นารินและจิ้นเสี่ยวเยี่ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาพร้อมกัน
"ขอโทษนะคะ ลูกค้า รับชุดเดียวหรอคะ" พนักงานถามเมื่อเห็นทั้งสองเปลี่ยนชุดเตรียมกลับ
"ค่ะ ชุดเดียวค่ะ เราจัดกันแค่งานเล็กๆ ในครอบครัวค่ะ"นารินส่งยิ้มให้พนักงาน
"อ่อ..เข้าใจแล้วค่ะ แล้วชุดใส่พอดีเลยหรอคะ"
"พอดีตัวเลยค่ะ หลวมนิดหน่อย ใส่สบายค่ะ"
"ค่ะ แล้วลูกค้ามีช่างแต่งหน้าหรือยังคะ"
"ยังเลยค่ะ"
"พอดีเลย ทางร้านเรามีช่างค่ะ"
"เบล!!! เบลมานี่หน่อยสิ มาหาลูกค้หน่อย" นารินได้ยินพนักงานร้านเรียกเบลให้มาหา ก็นึกแปลกใจไม่น้อย
"คุณลูกค้าคะ นี่คือคุณเบล เป็นช่างแต่งหน้าประจำร้านค่ะ ส่วนอีกคนคุณเชอรี่เป็นฝ่ายจัดชุดให้ลูกค้าค่ะ" พนักงานแนะนำเบลให้นารินได้รู้จัก
"ค่ะ..เรารู้จักกันค่ะ ทั้งสองคนเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนของรินเองค่ะ"
"อ้าว!!! หรอคะ ดีเลย เบลดูแลคุณนารินกับคุณจิ้นเสี่ยวเยี่ยนให้ดีด้วยนะ"
"ได้ค่ะ หัวหน้า" เบลก้มหน้าอย่างเขินอาย อายนารินที่ตัวเองได้เป็นแค่ช่างแต่งหน้า
"เธอจะหัวเราะ หรือแสดงท่าทางสมเพศชั้ลก็ได้นะ" เบลพูดด้วนความน้อยเนื้อต่ำใจ
"เรื่องอะไร" นารินทำท่าครุ่นคิด "เรื่องที่เธอเป็นช่างแต่งหน้าหรอเบล ไม่เลย" นรินส่ายหน้าให้กับเบล ระอากับความคิดของเพื่อน
"ใช่..ชั้ลเป็นแค่ช่างแต่งหน้า ต่ำต้อย"
"เธอเอาอะไรมาวัดค่าตัวเองว่าต่ำต้อย"
"ก็อาชีพ ฐานนะชั้ลไง"
"ชั้ลขอถามเธอได้มั้ยเบล เธอรักอาชีพนี้มั้ย มีความสุขมั้ยที่ได้จับแปรงปัดแก้ม จับเครื่องสำอาง"
"ชอบสิ ชั้ลมีความสุขที่ได้แต่งหน้า แต่...แต่ชั้ลพูดจาดูถูกเธอ" เบลน้ำดสัยงสั่นเคลือ
"ไม่เป็นไรนะ รักและมีความสุขก็ทำไปเถอะ"
นารินจับไหล่ของเบล
"ชั้ลไปล่ะเบล อีกสามวันเจอกัน" นารินโบกมือลาเบล แล้วเดินออกนอกประตูไป
"เชอรี่...ชั้ลรู้สึกละอายใจ ที่ชั้ลดูถูกเพื่อน ทั้งที่ตัวชั้ลเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย" เบลพูดพลางเช็ดน้ำตา
"เอาน่า...อย่าคิดมาก ดีนะที่เป็นนาริน ถ้าเป็นคนอื่น เธอกับชั้ลโดนเะไปแล้ว ไปเตรียมชุดกับเตรื่องสำอางค์กัน" เชอรี่ตบไหล่เบลเป็นการปลอบใจ
วันงาน....
