ลู เซียวเหยา ตะคอกและพูดประชดว่า "คุณแค่ใช้อำนาจของคุณเพื่อแกล้งผู้อื่น คุณกล้าพูดกล้าแสดงออกขนาดนี้เลยเหรอ ฉันล่ะอยากเห็นจริง ๆ ว่าคุณวางแผนที่จะทำให้ฉันเสียหลักในเมืองนี้ยังไง?"
จากนั้นเขาก็เพิกเฉยต่อการคุกคามของ หยาง เฉียนเฉียน และหันไปยิ้มให้ ซอง อันยี "อันยีกินต่อเถอะ อย่าไปสนใจเสียงเห่าหอนของหมาเลย มันทำให้เบื่ออาหารน่ะ"
คนที่หล่ออยู่แล้วอาจมีเสน่ห์มากขึ้นตอนด่าว่าคนอื่น
หลังจากที่ ลู เซียวเหยา พูดคำนั้น ผู้คนจำนวนมากก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
เห็นได้ชัดว่าทักษะการดุด่าของนายน้อยคนนี้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ทัง โรลชูว นั่งข้างโต๊ะของพวกเขา และไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเธอได้
ดูเหมือนว่าการส่ง ลู เซียวเหยา ไปจัดการ มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก เมื่อมีเขาอยู่ไม่มีใครจะแกล้งคนของเขาได้
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดเลยว่า หยาง เฉียนเฉียน และ ฮัน อี้เฉิน กำลังรู้สึกไม่ดี เพราะเมื่อเสียงหัวเราะดังเข้าหูของพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาก็เริ่มซีด
"ว้าว...ซอง อันยี เธอนี่น่าสนใจจริง ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอไปหาผู้ชายหน้าหล่อแต่ปากเก่งคนนี้มาจากได้ยังไง แต่ก็ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอคงไม่อยากให้พ่อแม่ของเธอมีชีวิตที่ดีแล้วสินะ"
ท่าทีที่กำลังอึ้งของ หยาง เฉียนเฉียน เนื่องจาก ลู เซียวเหยา ได้หายไป หลังจากที่เธอถูกเขาเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอทำเหมือนเขาเป็นแค่คนที่มีดีแค่หน้าตา
ซอง อันยี ถูกกระตุ้นอย่างมากจากการคุกคามของเธอ อย่างไรก็ตามเธอยังคงบังคับตัวเองให้เก็บความโกรธเอาไว้ เธอมองไปที่ หยาง เฉียนเฉียน อย่างดูถูก
ถ้านายน้อยคนที่สามของตระกูลลูเป็นเพียงคนที่มีดีแค่หน้าตา แล้วเธอล่ะ?
ในขณะเดียวกัน ลู เซียวเหยา หรี่ตาที่ดูอันตรายของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยอง "แม้ว่าผมจะเป็นแค่คนที่มีดีแค่หน้าตา แต่เพียงแค่ผมยกนิ้ว ชีวิตของคุณก็อาจจะเปลี่ยนไป ถ้าไม่มีอะไรแล้ว คุณก็ควรรีบไปนะ มันขัดตาผมน่ะ”
“อะไรของคุณ! คุณกล้าดียังไงถึงไล่ฉัน!”
หยาง เฉียนเฉียน จ้องมองเขาด้วยดวงตากลมของเธอ และตะโกนสุดเสียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม