บทที่ 471 จะทำอย่างไรต่อไปดี
“พี่เฉินมีสัตว์ประหลาดน้อยติดอยู่กับกระสวยอวกาศเยอะมาก” หลังจากที่กระสวยอวกาศบินขึ้น เสี่ยวจิงก็ดูภาพกระสวยบนหน้าจอ ทันใดนั้นก็เห็นสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนเกาะกระสวยอวกาศไม่ยอมปล่อยเพราะต้องการกลับไปยังยานอวกาศซี-หวั้งกับพวกเขา
ลู่เฉินเหลือบมองแล้วพูดว่า “ไม่ต้องสนใจพวกมัน เดี๋ยวฉันจะเร่งความเร็วเผาพวกมันให้เป็นจุน”
พวกมันยังไม่ได้ออกมาจากชั้นบรรยากาศดาวอังคาร ขอเพียงเร่งความเร็วถึงระดับหนึ่ง เกราะนอกของกระสวยอวกาศก็จะไหม้จนกลายเป็นสีแดง พอถึงตอนนั้นพวกสัตว์ประหลาดที่เกาะติดกับเกราะกระสวยอวกาศจะถูกเผาตาย
เมื่อกระสวยอวกาศบินขึ้นไปที่ระดับความสูง 1000 เมตร ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียงคลื่นขนาดใหญ่ดังมาจากดาวอังคาร และยังเห็นว่าทางฝั่งขั้วใต้มีควันรูปเห็ดขนาดใหญ่ 5 ก้อนพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในเวลาเดียวกันปืนเก๊าส์ 5 กระบอกก็กำลังระเบิดขั้วโลกใต้ ไม่เพียงแค่เปลี่ยนสนามแม่เหล็กดาวอังคารแบบฉับพลัน ทั้งยังทำให้วงโคจรของดาวอังคารเบี่ยงเบนไปหลายองศา
ลู่เฉินประเมินว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 50 - 60 ปีในการซ่อมแซมและแก้ไขวงโคจรของดาวอังคาร
“กระสวยอวกาศทั้งหมดปรับระบบต่อต้านแรงโน้มถ่วง เร่งความเร็วออกจากดาวอังคาร เผาสัตว์ประหลาดทั้งหมดที่ติดมากับกระสวยอวกาศของพวกคุณให้ตายซะ!”
ลู่เฉินสั่งให้เร่งความเร็ว จากนั้นก็ปรับระบบต่อต้านแรงโน้มถ่วง
ในไม่ช้ากระสวยอวกาศทั้งลำก็เพิ่มความเร็วในการบินอย่างรุนแรงเป็น 50 กิโลเมตรต่อวินาที ภายใต้การเสียดสีกับชั้นอวกาศดาวอังคารที่มีอยู่มากทำให้เกราะกระสวยอวกาศทั้งลำไหม้จนเป็นสีแดง
จากนั้นทุกคนก็เห็นบนหน้าจอว่าสัตว์ประหลาดที่เกาะมากับกระสวยอวกาศตกลงมาทีละตัว
แม้ว่าจะไม่ได้เผาพวกมันให้ตายได้ทั้งหมด แต่ก็ขับไล่พวกมันให้หลุดออกจากกระสวยอวกาศได้
จากนั้นลู่เฉินก็สั่งให้ลดความเร็วลงเหลือ 20 กิโลเมตรต่อวินาที
ความเร็วที่เร็วเกินไปจะทำให้เกราะนอกของกระสวยอวกาศไม่ทนต่อการเผาไหม้
ตอนที่กระสวยอวกาศเข้าสู่ประตูสะพานของยานอวกาศซี-หวั้ง ทุกคนต่างก็โล่งใจอย่างมาก
และตอนที่พวกเขาลงจากกระสวยอวกาศ พวกเขาต่างก็เห็นได้ถึงความฮึกเหิมและไฟลุกผ่านแววตาของแต่ละคน
เมื่อนึกถึงการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวบนดาวอังคารก่อนหน้านี้ สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วนยังคงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
จนถึงขณะนี้ก็มีร่องรอยแห่งความโกรธแค้น
แม้ว่าเขาจะพาทุกคนหนีออกจากดาวอังคารมาได้ แต่สภาพจิตใจของลู่เฉินก็ยังไม่ดีนัก
หลังจากมอบกล่องที่มีสัตว์ประหลาดดาวอังคารให้ติงต้าเฉิงแล้ว เขาก็เข้าไปในห้องกัปตันตามลำพัง
ส่วนเสี่ยวจิงกับคนอื่นๆและยังมีนักศิลปะการต่อสู้บางส่วน ลู่เฉินให้พวกเขากลับไปพักผ่อนก่อน
ตอนนี้ตู้เฟยกำลังรอเขาอยู่ในห้องกัปตัน
“หาอะไรให้ผมกินหน่อย” ทันทีที่เข้ามาในห้องกัปตันและเห็นหลินอี้จุนกับคนอื่นๆมองมาด้วยความเป็นห่วง เขาก็บอกเธอเพราะตั้งแต่ไปบนดาวอังคาร เขาก็ไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว แม้กระทั่งน้ำก็ดื่มบนกระสวยอวกาศตอนที่กลับมาเพียงนิดเดียว
หลังจากที่ลู่เฉินไปที่ดาวอังคาร หลินอี้จุนและคนอื่นๆก็ขอเข้าไปรอลู่เฉินในห้องกัปตัน เนื่องจากมีเพียงห้องกัปตันเท่านั้นที่มีการถ่ายทอดสดโดยตรง
อย่างไรก็ตามมีเพียงหลินอี้จุนและเฉินจือหรานเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าได้
พวกเธอทั้งสองคนหนึ่งเป็นภรรยาของลู่เฉิน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้ช่วยของลู่เฉิน หากคนอื่นต้องการจะเข้ามาจะต้องได้รับอนุญาต
หลินอี้จุนพยักหน้าแล้วออกไปเตรียมอาหารให้ลู่เฉิน
“จริงด้วย ต้มบะหมี่สักถ้วยก็พอแล้ว เดี๋ยวมีประชุมต่อ” ลู่เฉินพูดขณะมองไปที่ด้านหลังของหลินอี้จุน
หลินอี้จุนพยักหน้าและเดินออกจากห้องกัปตัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์