ลู ชินจินจ้อง เหยียน ซู อย่างเอาจริงเอาจัง แล้วจึงผงกหัวให้เล็กน้อย ก่อนจะจูงมือ ทัง โรลชูว เดินออกไป
ทัง โรลชูว ไม่เข้าใจว่าทำไม ลู ชินจิน ต้องรีบร้อนออกมา เมื่อเธอกำลังจะเอ่ยปากถามเขา เธอก็สังเกตเห็นสีหน้าที่เย็นชาของเขา
เธอปิดปากของเธออย่างเสียงไม่ได้ หันกลับไปมองที่ เหยียน ซู ที่ยังคงยื่นนิ่งอยู่ที่เดิม
หรือสายตาของเธอจะไม่ดี? เธอรู้สึกว่าเขาดูสิ้นหวัง ราวกับว่าเขาได้สูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมายาวนาน
เหยียน ซู มองเธอเดินจากไปโดยไม่ได้กล่าวอะไร เขาเห็นว่าเธอหันกลับมามองเขาด้วยใบหน้าที่แสนจะน่ารัก น่าเอ็นดูนั่นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด เขารู้สึกอกหักเมื่อได้รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นภรรยาของคนอื่น
แม้เธอจะจากไปได้สักพักใหญ่แล้ว แต่เขาก็ยังคงยืนจ้องไปยังทางที่เธอเดินจากไป
เมื่อเขาตัดสินใจหมุนตัวกลับ ขาของเขาชาไปหมดจากการยืนนิ่งกับที่นานเกินไป เขาสะดุดเล็กน้อยเกือบจะล้มลงไป โชคดีที่บอดี้การ์ดของเขา ที่ยืนแอบอยู่ตรงมุมห้อง วิ่งเข้ามาช่วยรับเขาทัน
“ช่วยฉันสืบประวัติ ลู ชินจิน ที” เขาออกคำสั่งเสียงเย็น
บอดีการ์ดของเขารับคำสั่งด้วยความเคารพ “ครับท่าน”
แล้วจึงช่วยพยุงเขาไปยังลิฟต์
ลู ชินจิน กุมมือเธอจนกระทั่งมาถึงที่รถ แล้วจึงเปิดประตูด้านผู้โดยสารให้เธอขึ้นไป
ทัง โรลชูว ไม่กล้าพูดอะไร มองไปที่สายตาอันเฉยชาของเขา แล้วจึงก้มหัวลงเพื่อเข้าไปนั่งในรถ
“ปัง!” เขาปิดประตูเสียงดัง
เสียงดังสนั่นนั่นราวกับหมัดชกลงที่อกของเธอ เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วกาย
ชินจิน ไม่ได้พูดอะไรเมื่อเขาขึ้นมาบนรถ เขาดูเคร่งครึม เย็นชา เหมือนจะอารมณ์ไม่ดี
เธอตามสถานการณ์ไปอย่างว่างาย ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
เธอคิดว่าเขาคงโกรธที่เธอยืนกรานจะไปงานเลี้ยงนั้นให้ได้ ถ้าเธอไม่ได้ยืนกรานที่จะไปงานเลี้ยง เธอก็คงไม่โดนซู เทียนอ้าย ปองร้าย และเขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงเธอตลอดทั้งคืนเช่นนี้
อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เพราะความโลเลของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม