สรุปเนื้อหา บทที่ 98 อวดเก่ง – คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
บท บทที่ 98 อวดเก่ง ของ คุณพ่อสายเปย์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลู่ลู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 98 อวดเก่ง
“อวดเก่งอย่างนั้นเหรอ?”
ลู่เฉินหัวเราะด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแล้วพูดออกไปว่า “ถ้าวันนี้เฉินกวงซิงไม่ออกมาอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน ผมจะรื้อสวนว่านโส้ของพวกคุณซะ”
“ปากเก่งมากจริง กล้าจะรื้อสวนว่านโส้ของพวกเรา อยากจะรู้นักว่าจะมีความสามารถขนาดไหน”
ในขณะนั้นเองสาวงามสองคนเดินออกมา หนึ่งในนั้นท่าทางเย็นชา
“คุณหนูที่สอง”
เมื่อเฉินซานมองเห็นสตรีผู้นั้นก็โค้งคำนับให้ความเคารพเธอ
ลู่เฉินมองไปยังเธอ ผู้หญิงสองคนนี้ก็คือคนที่เขาเจอตอนจอดรถนั่นเอง
และพวกเธอก็คือคุณหนูของบ้านตระกูลเฉิน เฉินเสี่ยวปิงและหลี่ชุน
แท้จริงแล้วทั้งสองคนนี้ได้รับมอบหมายให้ออกมารับลู่เฉิน เพียงแต่ว่าลูกสาวของเฉินกวงซิงชื่อว่าเฉินจือหรานกำลังรับโทรศัพท์อยู่ด้านใน เฉินเสี่ยวปิงและหลี่ชุนจึงออกมาก่อน
“เป็นแกเองเหรอ?” เมื่อเห็นลู่เฉิน เฉินเสี่ยวปิงก็ตกใจและมองด้วยสายตาดูถูก
เธอทั้งสองคนเห็นกับตาตัวเองว่าลู่เฉินขับออดี้เพียงคันละไม่กี่บาทมา
ในสายตาของคุณหนูทั้งสองนั้น ขับรถคันละแค่ไม่กี่แสนก็ไม่ต่างอะไรกับพวกกระจอก
“ไอ้กระจอก แกตายแน่ กล้าลงไม้ลงมือกับบอดี้การ์ดบ้านตระกูลเฉิน วันนี้คุณหนูสองออกมาแล้ว ถ้าไม่ตายก็คงปางตาย” วังซิงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์
สำหรับสายตาของผู้คนทั่วไปนั้นวังซิงเป็นเพียงคนธรรมดาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณชายผู้สำราญเอาแต่ใจ
แต่สำหรับคุณหนูที่สอง ของบ้านตระกูลเฉินอย่างเฉินเสี่ยวปิงนั้น
ในสายตาของคุณชายทั้งหลายเธอไม่ต่างไปกับมัจจุราช
การที่ทำให้เธอโกรธแน่นอนว่าตายไม่ดีแน่
เมื่อ 2 ปีก่อนมีทายาทเศรษฐีคนหนึ่งอยากจะจีบเฉินเสี่ยวปิง เพียงแต่เขาพูดจาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงทำให้เฉินเสี่ยวปิงเตะเขาเข้าอย่างแรงจนเกือบจะกลายเป็นขันทีเข้าเสียแล้ว
มองออกว่าเฉินเสี่ยวปิงโหดร้ายและเด็ดขาดเพียงใด
“ก็แค่คนกระจอกคนหนึ่งที่ไม่รู้จักฐานะของตัวเอง กล้ามาแตะต้องทำร้ายบอดี้การ์ดของบ้านตระกูลเฉิน วันนี้แกตายไม่ดีแน่”เฉินซานหัวเราะแล้วมองไปยังลู่เฉิน จากนั้นหันกลับมารายงานเฉินเสี่ยวปิงว่า “คุณหนูครับ เจ้ากระจอกนี่ไม่เพียงแต่บอกว่าจะรู้ว่าจะรื้อสวนว่านโส้ของพวกเราอีกทั้งยังทำร้ายร่างกายบอดี้การ์ดด้วย มันช่างหยิ่งผยองเหลือเกิน เขาไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย!”
