ทัง โรลชูว กลับไปที่บ้าน และหลังจากพูดคุยกับ ป้าวูสองสามคำ เธอก็วิ่งขึ้นบันไดไป
เธอหยุดชะงักเมื่อเธอเดินผ่านห้องทำงาน ค่อย ๆ แง้มประตูและชะโงกหัวเข้าไป เธอเจอชินจินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ไฟสีส้มสะท้อนกับผมดำขลับของเขา ส่องประกายระยิบระยับ ยิ่งมองเขาก็ยิ่งดูหล่อเหลา ล้ำลึกภายใต้แสงดวงอาทิตย์
เธอไม่สามารถที่จะหยุดจ้องมองเขาได้เลย
ลู ชินจิน รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเขาอยู่ สายตาที่แผดเผาร้อนแรงเสียจนไม่มีใครกล้าจะสบตาคู่นั้น
เขาค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มปรากฎสู่สายตาของเขา ริมฝีปากบางค่อย ๆ หยักขึ้น
เขาวางหนังสือในมือลง และเงยหน้าขึ้นจ้องไปที่เธออย่างสงบนิ่ง และไม่รีบร้อนอะไร เขาเรียกชื่อเธอเบา ๆ “ชูวชูว”
เมื่อ ทัง โรลชูว ได้ยินเสียงของเขา สติเธอก็กลับมา จ้องมองไปที่สายตาห่วงใยของเขา เธอจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
เธอถูกร่ายมนต์แห่งความใคร่ เพียงแค่จ้องมองเขาเธอก็ราวกับตกอยู่ในภวังค์!!!
เธอลูบผม และถัดผมที่หูของเธออย่างกระสับกระส่าย ก่อนจะถามออกไป “คุณทานข้าวเย็นหรือยังคะ?”
ในขณะที่เธอ, เสี่ยวเซียว และอันยี กำลังกินอาหารอยู่ เขาโทรเข้ามาบอกว่าอยากจะมารับเธอไปทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่เธอเริ่มกินไปแล้วเขาจึงทำได้แค่กลับบ้านไปกินคนเดียว
เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนั้น เธอก็รู้สึกผิด ตั้งแต่พวกเขาแต่งงานกัน เขาก็พยายามกลับบ้านเร็วขึ้น เพื่อที่จะได้กินข้าวเย็นด้วยกัน แม้ว่าเขาจะยุ่งมากแค่ไหนก็ตาม
ในฐานะสามี เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีกว่าเธอที่เป็นภรรยา
ลู ชินจิน ครางฮึดฮัดตอบกลับ “ผมทานแล้ว”
จากนั้นจึงพูดขึ้น “มานี่สิ”
เขาหรี่ตาลง สายตาของเขาจับจ้องไปที่ลำคอขาวซีดของเธอ ที่ตอนนี้มีสีชมพูระเรื่อเจืออยู่จากความเขินอาย แลดูหวานอร่อยราวกับไอศกรีม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม