บทที่ 480 พิธีศพบนดวงดาว และการเดินทางต่อ
“ยิงปืน! ไว้อาลัย! วันทยาวุธ!”
หลังจากเสียงปืนดังลั่น โลงศพเป็นพันโลงก็ลอยเข้าอวกาศจากทางสะพานเรือ
พวกเขากำลังทำพิธีไว้อาลัยแก่วีรบุรุษที่เสียสละชีวิตที่ดาวอังคารและไททัน
วันนี้ ยานอวกาศซี-หวั้งได้จัดงานศพอย่างสมเกียรติแก่พวกเขา
ท่ามกลางฝูงชน มีคนนับพันคนที่ร้องไห้ฟูมฟาย
คนอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบต่างยืนก้มหน้าไว้อาลัย ทหารที่อยู่ในสถานการณ์นั้นก็ใช้วิธีการของทางทหารในการทำความเคารพ
ยานอวกาศซี-หวั้ง เป็นยานอวกาศที่เป็นความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ
ผู้คนจำนวนหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคนขึ้นยานอวกาศซี-หวั้ง ใช้เวลาไปเพียงปีกว่า ก็สละชีวิตไปพันกว่าคนแล้ว
การเดินทางอันโดดเดี่ยวกับอนาคตสิบปีนั้น มวลมนุษย์สามารถเดินทางท่องอวกาศไปยังดาวพร็อกซิมาคนครึ่งม้า bอย่างปลอดภัยได้จะมีสักกี่คนกัน?
จะมีคนโชคดีจำนวนเท่าไหร่กันที่จะไปใช้ชีวิตและสืบทอดความเป็นมนุษย์กลุ่มสุดท้ายบนดาวพร็อกซิมาคนครึ่งม้า b?
ไม่มีใครรู้ได้!
และยิ่งไม่มีใครกล้าคิดถึงปัญหาที่เคร่งเครียดเช่นนี้
อาศัยประเพณีของชาวหัวเซี่ยแล้ว เมื่อคนเสียชีวิตไปเจ็ดวันแล้วจะเรียกว่าครบเจ็ดวันพร้อมกับมีประเพณีที่เชื่อกันว่าคนตายจะกลับมาเยี่ยมบ้าน
ทว่าการอยู่บนตัวยานอวกาศซี-หวั้งเป็นเรื่องที่ยากมาก ลู่เฉินจำเป็นต้องเอาพิธีงานศพยืดเวลามาถึงวันนี้
ดังนั้นทุกคนต่างมารวมตัวกันที่โถงด้านนอกสะพานเรือ พร้อมทั้งจัดพิธีงานศพบนยานอวกาศซี-หวั้งเป็นครั้งแรก
“เรียบอาวุธ!”
หลังจากที่เจ้าพนักงานออกคำสั่งเสียงดังลั่น ทหารทุกคนเก็บวันทยหัตถ์
สายตาของพวกเขาจับจ้องไปทางอวกาศอันไกลโพ้น
โลงศพที่สร้างความโศกเศร้ายังปรากฏให้เห็น ดวงตาของทุกคนต่างถลำลึก พร้อมทั้งแสดงความโศกเศร้าออกมา...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดานักรบทหารที่ผ่านเคราะห์ร้ายแต่รอดชีวิตจากดาวอังคารมาได้ สายตาของพวกเขาแน่วแน่ ราวกับเหมือนน้ำแข็งอันหนาวเหน็บที่ผ่านไปหมื่นปีก็ไม่อาจละลายได้
แต่เมื่อพวกเขามองมาที่ญาติที่อยู่ข้างกายของตนเองแล้ว ยังมีผู้คนที่อยู่ในยานอวกาศซี-หวั้ง น้ำแข็งอันหนาวเหน็บนั่นย่อมละลายหายไป แปรเปลี่ยนลมพัดตลบอบอวลเป็นความอบอุ่นเข้ามาแทนที่
งานพิธีงานศพนั้น ลู่เฉินไม่ได้กล่าวอะไรทั้งสิ้น
ขนาดผู้บริหารระดับสูงหรือแม้กระทั่งคนในรัฐบาลอย่างเซ่เว่ยเหาหรือหวังเหวยเอง พวกเขาก็ไม่ได้พูดออกมาสักประโยค
พิธีงานศพในวันนี้คร่ำเครียดมาก จนถึงจบงาน
นอกจากญาติพี่น้องและคนกลุ่มหนึ่งแล้ว คนอื่นๆ ต่างออกไปจากที่นั่นอย่างเงียบๆ ทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนเดิม
“ทำไมพวกคุณไม่ขึ้นไปพูดอะไรสักหน่อย ฉันคิดว่าควรจะพูดอะไรบ้าง ถือว่าเป็นการปลอบใจให้แก่พวกเขา” กลางทางเดินกลับ เฉินชูหรันพูดอย่างไม่เข้าใจ
ตามความเข้าใจของเธอแล้ว เธอรู้สึกว่าเวลาช่วงพิเศษอย่างวันนี้ บรรดาญาติของเหล่าวีรบุรุษต้องการการปลอบใจเป็นอย่างมาก
“พูดอะไรเหรอ? พวกความสามารถของเหล่าวีรบุรุษพวกนั้นเหรอไง? นั่นย่อมเป็นการทำให้ยิ่งเป็นการดูถูกพวกเขานะสิ!” ลู่เฉินกล่าวออกมาพร้อมทั้งส่ายศีรษะไปมา
ปัญหาเรื่องนี้ เซ่เว่ยเหาและหวังเหวยเคยมาคุยกับเขาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ว่าเขาและทางทหารเองไม่เห็นด้วยกับพวกเขา
บรรดานักรบทหารที่ประสบเคราะห์ร้ายที่ดาวอังคาร เหล่าหทารหาญที่สู้ตายในสนามที่แลกมาด้วยเลือด
ไม่มีคนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเหล่าผู้เสียสละนั้นเป็นวีรบุรุษได้เช่นไร
ตอนอยู่ที่ดาวอังคารนั้น พวกเขาลงมือฆ่าสัตว์ประหลาดอย่างไม่คิดชีวิต
การต่อสู้ของพวกเขา ความพยายามของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาเสียสละ...
การกระทำเช่นนี้นั่นย่อมหมายถึงวีรบุรุษอย่างแท้จริงแล้ว การทำพิธีให้สมเกียรติให้แก่วีรบุรุษเฉกเช่นพวกเขา!
เช่นนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ ถือว่าเป็นการกระทำอันทรงเกียรติเหรอ
นั่นเป็นการดูหมิ่นเกียรติของวีรบุรุษ!
เป็นการดูถูกพวกเขา!
“โอเคค่ะ งั้นถือว่าฉันเข้าใจผิดไปแล้ว” เฉินชูหรันพยักหน้า พร้อมทั้งพูดกับลู่เฉินอย่างเข้าใจถ่องแท้
“เอาชื่อของทุกคน บันทึกเอาไว้ จากนั้นก็เอาวิดีโอบันทึกการสู้รบของพวกเขาทั้งหมดเอากลับไปเก็บไว้ที่ห้อง” ลู่เฉินหันมามองเฉินชูหรันอย่างฉับพลัน พร้อมทั้งสีหน้าเคร่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์