คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 177

ตอนที่ 177 วางแผนลอบทำร้าย

สีหน้าของหลินหยางเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบวิ่งตามหมอหนุ่มคนนั้นออกไป

ลมแรงข้างนอกหน้าต่างไม่ได้หยุดพัก แม้จะไม่ได้พัดพายุฝนมา แต่กลับพัดเมฆดำที่บดบังดวงจันทร์ให้กระจายออกไป

แสงจันทร์สุกสกาวส่องเข้ามาจากข้างนอกหน้าต่าง ไป๋จื่อบนเตียงพลันลืมตาขึ้น หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ด้วยไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้น

เธอแน่ใจว่าเธอกลับมาแล้ว แต่ทำไมเมื่อกี้เธอถึงไม่สามารควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลย แต่แล้วตอนนี้ทำไมถึงทำได้

หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง พลางมองกล่องยาที่อยู่บนตู้หัวเตียง นั่นเป็นกล่องปฐมพยาบาลของหลินหยาง เธอมีกล่องแบบเดียวกันกับเขาเช่นกัน หมอศัลยกรรมทุกคนจะมีกล่องปฐมพยาบาลลักษณะนี้กันทุกคน

ไป๋จื่อคว้ากล่องปฐมพยาบาลนั้นมา ก่อนจะเปิดฝากล่องออกอย่างรวดเร็ว ข้างในใส่มีดผ่าตัดครบชุดเอาไว้ ไปจนถึงด้ายเย็บขนาดต่างๆ และยังใส่ยาที่จำเป็นต้องใช้ในเวลาปฐมพยาบาลมากมายเต็มไปหมด

ขณะที่เธอกำลังจะลงจากเตียง ข้างนอกหน้าต่างพลันมีลมกรรโชกพัดขึ้นมาอีกระลอก ผ้าม่านที่ม้วนไว้ครึ่งหนึ่งถูกลมพัดจนโป่งพอง เมฆดำผืนหนึ่งพัดไปทางดวงจันทร์ บดบังมันไว้อีกครั้ง ตอนที่พายุฝนตกลงมา เธอลงไปนอนบนเตียงแล้ว ส่วนกล่องปฐมพยาบาลที่เธอจับไว้แน่นในมือ ก็ค่อยๆ หายไปตามพายุฝนที่ตกลงมา

เสียงฟ้าผ่าสายหนึ่งปลุกไป๋จื่อขึ้นจากห้วงฝัน นางพลันลุกขึ้นนั่งหลังตรง หอบหายใจหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงจันทร์ข้างนอกถูกเมฆดำบดบังแล้ว หยาดน้ำฝนเม็ดเป้งกระทบหลังคาเรือน นางไม่ได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออีกต่อไป แต่เป็นกลิ่นเฉพาะของไม้จากหัวเตียงเข้ามาแทนที่

นางเหล่มองข้างเตียงครั้งหนึ่ง จ้าวหลานยังคงหลับสนิท เสียงฟ้าผ่าไม่ได้ทำให้นางตกใจตื่น

เด็กสาวรู้สึกว่าคอแห้งผาก ฝันเมื่อครู่นี้สมจริงยิ่งนัก สมจริงจนกระทั่งตอนนี้นางแยกไม่ออกว่าจริงๆ แล้วใช่ความฝันหรือไม่

ขณะกำลังจะลงจากเตียงไปดื่มน้ำ มือพลันขยับถูกสิ่งของที่เดิมทีไม่ควรจะมีอยู่

นางมองกล่องปฐมพยาบาลที่ตนเองจับไว้แน่นในมืออย่างเหม่อลอย นี่เป็นกล่องยาที่เพิ่งหยิบจากข้างเตียงในโรงพยาบาลเมื่อครู่นี้ เป็นกล่องยาของหลินหยาง

ด้านข้างกล่องยังเขียนชื่อของเขาเอาไว้อยู่เลย

สรุปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

นางเพิ่งจะกลับไป และนั่นไม่ใช่ฝัน นางกลับไปจริงๆ ทั้งยังนำกล่องปฐมพยาบาลกลับมาด้วย สิ่งของที่เดิมทีไม่ควรอยู่ในโลกนี้

จ้าวหลานพลิกตัว ทำเอาเด็กสาวต้องรีบซ่อนกล่องปฐมพยาบาลไว้ใต้เตียง หากผู้เป็นมารดาตื่นขึ้นมาเห็นกล่องยานี้เข้า นางก็ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะอธิบายอย่างไร

เหตุใดจู่ๆ นางถึงกลับไป แล้วเหตุใดจู่ๆ นางถึงกลับมา

แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น

หรือว่าที่พยาบาลร่างเล็กคนนั้นพูดจะแฝงความนัยอะไรเอาไว้

ที่นางตายก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพราะเกิดเหตุขัดข้องในแคปซูลนอนหลับ แต่มีคนจงใจตัดสายออกซิเจนต่างหาก

แล้วคนผู้นั้นเป็นใคร เหตุใดต้องทำร้ายนาง แม้นางในศตวรรษที่ยี่สิบสามจะไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน แต่ก็ไม่มีศัตรู

ลุงหูเบิกบานใจนัก เป็นดังเช่นที่นางว่า หูเฟิงนับเป็นคนที่ไร้ที่ติคนหนึ่ง หากจะมีอะไรที่น่าติล่ะก็ คงจะเป็นเรื่องที่เขาไม่ค่อยชอบพูดจากระมัง

นางตุ๋นโจ๊กง่ายๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบกางร่มไปรับจ้าวหลาน ตอนนี้มารดาของนางเย็บกระเป๋าผ้าเสร็จแล้ว ฝีเข็มงดงามกว่านางหลายเท่า ราวกับกระเป๋าผ้าที่ขายอยู่ในร้านเลยทีเดียว

นางเร่งให้จ้าวหลานไปกินข้าวเช้า ส่วนตัวนางปิดประตูอยู่ในเรือน นำสิ่งของที่อยู่ในกล่องปฐมพยาบาลใส่ลงไปในกระเป๋าผ้าทั้งหมด เดิมทีนางอยากนำไปเพียงของที่จำเป็น แต่คิดดูแล้วก็ไม่วางใจจะทิ้งสิ่งของเหล่านี้ไว้ที่นี่ นำติดตัวไปด้วยสบายใจมากกว่า

รถม้าวิ่งไปท่ามกลางสายฝน นางนั่งอยู่ในรถม้ายังยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เสื้อผ้าเปียก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหูเฟิงที่บังคับม้าอยู่ข้างนอก

“เจ้ายังไหวอยู่หรือไม่” ไป๋จื่อเข้าไปใกล้ประตูรถ เปิดม่านถามหูเฟิงที่อยู่ข้างนอก

หูเฟิงเห็นนางเปิดม่านเป็นช่องเล็กๆ ก็มุ่นคิ้ว พลางเอี้ยวตัวไป ใช้ร่างกายสูงใหญ่ของตนเองบังลมฝนที่จะตกใส่หน้านางไว้ “ข้าไม่เป็นไร เจ้าเข้าไปเถอะ”

เด็กสาวมองแผ่นหลังที่เปียกโชกของเขา พลันพูดไม่ออกในทันที ได้แต่ถอยกลับไปอย่างเงียบๆ

สวรรค์ราวกับกำลังล้อเล่นกับพวกเขาก็ไม่ปาน รถม้าเพิ่งจะหยุดลงหน้าที่ว่าการอำเภอ พายุฝนกระหน่ำก็ค่อยๆ หยุดลง สายรุ้งลอยอยู่เหนือภูเขาเขียวชอุ่มที่อยู่ไกลออกไป แสงอาทิตย์ก็สดใสจ้าตาด้วยเช่นกัน

เจ้าพนักงานที่อารักขาอยู่หน้าประตูเห็นสภาพดูไม่ได้ของพวกเขา ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบนำพวกเขาไปที่จวนของเมิ่งหนาน

องครักษ์จินได้ยินเสียง ก่อนจะเห็นหูเฟิงที่เปียกไปทั้งตัว ไปจนถึงที่ไป๋จื่อที่เปียกครึ่งตัว แห้งครึ่งตัว เขาพลันตกใจจนอ้าปากค้าง “เจ้าฝ่าฝนมาหรือ” เมื่อครู่นี้ฝนตกหนักทีเดียว

หูเฟิงถอดเสื้อนอกของตนเองออก แล้วบิดน้ำออกอยู่ใต้ชายคา สายตาของเขาชำเลืองมองไป๋จื่อครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดกับองครักษ์จินว่า “หากสะดวก ท่านช่วยหาชุดให้นางเปลี่ยนด้วย หากอีกเดี๋ยวนางเป็นหวัดขึ้นมา จะช่วยรักษาคุณชายของท่านไม่ได้”

เมิ่งหนานก็เดินออกมาเช่นกัน ครั้นเห็นสภาพของทั้งสองคน เขาก็รีบพูดกับองครักษ์จินว่า “ยังไม่รีบไปอีก เจ้าต้องไปด้วยตนเอง” คนรับใช้ในจวนแต่ละคนล้วนเกียจคร้าน เรื่องเล็กน้อยอะไร ใช้พวกเขาทำต้องใช้เวลาถึงสองก้านธูป เวลาก้านธูปเดียวนับว่าน้อยเกินไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา