บทที่ 73 ลูกเขยจอมล้างผลาญ
เมื่อเห็นลู่เฉินมองดูของสะสมเหล่าด้วยนั้นท่าทางจริงจัง ทุกคนก็หัวเราะและรอเยาะเย้ยเขาต่อไป
ลู่เฉินพิจารณาอย่างตั้งใจ สายตาเขาจดจ่อไปที่ภาพนั้นแล้วใช้มือลูบคลำอย่างทะนุถนอม ราวกับสิ่งนั้นไม่เป็นเพียงภาพวาดแต่เป็นคนที่เขารักมากคนหนึ่ง
สุดท้ายเขานำภาพนั้นมาไว้ที่ข้างหูแล้วดีดฟังเสียง
หนึ่งครั้ง!สองครั้ง......
บรรดาผู้คนทั้งหลายเห็นเหตุการณ์นั้นก็พากันหัวเราะออกมา
“ให้ตายสิ!ฉันคิดว่าเขาเป็นอาจารย์มาจากไหนซะอีก ที่แท้ก็พวกคนบ้าที่แกล้งทำเป็นรู้”
“นั่นน่ะสิ ผมพึ่งเคยเห็นคนเอารูปภาพมาเคาะที่ข้างหูเป็นครั้งแรก บ้าหรือเปล่า?”
หลินดาไห่ถอนหายใจ เขาทำหน้าตาไม่ถูกเลยตอนนี้
วันนี้ขายหน้ามากจริงๆ......
“พี่คะ ถ้าไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้สิอย่าทำเป็นอวดฉลาดไป พี่ไม่กลัวขายหน้าก็ควรจะคิดถึงพ่อกับหนูบ้าง” หลินอี้เจียพูดออกมาอย่างไม่พอใจนัก
“อี้เจีย อย่าเพิ่งรีบสิครับ บางทีพี่ลู่อาจจะมีวิธีการประเมินราคาที่แตกต่างไปก็ได้” ตี๋ฟู่พูดออกมา
จ่าวเทียนหยู่และหลี่เหวินกวงขำออกมาด้วยหน้าตาเยาะเย้ย ลู่เฉินชอบทำตัวอวดเก่งนัก วันนี้เขาขายหน้าต่อผู้คนมากมาย ทั้งสองจึงรู้สึกสะใจมาก
มีเพียงจั่วชิงเฉิงเท่านั้นที่ครุ่นคิดพิจารณามองดูลู่เฉินจริงๆ
เขารู้ว่าลู่เฉินมีตำแหน่งสูงในเทคโนโลยีอี้ฉี อีกทั้งยังรู้จักกับเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีด้วย
เขาเชื่อมั่นว่าลู่เฉินคนนี้จะไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าแน่นอน
การที่เขาทำแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่ๆ
หรือว่า......
รูปภาพนี้จะมีกลเม็ดซ่อนอยู่?
“อืม น่าจะเป็นแค่ภาพธรรมดาเท่านั้นเอง” ลู่เฉินพูดออกมาอย่างเสียดาย
หะ!!!
เมื่อลู่เฉินพูดออกมาเช่นนั้น ผู้คนทั้งหลายก็พากันหัวเราะชอบใจ
“เรื่องนี้ต้องให้แกพูดออกมาอีกเหรอ? เมื่อสักครู่ศาสตราจารย์ทั้งสามคนก็ประเมินแล้ว บอกว่านี่เป็นเพียงภาพจำลองธรรมดา มีเพียงผ้าเท่านั้นที่คุ้มค่าต่อการสะสม”
“คิดว่าคุณจะมีความสามารถมากขนาดไหน หลงคิดว่ามีวิธีการที่ไม่เหมือนใครซะอีก ที่แท้ก็พวกหลอกตัวเอง”
หยูเจิ้งเทาและศาสตราจารย์ทั้ง 3 คนก็ส่ายหน้า เมื่อบรรดาผู้คนที่มาร่วมงานเห็นดังนั้นก็ยิ่งหัวเราะเยาะเขาทำให้พวกเขารู้สึกสะใจมาก
“ภาพนี้ไม่มีคุณค่าต่อการสะสมเท่าไหร่นัก ถ้าหากว่าคุณจะขายให้ผมในราคาแสนห้าผมก็จะซื้อเก็บไว้ ซัก 10 ปีน่าจะได้ราคาขึ้นมาบ้าง” ลู่เฉินไม่สนใจผู้คนรอบข้างเขายื่นรูปส่งไปให้จ่าวเทียนหยู่
“แสนห้า! ฝันไปเถอะ เมื่อสักครู่ศาสตราจารย์ทั้งสามคนก็บอกแล้วว่ามีราคาถึงสองแสน” จ่าวเทียนหยู่หัวเราะหึๆแล้วรับรูปกลับไป
“คุณลองถามพวกเขาดูก็ได้ ใครจะยอมซื้อภาพนี้ในราคา 2 แสนกัน? ผมยอมซื้อเพราะเห็นแก่มิตรภาพที่เคยเรียนด้วยกันมาถึงได้ยอมซื้อในราคาแสนห้า ถ้าเป็นคนอื่นแล้วผมว่ามากสุดก็ไม่เกินแสน” ลู่เฉินพูดออกมา
จ่าวเทียนหยู่หัวเราะ เขาไม่อยากสนใจลู่เฉินอีกต่อไป เขาหันหลังกลับไปทางคนอื่นๆแล้วถามว่า “แสนแปด มีใครต้องการไหมผมขายให้เลย?”
ก่อนหน้านี้ที่เขาเอ่ยราคาแสนเก้าไม่มีคนสนใจเขาจึงจำเป็นต้องลดราคาไปอีก10,000
บรรดาผู้คนทั้งหลายเพียงแค่รอดูเรื่องสนุกเท่านั้น ใครจะไปกล้าควักเงินเป็นแสนซื้อภาพที่ไม่คุ้มค่าต่อการสะสมเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่มีใครเอ่ยออกมา
“จ่าวเทียนหยู่ขายให้เขาเถอะ” หลี่เหวินกวงเมื่อเห็นว่าไม่มีใครต้องการซื้อก็จำเป็นที่จะขายให้ลู่เฉิน
แสนห้าก็แสนห้า เหอะๆ อย่างน้อยก็ยังได้ทุนกลับคืนมา ไม่อย่างนั้นก็คงขาดทุนไปเลย 500,000
จ่าวเทียนหยู่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาลังเลอยู่ชั่วครู่สุดท้ายกัดฟันยื่นภาพนั้นไปให้แก่ลู่เฉินแล้วพูดว่า “จ่ายเงินมาซะ!”
“พ่อครับ โอนเงินให้เขาเถอะ” ลู่เฉินรับรูปภาพมาและพูดกับหลินดาไห่
หลินดาไห่ตกใจมาก ลูกเขยเขาวันนี้เป็นอะไรไป?นี่มันลูกเขยล้างผลาญชัดๆ ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกก็ไม่พาเขามาด้วยแล้ว
“พี่เขยคะ บ้าไปแล้วหรือไงคะ?ใช้เงินตั้ง 150,000 ซื้อผ้าธรรมดามาผืนนึง พี่อยากให้พ่อกลับไปโดนแม่ด่าเหรอ?” หลินอี้เจียพูดออกมาอย่างโมโห
“พ่อครับ เก็บสะสมไว้สัก10ปีก็คุ้มค่าแล้ว แค่แสนห้าเอง”ลู่เฉินหัวเราะออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์