“รนหาเรื่อง!” เฉินเสี่ยวปิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เธอเดินหน้าเข้าไปใกล้ลู่เฉิน
คุณท่านบ้านตระกูลเฉิน เฉินหยาง ได้วางมือจากการจัดระเบียบในตระกูลมา 20 กว่าปีแล้ว เขาสนใจเรื่องของการนั่งสมาธิบำรุงเพ็ญ อีกทั้งยังเปิดศูนย์ฝึกกังฟูอีกด้วย ดังนั้นลูกหลานของตระกูลเฉินล้วนได้ฝึกฝนวิทยายุทธมาจากเขาบ้างเล็กน้อย
ถึงแม้เฉินเสี่ยวปิงและหลี่ชุนจะเป็นหลานสาวของเขาก็ตาม แต่ทักษะการต่อสู้ของพวกเธอไม่ได้ต่างไปจากผู้ชายเลย
เฉินเสี่ยวปิงเรียนรู้ทักษะกังฟูกับคุณปู่มาหลายปี ซึ่งเธอไม่เห็นผู้ชายใดในสายตา และบัดนี้ลู่เฉินในสายตาเธอก็เป็นเพียงแค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง
เมื่อเห็นเฉินเสี่ยวปิงกำลังจะลงไม้ลงมือ แขกคนอื่นๆก็พากันตกตะลึงแต่เฉินซานกลับมีสีหน้าที่ตื่นเต้น
เนื่องจากเขารู้ดีว่าหากคุณหนูที่สองออกมือด้วยตัวเอง ถ้าลู่เฉินไม่โดนทำร้ายร่างกายเสียจนพิการก็คงปางตาย
“ไอ้กระจอกแกเสร็จแน่ๆ”
เฉินซานหัวเราะเยาะเย้ยลู่เฉิน
เมื่อลู่เฉินเห็นเฉินเสี่ยวปิงจะลงไม้ลงมือ ตาเขาก็เป็นประกาย เนื่องจากเขาเองรู้ดีว่าเฉินเสี่ยวปิงเป็นคนที่มีฝีไม้ลายมือ คนธรรมดาทั่วไปสู้เธอไม่ได้
แต่เขาก็ไม่ได้นำมันมาใส่ใจ เมื่อเฉินเสี่ยวปิงเดินหน้าเข้ามาและหยุดต่อหน้าเขา เขาก็ปัดใบมีดพกไปตัดลงบนน่องของเฉินเสี่ยวปิงเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย!”
เฉินเสี่ยวปิงสัมผัสได้ถึงความเจ็บ เธอรีบถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณแล้วเอามือจับน่องของเธอไว้
“เฉินเสี่ยวปิงเป็นยังไงบ้าง แผลลึกมากไหม?” เฉินจือหรานถามด้วยความเป็นห่วง
พวกเธอทั้งสองคนแม้จะเป็นเพียงลูกพี่ลูกน้อง แต่ก็มีความสัมพันธ์กันดีมากคล้ายเป็นญาติกันจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่แผลถลอกตรงน่องเท่านั้น พี่คะ พี่ต้องแก้แค้นให้หนูนะ ไอ้กระจอกนี่มันอวดดีเกินไปแล้ว ถ้าวันนี้ไม่ถลกหนังมันออกมา บ้านตระกูลเฉินของเราจะมีหน้าที่ไหนออกไปเผชิญกับผู้คนในยวี่โจวได้” เฉินเสี่ยวปิงพูด
“อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ใครกันที่บังอาจอวดเก่งในบ้านตระกูลเฉิน รับรองว่าไม่ปล่อยมันไว้แน่” เฉินจือหรานพยักหน้าแล้วมองมาทางลู่เฉิน
บรรดาผู้คนเห็นสายตาของเฉินจือหรานก็พากันเสียวสันหลังวาบ
เฉินจือหรานนับว่าเป็นผู้มีฝีมือ อีกทั้งเป็นหลานรักของคุณท่าน หากลู่เฉินยังกล้าแตะต้องเฉินจือหรานแล้วละก็ วันนี้เขาและบ้านตระกูลเฉินก็คงจะต้องพังกันไปข้างหนึ่ง
“เจ้ากระจอก ใครให้แกอวดเก่งแบบนั้นล่ะ ฉันจะคอยดูว่าแกจะตายยังไง” วังซิงหัวเราะเยาะ
จั่วชิงเฉิงเองก็เช่นกัน เขาเชื่อว่าครั้งนี้ลู่เฉินไม่รอดแน่
วังชิจูและคนอื่นๆก็รู้สึกเป็นสุขเมื่อเห็นลู่เฉินตกอยู่ในอันตราย ก่อนหน้านี้ลู่เฉินทำให้พวกเขาต้องอับอายมานักต่อนัก
“เฉินกวงซิงให้คุณมาหาผมสินะ” เมื่อเห็นเฉินจือหรานเดินเข้ามา ลู่เฉินจึงพูดเบาๆ
ก่อนหน้านี้เฉินกวงซิงบอกว่าจะให้ลูกสาวออกมารับตน คุณหนูใหญ่แห่งบ้านตระกูลเฉินก็คงจะเป็นลูกสาวของเฉินกวงซิง
“คุณคือ......” เฉินจือหรานเมื่อได้ยินดังนั้นในใจก็รู้สึกถึงลางไม่ดี
“ผมชื่อลู่เฉิน พ่อของคุณเชิญผมมา” ลู่เฉินพูด
“หา! คุณก็คือคุณลู่อย่างนั้นหรือ?”
เฉินจือหรานตกใจมาก เธอรีบโค้งคำนับขอโทษแล้วพูดว่า “คุณลู่ ขอโทษจริงๆค่ะ ตระกูลของเรามีตาหามีแววไม่ขอโปรดอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยนำไปใส่ใจเลยนะคะ”
เมื่อท่าทีของเฉินจือหรานเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผู้คนที่อยู่รอบๆก็เริ่มสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์