"ร้องไห้ทำไม" พอเขาเห็นว่าเธอร้องไห้ ชายหนุ่มถึงกับหัวใจหล่นวูบ นี่เขาเป็นอะไรกันแน่
"ไม่ได้ร้อง" ตอบไปด้วยเสียงสะอื้น..แล้วใครจะเชื่อล่ะว่าไม่ได้ร้องไห้
"เป็นอะไรก็พูด..ไม่พอใจอะไรก็พูดมา" สิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือน้ำตาของผู้หญิง เห็นแล้วมันหงุดหงิด
"พูดอะไร ฉันมีสิทธิ์พูดได้งั้นเหรอ" หญิงสาวลุกขึ้นมาประจันหน้ากับเขาตรง ๆ
"อย่าบอกนะว่าเธอหึงฉัน" ชายหนุ่มมองดวงตางามคู่นั้น..ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะแดงก่ำ เพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มา
"หึง?? หึ!! คิดมาได้ไงว่าฉันหึงคุณ ที่ฉันร้องไห้คุณไม่คิดหรือว่าฉันอาจจะเจ็บใจก็ได้ ที่มีผู้หญิงเข้ามาหาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของตัวเองถึงในบ้าน โดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของฉัน..กลับมีใจให้กับผู้หญิงคนนั้น"
ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวแล้วกลืนน้ำลายลงคอ เพราะคำตอบที่ได้ยินนั้น มันทำให้เขาผิดหวังมาก ที่จริงเขาอยากจะได้ยินว่าเธอบอกว่าหึง แต่ในเมื่อไม่ใช่ สุขายะก็เลยมีท่าทีอีกแบบ
"โล่งใจหน่อย ที่คุณไม่ได้คิดอะไร..กับผม" คิ้วหนากระตุกยกขึ้นสูงทันทีที่พูดจบ
ต่างคนก็ต่างถือศักดิ์ศรีและมีทิฐิ ไม่มีใครยอมพูดความในใจออกมาก่อน เพราะพวกเขาเคยลั่นวาจาไว้ว่า..ถ้าใครรักก่อนถือว่าแพ้.. และวันนั้นพิมพ์ญาดายังได้พูดกับเขาด้วยความมั่นใจ ว่าเธอไม่เคยแพ้ใคร
22 : 10 น.
"รถใครมา" หญิงสาวนอนยังไงก็นอนไม่หลับ เพราะตั้งแต่ทะเลาะกับเขา จนป่านนี้สุขายะก็ยังไม่กลับเข้าห้อง
พิมพ์ญาดารีบลงมาดูข้างล่างว่าเสียงรถใครเข้ามาจอดในบ้าน สิ่งที่เธอเห็นมันทำให้หญิงสาวถึงกับจุก
"ทำไมคุณหนีกลับมาแบบนี้คะยะ" มันคือรถของวาวานั้นเอง
"คุณมาที่นี่ทำไมวาวา" สุขายะออกมานั่งใช้ความคิดที่หน้าบ้าน ตั้งแต่เขาลงมาจากชั้นบน จนรถของวาวาวิ่งเข้ามา
"ทำไมคะ วันนั้นไม่เห็นคุณพูดแบบนี้เลย" เพราะวันนั้นสุขายะเป็นคนพาวาวาเข้ามาในบ้านด้วยตัวเอง
"รอผมอยู่นี่ เดี๋ยวไปหยิบของก่อน"
พอได้ยินเขาว่าจะไปหยิบของ พิมพ์ญาดารีบกลับหลังหันแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน กลัวเขาจะเห็นว่าเธอแอบดู
แกร่ก~ ชายหนุ่มค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป เพราะคิดว่าเธอคงจะหลับไปแล้ว
แต่สิ่งที่เขาเห็นก็เหมือนวันนั้น ที่รองเท้าข้างหนึ่งวางขวางประตู แต่อีกข้างยังอยู่ที่เท้าของเธอ
เขารู้ได้ในทันทีว่าเธอคงจะยังไม่หลับ และก็คงเห็นแล้วว่ารถของใครเข้ามา
พอได้ของที่ต้องการแล้ว..สุขายะก็กลับลงไป
พิมพ์ญาดาได้ยินเสียงรถวิ่งออกจากบ้าน หญิงสาวรีบเดินมามองดูผ่านช่องหน้าต่าง น้ำตาก็แอบไหลออกมาอีกครั้ง เพราะคนที่ขับรถคันนั้นออกไปก็คือสุขายะ
เช้าวันต่อมา..ที่บริษัท
พิมพ์ญาดาแต่งตัวมาทำงานตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้เป็นวันเริ่มทำงานหลังจากที่หยุดยาวมา
"หาววว.." เสียงใครบางคนแอบมองดูเธอ
"ผมนับอยู่นี่เกินสามหาวแล้วนะครับ" คนที่ทักเธอก็คือพีระพัฒน์
"พอดีเมื่อคืนนี้นอนไม่ค่อยหลับค่ะ" มือของหญิงสาวจัดโน่นทำนี่บนโต๊ะทำงาน แต่ปากก็พูดกับพีระพัฒน์ไป
อยู่ดี ๆ พีระพัฒน์ก็ขนลุกซู่..เหมือนกับมีพลังงานอะไรบางอย่างผ่านไป เขารีบหันกลับไปมองด้านหลังก็เจอกับสายตาของ...
"ไปก่อนนะครับ" พีระพัฒน์ต้องรีบกลับไปที่แผนก
เพราะมันคือสายตาของสุขายะที่มองมา แต่เขาก็ไม่ได้หยุด เขาแค่มองแล้วก็เดินผ่านไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย