าฝ่ามือของลู่เฉินจะทำให้เขากระอักได้ ไหนบอกว่าลู่เฉินเป็นแค่นักธุรกิจทั่วไปไง?
นี่ก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้ระดับแข็งเกร็งเช่นกันสินะ!
ช่วงเวลานี้มีเพียงผู้นำครอบครัวตระกูลหลันเท่านั้นที่ไม่ได้ตกตะลึงเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขาเรียบเฉย
เนื่องจากทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่เขาคาดเดา
ทว่าหลินโพ่ไห่ที่เพิ่งถูกซู๋จิงปล่อยตัวก็เบิกตาโพล่ง ในใจหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เพราะเขารู้ว่าพี่สามของเขาแข็งแกร่งมากขนาดไหนและระดับความแข็งแกร่งก็ไม่ได้ต่างจากผู้เป็นพ่อของเขามากนัก แต่กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลู่เฉิน ทั้งยังโดนฝ่ามือจนกระอักเลือด
ถ้าไม่เป็นเพราะเห็นทั้งหมดกับตาตัวเอง ตีให้ตายอย่างไรเขาก็ไม่ยอมเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง
“ที่สหายลู่กำลังฝึกฝนอยู่นั้นคือวิชารักษาสุขภาพอู๋จี๋ใช่หรือไม่”หลังจากตกใจ สีหน้าของหลินเจิ้นตงก็ผ่อนคลายลงราวกับว่าคนที่อยู่ในเงื้อมือลู่เฉินเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ลูกชายของเขา
“คุณรู้จักวิชารักษาสุขภาพนี่ด้วยเหรอ? ดูเหมือนว่าสายตาของคุณไม่เลวเลยทีเดียว” ลู่เฉินสะดุ้งเล็กน้อยและมองไปที่หลินเจิ้นตง
วิชารักษาสุขภาพอู๋จี๋เป็นตำรารักษาสุขภาพของท่านหยุน แฝงไปด้วยศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง น้อยคนนักที่จะรู้
“เมื่อยี่สิบปีก่อนคนตระกูลหลินอย่างผมกับท่านหยุนจงฉีเคยมีวาสนาต่อกันในหลายๆเรื่อง ก็เลยรู้จักวิชามหัศจรรย์นี้ สหายลู่น่าจะเป็นศิษย์ของท่านหยุนสินะ” หลินเจิ้นตงกล่าว
“ก็ไม่เชิง” ลู่เฉินเลิกคิ้วพลางกวาดสายตามองไปยังหลินโพ่ไห่ที่มีสีหน้าหวาดกลัว “ลูกชายคุณล่วงเกินผม ผมก็เลยทำให้มือขวาของเขาใช้การไม่ได้ คุณคงไม่ถือสาหรอกมั้ง”
ตูม!
ทันทีที่คำพูดลู่เฉินออกมาจากปาก ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะเทือนเลือนลั่น
นี่มันกร่างเกินไปแล้ว!
ทำลายแขนข้างหนึ่งของลูกชายเขาไม่พอ แล้วยังถามเขาว่าถือสาไหม นี่มันไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าในที่สาธารณะหรอกหรือ?
คาดไม่ถึงว่าเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะกร่างถึงขั้นนี้ ทำไมพวกเขาไม่รู้เลยสักนิด?
หลินโพ่จวูนและหลินโพ่ไห่มีสีหน้าย่ำแย่มาก ไม่คิดเลยว่าลู่เฉินจะทำตัวกร่างแบบนี้ ทั้งยังไม่เห็นตระกูลหลินของพวกเขาอยู่ในสายตาเลย!
หลินเจิ้นตงหนังตากระตุก ไม่คิดว่าลู่เฉินจะไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงสถานะของลู่เฉินและความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัวของเขาแล้ว เขาจึงยอมแพ้ในที่สุด
“ลูกชายคนเล็กมีตาหามีแววไม่ เขาถึงขนาดกล้าไปยั่วโมโหสหายลู่ได้ เขาเสียแขนไปข้างหนึ่งจะได้หลาบจำไปนานๆ ทางตระกูลหลินต้องขอบคุณสหายลู่ที่เมตตายั้งมือไว้” หลินเจิ้นตงโค้งมือให้ลู่เฉินด้วยความเคารพ
ลู่เฉินยังเด็กมากแต่กลับแข็งแกร่งขนาดนี้ อนาคตจะขนาดไหน แน่นอนว่าเขาจะต้องเป็นผู้ระดับแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้แห่งโลกอิ่น
นอกจากนี้ลู่เฉินยังมีอิทธิพลมากในโลกธรรมดา ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่ตระกูลหลินอย่างพวกเขาจะเข้าไปยุ่งได้
หลินเจิ้นตงเป็นคนรู้จักหนักเบา แม้เขาจะทุ่มเทให้ศิลปะการต่อสู้ แต่ชีวิตที่พลิกผันมานานหลายทศวรรษ ทำให้เขาเข้าใจการเลือกที่จะเก็บหรือปล่อยวาง
ในเวลานี้ในที่สุดโจวเฉินเฉินก็สังเกตเห็นโจวเจินเฟ่ยที่เป็นลมหมดสติไป เธอตกใจและรีบเข้าไปพยุงเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่โจวเฉินเฉินได้พบกับลู่เฉิน เธอเคยได้ยินชื่อบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีมานานแล้ว แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะยังเด็กขนาดนี้
แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าก็คือพี่ชายของเธอตกใจจนเป็นลมไปแล้ว นี่กระทบกระเทือนจิตใจเธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในขณะที่เธอเขย่าตัวโจวเจินเฟ่ยก็มองไปทางลู่เฉิน คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก ชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบกว่า เขาไม่เพียงแค่เป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี แต่ยังทำให้ตระกูลโจวของพวกเธอพยายามประจบประแจงอย่างเต็มที่ไปจนถึงขนาดทำให้ตระกูลหลินที่เธอต้องแต่งงานด้วยหวาดกลัวจนหนีไป
ในตัวเขามีพลังอำนาจแบบไหนกัน?
กล่าวได้ว่าสำหรับโจวเฉินเฉินแล้ว อาจเป็นเพราะการปรากฏตัวของลู่เฉินในเวลานี้ทำให้ตระกูลหลินหวาดกลัวจนหนีไป และทำให้เธอไม่ต้องแต่งงานกับชายมีอายุอย่างหลินโพ่จวูนคนนั้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงมีความรู้สึกดีต่อลู่เฉินเล็กน้อย
แม้จะรู้ว่าวันนี้เขามาคิดบัญชีกับตระกูลโจวของเธอ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเธอไม่ได้รู้สึกเกลียดลู่เฉินเลยแม้แต่น้อย
“เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ ถึงทำให้คนใหญ่คนโตหวาดกลัวเขาจนมีสภาพกลายเป็นแบบนี้?” ในขณะโจวเฉินเฉินประคองพี่ชายคนโตอย่างโจวเจินเฟ่ย เธอก็มองลู่เฉินและพอเห็นผู้อาวุโสในภาคกลางที่กำลังขาสั่นอยู่นั้น ในใจก็รู้สึกประหลาดใจ
เธอเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก
“ประธานลู่ ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่น่าคิดน้อยไปหน่อย ผมไม่น่าให้ลูกชายคนเล็กไปทำลายข้อตกลงความร่วมมือของพวกคุณกับเสด็จท่านซางปาที่เจียซือเลย ผมสมควรตาย!” โจวซวี่นฉายมองลู่เฉินด้วยตัวที่สั่นระริก ตอนนี้เขานึกเสียใจมากที่สุด
ถ้าเขารู้ตั้งแต่แรกว่าลู่เฉินสนใจบุกเบิกช่องทางหินธรรมชาตินั่น เขาคงไม่กล้ามักง่ายแบบนี้จนเป็นการทำลายหนทางข้างหน้าของตระกูลโจว และเขาก็คงไม่กล้ายอมให้โจวเจินเฟ่ยไปทำลายข้อตกลงที่เจียซือ
“หึ ตอนแรกผมอุตส่าห์ไว้ชีวิตลูกชายของคุณที่ยวี่โจวครั้งนึงแล้ว ตอนนั้นไม่คิดว่าเขาจะกล้าลักพาตัวลูกสาวผมไป เดิมทีผมไม่คิดจะฆ่าเขาหรอกนะ แค่อยากจะหักแขนหักขาเขาเสียหน่อย แต่เพราะคุณขอร้องไว้ เพราะฉะนั้นผมก็เลยให้โอกาสเขาอีกครั้งและให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่คุณกลับคิดน้อยไปหน่อย ถ้าผมต้องการทำลายตระกูลโจว คุณคิดว่าตระกูลหลินทางภาคตะวันออกเฉียงใต้จะปกป้องคุณได้งั้นเหรอ? ครอบครัวที่ซ่อนอยู่เก่งกาจมากสินะ แต่คุณลองไปถามหลันอวี่เหิงดูสิว่าเบื้องหลังตระกูลหลันของพวกเขาแห่งโลกอิ่นที่กล้ามาแหย่ผม สุดท้ายแล้วจุดจบเป็นอย่างไร?”
“ตระกูลหลันแห่งโลกอิ่นทั้งหมดโดนผมทำลายไปหมดแล้ว ผมจะสนใจตระกูลหลินภาคตะวันออกเฉียงใต้ไปทำไมกัน?”
นัยน์ตาลู่เฉินเป็นประกายขุ่นเคือง
เดิมทีเขาแค่อยากมาขู่ตระกูลโจวสักหน่อย แต่ตระกูลโจวกลับไม่เห็นคุณค่า นี่จึงทำให้เขาโมโหมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์