"สวยมากเลยคร้า" เบลชมเมื่อแต่งหน้าให้นารินเสร็จ
"ขอบคุณนะ" นารินยิ้มจนตาหยี
"แต่งหน้าเสร็จแล้วมาใส่ชุดได้เลยค่ะ" เชอรี่พูดพลางหยิบชุดไทยออกมาถือรอ
"เป็นไงเสร็จหรือยัง เข้าบ่าวจะมาแล้วนะ" มีนาเปิดประตูห้องมาถาม
"เสร็จแล้วเสร็จแล้ว" นารินตะโกนออกมาจากห้องน้ำ เปิดประตูเดินออกมา
ว้าว!!!ว้าว!!!
ทั้งสามสาวตะลึงเมื่อเห็นนารินในแบบชุดไทย
"ริน สวยมาก!!!" มีนาเดินเข้าประตูจับแขนนาริน ยิ้มอย่างชื่นชม
"ริน.. รออยู่ในห้องนะ ไปๆ เบล เชอรี่ เราไปคอยกั้นประตูเงินประตูทองกัน" มีนาพยุงนารินไปนั่งลงที่เตียง แล้วฉุดแขน เบลกันเชอรี่ให้ลงไปที่หน้างาน ทั้งสามสาววิ่งออกไป นารินนั่งเอามือผสานกันอย่างตื่นเต้น ค่อยฟังคนประกาศว่าเจ้าบ่าวถึงไหนแล้ว จิ้นเสี่ยวเยี่ยนทำตามที่ผู้ใหญ่แนะนำ พิธีต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยดี และถึงตอนที่ต้องรับเจ้าสาวที่หน้าห้อง
"เดี๋ยวค่ะ ก่อนที่คุณจิ้นจะเข้ารับนาริน ชั้ลมีเงื่อนไขค่ะ คุณจิ้นต้องวิดพื้นหนึ่งร้อยครั้งก่อน ชั้ลถึงจะเปิดประตูให้ค่ะ" มีนากล่าวอย่างเจ้าเล่ห์
"เธอแกล้งชั้ลหรือป่าวมีนา"
"นั้นสิมีนา เธอจะแกล้งพี่เสี่ยวเยี่ยนหรอ" จิ้นหยางซือทำสีหน้าทำหนิแฟนสาว แต่กลับโดนมีนาส่งสายตาตำหนิกลับ
"มันคือบททดสอบว่าคุณจิ้นจะแข็งแรงพอที่จะดูแลนารินได้" มีนาพูดแล้วกอดอกใส่
"ได้สิ ซือหยวนถือเสื้อ" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนถอดเสื้อสูทออกวิดพื้นทันที นารินแอบยืนหัวเราะอยู่ด้านในห้อง เมื่อจิ้นเสี่ยวเยี่ยนทำตามข้อตกลงวิดพื้นครบหนึ่งร้อยครั้ง มีนาจึงเปิดประตูให้ตามสัญญา เจ้าบ่าวรับเจ้าสาวออกจากห้อง หลังจากนั้นก็ทำพิธีตามปกติ งานแต่งงานผ่านสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
"แม่ขา... เดี๋ยวรินต้องกลับไปกับคุณจิ้นแล้วนะคะ เขาหยุดงานมาหลายวันแล้ว"นารินกอดอ้อนแม่เหมือนเด็กๆ
"ไปเถอะลูก หนูรินของแม่โตแล้วมีครอบครัวแล้ว รักและซื่อสัตย์ต่อกันไว้นะลูก หนูรินแม่เชื่อว่าจิ้นเสี่ยวเยี่ยน ผู้ชายคนนี้เขารักลูกมาก ถ้าวันนึงเกิดมีปัญหาจงจำไว้ว่าเชื่อใจคนของเรา"
"ทำไมแม่ถึงพูดแบบนั้น" นารินสงสัยในคำพูดของแม่
"แล้วสักวันหนูจะรู้เอง ชีวิตหนูเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น จำคำแม่ไว้นะ ชีวิตคู่มักมีอุปสรรคเสมอ หนูต้องมีน้ำอดน้ำทนให้มาก มีอะไรโทรหาแม่" แม่ลูบศรีษะนาริน นารินกอดแม่และพ่อ ทุกคนลาแม่และพ่อแล้วขึ้นรถไปสนามบินเดินทางกลับประเทศจีน
"อืม... แม่คะ ช่วยให้ป้าจางทำความสะอาดห้องให้สักห้องนะคะ" นารินพูดขึ้น
"ใครจะมาอยู่หรอจ๊ะหนูริน"
"นี่ไงคะ" นารินชี้ไปที่มีนา
"หนูเองค่ะ ขอรบกวนด้วยนะคะ หนูจะไปหาห้องพักแต่ทุกคนไม่ยอม" มีนายกมือขึ้นพูดพร้อมชำเลืองมองหน้าทุกคน
"ได้สิลูก...รบกวนอะไรกัน มีนาก็เหมือนลูกแม่อีกคน แม่ไม่ได้รังเกียจ อีกอย่างบ้านก็ออกจะใหญ่โต เดี๋ยวแม่ให้คนจัดห้องให้นะ"
"ขอบคุณค่ะ" มีนากล่าวพร้อมยกมือไหว้
"มากันเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนกันเถอะ แม่ขอตัว" คุณนายหลินพูดจบก็เดินเข้าครัวไปเรียกป้าจาง ดูห้องให้มีนา
"คุณจิ้นคะ เราไปพักกันเถอะค่ะ" นารินชวนจิ้นเสี่ยวเยี่ยนเข้าห้องนอนพักผ่อน
"หนูรินเป็นอะไรหรือป่าว ดูหน้าซีดๆ" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนถามเมื่อเห็นนารินทำสีหน้าไม่ดี
"สงสัยจะเดินทางนานเลยรู้สึกเพลียๆค่ะ"
"นอนพักก่อนนะ" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนพานาริน มานั่งที่เตียงนอน พร้อมยกหม้อตั้งขึ้นให้นารินเอนหลังได้สะดวก
"เดี๋ยวมื้อเย็นพร้อมชั้ลจะมาเรียก
"อืมๆ ได้ค่ะ" นารินนอนลงที่เตียง มีอาการเวียนศีรษะ จึงนอนพัก 'เอ๋...สองเดือนแล้วนะ อาการไม่ดี มีน้องรึเปล่านะ เดี๋ยวค่อยลองตรวจดู' นารินคิดได้แล้ว เผลอหลับไป จนกระทั่งมื้อเย็น ทุกคนพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร
"เสี่ยวเยี่ยนไปตามหนูรินมาทานอาหารได้แล้ว" คุณนายหลินบอกจิ้นเสี่ยวเยี่ยนให้ไปตามนารินลงมาทานมื้อเย็น
"หนูริน ลงไปทานอาหารได้แล้วคับ" จิ้นเสี่ยวเยี่ยนเปิดประตูเข้ามาในห้อง เห็นนารินยืนอยู่ที่หน้ากระจก จึงกอดนารินจากได้หลัง "หอมจังเลย ชั้ลกินเธอเป็นมื้อเย็นก่อนได้มั้ย" พูดจบเขาหอมแก้มนารินฟอดใหญ่ นารินเอียงตัวหลบ หันหน้ามาเผชิญกับเขา
"ลงไปทานมื้อเย็นข้างล่างก่อนดีกว่าค่ะ"
"ตกลง ไว้ค่อยมาทานมื้อเย็นกับเธอทีหลัง" เขากระซิบข้างหูนาริน ทำให้นารินอายจนหน้าแดง
"ไปค่ะลงไปข้างล่างกัน" นารินตีไปที่ไหล่จิ้นเสี่ยวเยี่ยนแล้วหัวเราะเบาๆ นารินนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ได้กลิ่นปลาทอด ทำให้รู้สึกเคลื่อนไส้ แต่นารินเก็บอาการกลั้นไว้
"หนูริน สีหน้าไม่ค่อยดี เป็นอะไรหรือป่าว" คุณนายหลินเห็นสีหน้าของนารินไม่ดีจึงถามขึ้น
"นั้นสิริน... เป็นอะไร" มีนาถามอีกคน
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยค่ะ น่าจะเป็นที่พักผ่อนน้อยค่ะ"
"อ่ะๆ...ทานอาหารก่อน เสร็จแล้วจิ้นเสี่ยวเยี่ยนพาหนูรินขึ้นไปพักซะ" นารินกับจิ้นเสี่ยวเยี่ยนได้แต่พยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักของท่านประธานกับสาวต่างถิ่น