บทที่ 97 แทงใจดำ
"ผมไม่มีบัตรเชิญ แต่เป็นเฉินกวงซิงที่เป็นเจ้านายของพวกคุณเชิญผมมาเอง ถ้าไม่เชื่อคุณมาดูบันทึกการโทรก็ได้ ไม่กี่นาทีก่อนเขาเพิ่งจะโทรหาผมเอง" ลู่เฉินเอาโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดบันทึกการโทรให้แก่คนรับใช้ดู
คนรับใช้ผงะ เริ่มหวั่นใจ
สามารถทำให้เจ้านายเชิญมาได้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนใหญ่คนโต บัตรเชิญนั่นไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด
เนื่องจากคนแบบนี้มาแล้ว จะต้องมีคนบ้านสกุลเฉินมาต้อนรับดูแลโดยเฉพาะ
แต่เขาก็กลัวว่าที่ลู่เฉินเซฟเบอร์นี้เก็บไว้ เป็นเพราะอยากจะใช้ชื่อของเจ้านายมาเป็นข้ออ้างเพื่อเข้ามาเท่านั้น
ดังนั้นในใจเขาจึงเกิดความลังเลว่าจะให้ลู่เฉินเข้ามาหรือไม่
และในเวลานี้เอง เฉินซานพาพ่อลูกสกุลวังรวมทั้งจั่วชิงเฉิงมาถึงทางเข้าสวนว่านโส้ ได้เห็นว่าลู่เฉินเองก็อยู่ อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เมื่อครู่ได้ยินว่าคนของสกุลจั่ว มาแล้ว เฉินซานจึงออกไปต้อนรับด้วยตนเอง พ่อลูกสกุลวังพอได้ยินมาว่าเป็นคนของสกุลจั่ว ก็ตามออกไปต้อนรับด้วย
สกุลจั่ว และสกุลเฉินต่างก็เป็นตระกูลระดับแนวหน้า สกุลวังไม่ว่าจะน้อยหรือมากยังไงก็ต้องตามประจบเอาไว้ก่อน
โดยเฉพาะช่วงเวลาแบบนี้ที่ที่บ้านมีเรื่องมีราวไม่ได้ขาดเช่นนี้
"ไง คุณไม่มีบัตรเชิญนี่ อยากจะเข้าไปกินฟรีดื่มฟรีเหรอ?" วังซิงเห็นว่าลู่เฉินถูกขวางไว้อยู่ ในใจก็คิดอะไรที่รื่นรมย์ไม่ออก
ลู่เฉินหันกลับมาดูพวกวังซิง ในตอนนี้จั่วชิงเฉิงเองก็มองดูลู่เฉินอย่างนึกสนุก
"ที่แท้ก็คือพี่ลู่นี่เองเหรอ พี่ทำบัตรเชิญหายไปเหรอ? ให้ผมพาพี่เข้าไปก็แล้วกันไหม" จั่วชิงเฉิงพูดสัพยอก
ลู่เฉินหัวเราะยิ้มๆไม่พูดอะไร จั่วชิงเฉิงพูดได้ดี แต่เขาก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าจั่วชิงเฉิงแอบแกล้งสร้างความลำบากให้เขา
"คุณจั่ว พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ?" เฉินซานตกใจ ครอบครัวจั่วและครอบครัวเฉินของพวกเขาอยู่ในระดับแนวหน้าเหมือนกัน ถ้าเจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้รู้จักกับจั่วชิงเฉิงเขาบอกได้เลยว่าระดับของเขาไม่ใช่พื้นๆแน่นอน
คิดได้อย่างนี้ ในใจเขารู้สึกว่าตนเองโชคดี โชคดีที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีเรื่องผิดใจกับลู่เฉินอย่างร้ายแรง
ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องงานเข้าเต็มๆแน่นอน
"ไม่รู้จัก เพียงแค่ไม่กี่วันก่อนในการประชุมที่จัดขึ้นอย่างมโหฬารโบราณที่พวกเราจัดขึ้นมา เขาก็เคยโผล่เข้าไป" จั่วชิงเฉิงพูดอย่างสนุก
ลู่เฉินกะพริบตา เขารู้อยู่แล้วว่าจั่วชิงเฉิงก็ไม่ได้หวังดีอะไรนัก แล้วตอนนี้ยิ่งล่อหางสุนักจิ้งจอกออกมาตรงๆเลย
เคยโผล่เข้าไป?
เฉินซานได้ยินก็นิ่งงัน แต่แล้วก็กลับหัวเราะออกมา
พอดูๆแล้ว เจ้าหนุ่มที่ชื่อลู่เฉินตรงหน้านี้ก็ไม่คุ้มที่จะไปกลัวแล้ว
วังชิจูเองก็ตะลึง ลู่เฉินให้ความรู้สึกว่าไม่เหมือนกับคนที่จะเข้าไปในงานเลี้ยงเพื่อไปกินอย่างนั้น
และเขาก็ยังเคยได้ยินวังซิงพูดมาว่า ในตอนแรกที่ลู่เฉินอยู่ในการประชุมที่จัดขึ้นอย่างมโหฬารโบราณเขายังกล้าที่จะเดิมพันบนหินด้วยเงินพันล้าน
คนที่กล้าได้กล้าเสียแบบนี้ เขาไม่เชื่อว่าวันนี้ลู่เฉินจะแค่เข้ามาเฉยๆ
แต่ถึงแม้ว่าในใจเขาจะเกิดความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ตักเตือนเฉินซาน เขากลับคาดหวังให้เฉินซานกับลู่เฉินเกิดความขัดแย้งกัน ทางที่ดีคือข้อขัดแย้งนี้ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น สะเทือนไปถึงเฉินกวงซิงกระทบกระทั่งนายท่านเฉินนั่นสิถึงจะน่าสนุก
ในตอนนั้น ลู่เฉินจะต้องเจอดีแน่นอน นี่ต่างหากถึงจะเป็นผลลัพธ์ยอดเยี่ยมที่เขาจะได้เห็น
"น้องเฉิน คนแบบนี้ที่เอาแต่กินฟรีดื่มฟรี ผมแนะนำว่าให้เอาเขาโยนออกไปจะดีที่สุด ถ้ามีข่าวออกไปให้คนนอกรู้ว่างานฉลองอายุครบเจ็ดสิบปีของนายท่านเฉินมีคนมาในงานเลี้ยงเพื่อแค่กินแค่ดื่ม มันจะส่งผลไม่ดีต่อสกุลเฉินอย่างแน่นอน" วังชิจูพูดแทงใจดำ
"ใช่แล้วครับคุณเฉิน คนแบบนี้ควรจะให้ออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้สกุลเฉินเสียเกียรติ" วังซิงเองก็พูดสมทบ
เฉินซานมีท่าทีลังเลไม่แน่ใจ เขารู้สึกว่าที่วังชิจูพูดก็มีเหตุผลอยู่ แต่ว่าในใจกลับกลัวว่าลู่เฉินจะรู้จักกับเฉินกวงซิงจริงๆ
แต่พอคิดถึงเมื่อก่อนที่ลู่เฉินหักหน้าเขา ไม่ให้เกียรติเขาแม้แต่น้อยแล้ว ในใจเขาก็ไฟลุกโชนขึ้นมาทันที
"ถ้าคุณไม่มีการ์ดเชิญ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปในสวนว่านโส้คุณรีบออกไปเถอะ อย่าให้กระทบถึงแขกของสกุลเฉินของผม" เฉินซานพูดหน้าขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์