คู่หมั้นคู่หมาย นิยาย บท 13

"ไม่ทราบว่าคุณจะมาทำงานแผนกอะไรคะ ไม่เห็นมีบัตรพนักงานเลย" พนักงานด้านหน้ายังคงสอบถามพิมพ์ญาดา เพราะเป็นหน้าที่ของพวกเธอ

"ตำแหน่งที่ฉันมาทำคงไม่จำเป็นต้องมีบัตรพนักงานหรอกค่ะ" หญิงสาวพูดไปด้วยความมั่นใจ ท่าทางของเธอดูเย่อหยิ่ง จนคู่สนทนาไม่กล้าจะสอบถามอะไรมาก

"เอ่ออ คือ.. ฉันแค่อยากจะถามให้แน่ใจค่ะ"

"เอาเป็นว่า..ห้องท่านรองประธานไปทางไหนคะ"

"ห้องท่านรองประธานเลยเหรอคะ!? ฉันคงให้คุณขึ้นไปไม่ได้หรอก" ตอนนี้พนักงานคิดว่า เธอจะมาอ่อยท่านรองประธานหรือเปล่า ถึงบอกไม่ได้ว่ามาทำงานในตำแหน่งอะไร แถมการแต่งเนื้อแต่งตัวไม่เคยเห็นพนักงานคนไหนแต่งแบบนี้ และไม่เคยมีใครมีสิทธิพิเศษแต่งลุคนี้มาทำงาน

"คุณกนกลักษณ์มาพอดีเลย เชิญทางนี้หน่อยค่ะ" เหมือนระฆังช่วย เลขาหน้าห้องท่านรองประธานกำลังเดินมา

"มีอะไรคะ" กนกลักษณ์รีบเดินเข้ามาทันทีที่ได้ยินพนักงานเรียกชื่อ

"ผู้หญิงคนนี้บอกว่ามาทำงาน แถมยังถามหาห้องท่านรองประธานอีกค่ะ"

"ถามหาท่านรองประธานคนไหนคะ" แต่ก่อนอาจจะมีท่านรองประธานคนเดียว แต่ตอนนี้มีเพิ่มมาอีกคน

กนกลักษณ์ถามผู้หญิงแปลกหน้าด้วยสายตาที่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมองเท้าขึ้นไปหาใบหน้าอีกที การแต่งตัวของเธอถึงแม้ว่าจะโชว์สัดส่วนมาก แต่ทุกชิ้นในร่างกายคือแบรนด์เนมทั้งนั้น รวมแล้วคงหลักแสนต้องมีแน่ และนั่นมันคือเงินของแม่สามีทั้งนั้น เพราะนางทุ่มทุนสร้างกับเรื่องนี้มาก

ก๊อก~ ก๊อก~

"เข้ามา" ชายหนุ่มอนุญาตทันทีที่มีเสียงคนเคาะประตูหน้าห้อง

"ท่านคะมีผู้หญิงบอกว่ามาพบท่านค่ะ"

สิ้นเสียงเลขา ชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นจากงานกองโต เขาถึงกับชะงักเมื่อมองเห็นผู้หญิงในชุดเดรสรัดรูปโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งในร่างกาย

"หึ" คนตัวโตวางปากกาที่อยู่ในมือ พร้อมกับนั่งพิงเก้าอี้ในท่าที่สบาย

"ขอบคุณนะคะหมดธุระของคุณแล้ว ออกไปได้" คนที่ไล่เลขาออกไปก็คือพิมพ์ญาดา และมันก็ทำให้กนกลักษณ์ถึงกับงง

แต่กนกลักษณ์ไม่ได้เชื่อคำสั่งของผู้หญิงแปลกหน้าเลย เธอหันไปมองเจ้านายที่นั่งอยู่ เขาพยักหน้านิดหนึ่ง กนกลักษณ์ก็เลยยอมออกไป

"คุณพ่อบอกว่าให้ฉันมาทำงานในห้องนี้ แล้วโต๊ะทำงานของฉันล่ะ" หญิงสาวมองซ้ายมองขวา เพราะเธอได้ยินที่พ่อสามีบอกว่าจัดเตรียมโต๊ะทำงานไว้ให้แล้ว

