บทที่ 479 เริ่มเดินเครื่องใหม่อีกครั้ง
ภาพที่เห็นตรงหน้ามันช่างน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงมาก ทว่าในเวลานี้ลู่เฉินไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจมันเลยด้วยซ้ำ
เขาต้องรีบเร่งบินไปหลบด้านหลังดาวเสาร์อย่างรวดเร็วที่สุด
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ตัวเครื่องเทคโนโลยีฟิวชั่นนิวเคลียร์ที่ควบคุมได้ทั้งสิบเครื่องก็จะเร่งความเร็ว เพื่อให้ตัวยานอวกาศซี-หวั้งเข้าไปอยู่ในวงโคจรของดาวเสาร์ จากนั้นก็ใช้แรงดึงดูดมหาศาลของดาวเสาร์ให้เกิดประโยชน์ แล้วให้ตัวยานอวกาศซี-หวั้งหลบไปอยู่ด้านหลังดาวเสาร์
เวลานั้นเอง ระยะห่างของยานอวกาศซี-หวั้งกับไททันห่างกันไกลมากเพราะมีดาวเสาร์คอยกั้นกลาง พลังรัศมีมหาศาลของไททัน จะถูกดาวเสาร์ขวางเอาไว้ให้ ยานอวกาศซี-หวั้งไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้อีกต่อไป
เวลานี้เอง ลู่เฉินและคนอื่นๆ อยู่ในสภาวะอารมณ์ในการให้ยานอวกาศซี-หวั้งสามารถกลับไปอยู่ในสภาวะกระจกเงาเพื่อเป็นการหักเหรัศมี และยังสามารถมองเห็นสถานการณ์ของไททันผ่านดาวเทียมที่พวกเขาติดตั้งเอาไว้บนไททันก่อนเริ่มออกเดินทาง
“10 9 8 …2 1!”
ทุกอย่างเหมือนสิ่งที่คาดคิดเอาไว้ทั้งสิ้น
ดาวเคราะห์น้อยพุ่งเข้าชนไททันอย่างรุนแรง
ลู่เฉินและคนอื่นๆ เห็นภาพที่ช่างทำให้คนตกใจไปตามๆ กัน
แน่นอนว่า ภาพภาพนี้ ลู่เฉินให้ทางศูนย์นักวิทยาศาสตร์เป็นคนถ่ายทอดสด เพื่อให้ทุกคนบนยานอวกาศซี-หวั้งสามารถมองเห็นสถานการณ์เวลาดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งชนดวงดาวผ่านหน้าจอใหญ่ด้วยสายตาของตนเอง
แสงระบบสุริยะในเวลานี้ ลำแสงของดวงอาทิตย์ถูกดาวเสาร์บดบังไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้น ยานอวกาศซี-หวั้งในเวลานี้ดำมืดสนิท
ทว่า ท่ามกลางความมิดนั้น ในท้องฟ้าไกลไร้รอยต่อ พลันเกิดลำแสงขนาดใหญ่เกิดขึ้น เป็นแสงที่สว่างจ้า มันสว่างจ้ากว่าลำแสงของดาวเสาร์สิบกว่าเท่า! ลำแสงขนาดมหึมานี้ สามารถส่องสว่างไปทั้งระบบของดาวเสาร์ทั้งหมด
ภาพภาพนั้นมันปรากฏแค่ชั่วพริบตาเดียว จากนั้นสัญญาณก็ขาดหายไป
ลู่เฉินและคนอื่นๆ ต่างทราบดีว่า ดาวเทียมที่พวกเขาปล่อยเอาไว้ที่ไททันมันโดนลำแสงที่รุนแรงของไททันจนแหลกสลายไปแล้ว
นี่เป็นภาพที่ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนดวงดาวอันน่าหวาดกลัว การปล่อยพลังรัศมีออกมานั้น มันยากแก่จินตนาการเอาไว้มาก
ด้วยลำแสง ความร้อน รวมทั้งรังสีพลังสูงอันรุนแรงทำให้ดวงดาวที่รายล้อมอยู่รอบไททันเขย่าสะเทือนไปทั่ว
ถ้าไม่ใช่ดาวเสาร์คอยบังรัศมีเอาไว้ ตัวยานอวกาศซี-หวั้งในเวลานี้ ก็คงโดนรัศมีแรงปะทุมหาศาลที่ระเบิดออกมาของไททันทำให้แหลกสลายไปแล้ว
ในประวัติศาสตร์ ในยุคน้ำแข็งและยุคไดโนเสาร์นั้น ก็โดนดาวเคราะห์น้อยพุ่งมาชนโลกจนไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป
ตามหลักฐานงานวิจัย ในเวลาที่ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนมายังโลก กลุ่มฝุ่นละอองก็ตลบอบอวลไปทั่วชั้นบรรยากาศ จนทำให้โลกทั้งใบมืดมิด
ความกดอากาศที่ไม่สมดุลทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่บนโลก แรงลมมีความรุนแรงมาก ราวกับสามารถพัดเอาเศษก้อนหินที่แตกละเอียดหอบขึ้นไปสู่วงโคจรของโลกได้
ในเวลาเดียวกัน สถานที่ที่โดนโลกโดนกระแทกชนนั้น มันหลอมละลายลงอย่างรวดเร็วไปทุกทิศทุกทาง ทั้งหิน กรวดต่างร้อนระอุอุณหภูมิสูงขึ้นจนเป็นสีแดงเข้มจนเป็นลาวาสีแดง พร้อมทั้งไหลไปทั่วพื้นผิวโลก
สึนามิขนาดใหญ่ การเกิดปรากฏการณ์ Super Mars บนดาวอังคาร พร้อมทั้งแผ่นดินไหวนับครั้งไม่ถ้วน....
จนทำให้สิ่งมีชีวิตในยุคไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์ไป
สามารถจินตนาการได้ว่า ถ้าตัวยานอวกาศซี-หวั้งยังคงจอดอยู่ที่ไททันก่อนหน้านี้ จะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง
ถ้าพวกเขาไม่ได้เข้ามาหลบด้านหลังของดาวเสาร์แล้ว ถ้าพวกเขาล่าช้าในการที่จะออกมาจากนี้สองชั่วโมง ก็คงโดนรัศมีของไททันที่ปล่อยพลังงานออกมาตามมาทันแน่
การได้เผชิญหน้ากับพลังความยิ่งใหญ่ของสวรรค์ จำนวนคนหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคนในยานอวกาศซี-หวั้งไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ได้แต่แอบหลบอยู่ด้านหลังของดาวเสาร์อย่างเงียบๆ เพื่อจะได้สังเกตการณ์ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมด
ลู่เฉินและคนอื่นๆ เริ่มดีใจที่พวกเขาตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
ถ้าไม่ได้เห็นประโยชน์อันดีของดาวเสาร์ เกรงว่ายานอวกาศซี-หวั้งก็คงเป็นเหล็กที่ถูกหลอมละลายไหลเป็นทางยาวไปแล้ว
แสงรังสีอันรุนแรงเปล่งรัศมีอยู่ไม่หยุด หลังจากที่ฉายรังสีออกมาผ่านวงโคจรของดาวเสาร์แล้ว ก็แผ่รัศมีไปไกลทุกทิศทุกทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์