“ตอนที่ลูกบอกแม่ครั้งแรกว่าลูกแต่งงานแล้ว แม่คิดว่าลูกกุเรื่องขึ้นมา ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ในเมื่อลูกได้จดทะเบียนกันไปแล้ว แม่คงทำอะไรไม่ได้อีก จะสั่งให้หย่ากันก็คงเห็นทีจะไม่ได้” เฮเธอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหเล็กน้อย
“ผมเข้าใจความรู้สึกแม่นะครับ และผมเองก็รู้สึกโชคดีที่มีแม่เป็นแม่” ฟาเบียนเอ่ยกลับไปเมื่อได้ยินสิ่งที่มารดาพูด ในที่สุดท่าทีของเขาก็ดูผ่อนคลายลง ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งและคิดว่าควรที่จะเอาใจแม่อีกสักหน่อย
เฮเธอร์กลอกตาใส่ลูกชายก่อนจะเอ่ยว่า “ อีกอย่าง แม่มีเรื่องจะเตือนด้วย ในเมื่อลูกแต่งงานแล้ว ก็ควรเลิกทำตัวอย่างชายโสด ควรทำตัวเป็นสามีที่ดีเหมือนคนอื่นๆ ในตระกูลนอร์ตัน หัดทำดีกับภรรยาและเลิกไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ได้แล้ว แม่ขี้เกียจจะดูข่าวอื้อฉาวพวกนี้เต็มทน ทำตัวแบบนี้คิดว่ามันเหมาะสมแล้วหรือ”
ลูกชายได้ฟังดังนั้นถึงกับพูดไม่ออก อะไรกันเนี่ย? แม่ของเขาเพิ่งยอมรับฮันน่าเมื่อไม่กี่วินาทีที่ก่อนหน้า แต่ตอนนี้เธอกำลังเข้าข้างหญิงสาวและมาหาเรื่องฉันแทนงั้นเหรอ? แม่ไม่เปลี่ยนข้างเร็วไปหน่อยเหรอ?
หลังจากนั้น ผู้เป็นแม่ก็บ่นลูกชายตามประสา โดยส่วนใหญ่เธอเตือนให้ลูกชายระวังคำพูดและการกระทำมากขึ้น
“อ้อ อีกอย่างลูกสองคนก็แต่งงานกันมานานแล้ว เราควรหาเวลานัดทานข้าวกับครอบครัวของฝ่ายหญิงบ้าง ถึงเวลาแล้วที่ครอบครัวสองฝ่ายควรพบปะกัน” ผู้เป็นแม่เสนอขึ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เธอได้พูดเรื่องนี้กับลูกชายมาหลายครั้ง แต่เขามักจะให้สัญญาแบบทิ้งขว้าง ไม่เคยนัดจริงๆ สักครั้ง ถามทีไรก็ผลัดทุกที
“ถ้าลูกยังลีลา แม่จะส่งคำเชิญไปให้พวกเขาเอง นี่ก็ปีกว่าแล้ว แต่ทั้งสองครอบครัวยังไม่ได้เจอกันอีก ลูกไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยหรือ ถ้าเรื่องนี้คนนอกรู้เข้า พวกเขาคงหัวเราะเยาะพวกเรา” ผู้เป็นแม่ติเตียนชายหนุ่มออกไป
“โอเคครับ ไว้ผมจะคุยกับฮันน่าเรื่องนี้แล้วกัน ตอนนี้แม่ก็ควรโกรธอยู่หรอกผมเข้าใจ ไปกันเถอะครับ ไปทานอาหารกันดีกว่า นานมากแล้วที่เราไม่ได้ทานข้าวพร้อมกัน” ฟาเบียนรีบเปลี่ยนเรื่อง เขาเกรงว่าหญิงตรงหน้าจะพูดเรื่องนี้ไม่จบสิ้นจนมืดค่ำ
“ไม่ดีกว่า ลูกสองคนทานกันไปเถอะ จริงๆ ที่แม่แวะมาก็เพราะตั้งใจจะมาเจออาของลูกอยู่แล้ว พอดีเขาชวนมาดื่มชาน่ะ แม่บังเอิญผ่านมาทางนี้ เลยคิดว่าจะมาเจอลูกสะใภ้ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเสียหน่อย”
หลังปฏิเสธไป ผู้เป็นแม่ก็ส่ายหน้าขณะจ้องมองลูกชาย ก่อนจะเริ่มบ่นขึ้นว่า “แม่ถามจริงๆ นะ ลูกจะซ่อนภรรยาตัวเองไว้เหมือนพวกจักรพรรดิสมัยโบราณที่ชอบซ่อนคนรักของตนไว้ในปราสาททองงั้นหรือ”
อีกด้านหนึ่ง ฮันน่าได้นั่งรอบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง หัวใจของเธอเริ่มเต้นระรัวด้วยความกังวลใจ ขณะสายตาจับจ้องไปที่ห้องทำงาน พวกเขาเข้าไปคุยกันด้านในก็นานมากแล้ว ฉันสงสัยจังว่าสองแม่ลูกคู่นั้นคุยอะไรกัน
แม่ของเขาคงคิดว่าฉันไม่ดีพอสำหรับลูกชายของเธอ ฮันน่าเริ่มถูมือไปมาอย่างไม่เป็นสุข และเริ่มถูแรงขึ้นเรื่อยๆโดยที่เธอไม่รู้ตัว แม่ของเขาจะสั่งให้ลูกชายหย่ากับเธอแล้วไปแต่งงานกับคนชนชั้นเดียวกันไหมนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...