"อยู่ตรงบันไดหนีไฟไม่เห็นหรือไง" ใช่แล้ว..สุขายะเป็นคนสั่งให้พนักงานเอาออกไปไว้ใกล้บันไดหนีไฟเอง

หญิงสาวกัดริมฝีปากนิดหนึ่ง เธอกำลังหาทางตอบโต้เขา แต่ต้องได้รีบหยุดตัวเองไว้ เพราะวันนี้เธอไม่ได้มาเพื่อต่อสู้แต่เธอมาเพื่อยั่ว

"คุณสุขา..คะ..คุณจะให้ฉันไปทำงานที่ตรงนั้นจริงเหรอ ฉันเป็นถึงภรรยาของท่านรองประธานนะ" หญิงสาวเดินไปใกล้ นิ้วเรียวของเธอกรีดตรงไหล่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวที่เขาใส่อยู่ แล้วป้อนคำหวานลงไป

"อุ๊ย!!" แทนที่เขาจะสะบัดมือเธอออกแต่ไม่เลย.. มือหนากลับคว้าร่างบางลงมานั่งตักแล้วกอดไว้

"วันนี้จะเล่นบทไหนล่ะ แม่เสือยั่วสวาทงั้นเหรอ" ริมฝีปากหนากระซิบพูดข้างใบหู จนหญิงสาวขนลุกซู่..แต่ต้องได้เก็บอาการไว้

พิมพ์ญาดาพยายามดิ้นเล็กน้อย เธอกลัวว่าจะมีใครเปิดประตูเข้ามาเห็น แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดจากวงแขน ชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้น จนคนตัวเล็กอึดอัด

ริมฝีปากหนาไม่ได้หยุดอยู่แค่ใบหู เขายังสไลด์ซอกคอของเธอแล้วสูดดม

"คุณจะทำอะไร!" น้ำเสียงที่ยั่วยวนเมื่อกี้เปลี่ยนไปเป็นแข็งกระด้าง

สุขายะยอมรับว่า เธอแต่งตัวลุคนี้แล้วถูกใจเขามาก จนชายหนุ่มเผลอไผลไปกับมารยาของเธอ

ในขณะที่เขากำลังซุกไซร้ต้นคอด้านหลังของหญิงสาวอยู่นั้น ได้มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้เคาะก่อน

แอดดด~

"ฉันคิดว่าคุณอยู่ห้องนี้ค่ะ" ชมพูรีบเดินเข้าไปหาสามี

"เหรอครับ..เมื่อคืนนี้ผมว่าผมบอกคุณแล้วนะ"

"ตอนไหนคะ ชมไม่เห็นจำได้เลย"

แล้วสักพักพิมพ์ญาดาก็เดินตามออกมา

"อ้าว.. คุณพิมพ์มาแล้วเหรอครับ" ชายหนุ่มรีบหันไปทักเพื่อเป็นมารยาท แต่ก็ยังมีแอบมองการแต่งตัวของพิมพ์ญาดา

"แต่งตัวแบบนี้ผมแทบจำไม่ได้"

"มาได้สักพักแล้วค่ะ..เอ่อ..คุณ.." พิมพ์ญาดาลืมไปเลยว่าเธอยังไม่รู้จักชื่อของพี่ชายสามี แต่ก็พอจะได้ยินที่คนในบ้านเรียกว่ายา

เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ชายหนุ่มก็เลยยื่นมือไปเพื่อที่จะทักทายแบบฝรั่ง

"ผมชื่อหิตายะ"

"หิตายะ?" หญิงสาวจะขำก็ไม่ได้ เพราะดูจะเสียมารยาทเกินไป เธอก็เลยยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับเขานิดหนึ่ง

"หิตายะ..สุขายะ..ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญจะมาด้วยไหมคะเนี่ย"

"ฮ่าฮ่าฮ่าา คุณคิดได้ยังไง"

พิมพ์ญาดาเห็นหิตายะขำเธอก็เลยขำตาม ทั้งสองคนยังไม่ได้ปล่อยมือจากการเช็คแฮนด์กันเลยด้วยซ้ำ

"มันน่าขำตรงไหน" แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดลง..เพราะเสียงใครบางคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย