ว่าไงนะ? คุณเนี่ยนะ? เก็บความลับไม่เก่ง? นี่มันขู่กันชัดๆ!
ใบหน้าของฮันน่าได้แสดงสีหน้าอันขุ่นเคือง เธอรู้สึกอยากต่อยหน้าชายหนุ่มตรงหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นรอยยิ้มเสแสร้งของเขา ช่วยไม่ได้ตรงที่ว่าเธอไม่สามารถต่อยเขาได้จริงๆ
ทุกครั้งที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ฮันน่ามักจะย้ำเตือนกับตัวเองเสมอว่า ฮึ่ม ครั้งนี้ฉันจะปล่อยคุณไปก่อนแล้วกัน
แน่นอนว่าครั้งนี้เธอก็ยังต้องปล่อยเขาไปตามเคย
เธอทำอะไรไม่ได้เลยกับคำขู่ของชายหนุ่ม หากเขาเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้เป็นแม่ขึ้นมาจริงๆ เธอคงต้องแย่แน่ๆ เพราะไม่รู้จะจัดการอย่างไร
ถึงอย่างไรหญิงสาวก็ยังนึกสงสัยเรื่องก่อนหน้าอยู่ดีว่าชายหนุ่มได้พูดคุยอะไรกับแม่ของเขาจนทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?
“ตอนนั้นคุณพูดอะไรกับแม่ของคุณเหรอ ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนขนาดนั้น?”
“คุณหมายความว่าไงที่พูดว่า ‘แม่ของคุณ’? เธอไม่ใช่แม่ของคุณด้วยงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มกัดฟันพูดตอบโดยเมินที่จะตอบคำถามของหญิงสาวที่ถามก่อนหน้า
“โอเค ได้ แม่ของเรา พอใจหรือยังล่ะ?” ฮันน่าถามพลางกลอกตาใส่ชายหนุ่ม เป็นเด็กเหรอ? ทำไมเก็บนู้นเก็บนี่มาคิดเล็กคิดน้อย?
“แม่ผมเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี คุณอาจจะยังไม่รู้จักเธอดีขนาดนั้น” ฟาเบียนตอบพลางวางช้อนลงบนจาน
อะไรกันเนี่ย? งั้นคุณสามารถเรียกเธอว่าแม่ของคุณได้ แต่ฉันกลับเรียกไม่ได้? ฮันน่าเริ่มโกรธขึ้นมา หญิงสาวอยากจะพูดอะไรตอกหน้าเขากลับไปบ้างแต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมีใบหน้าจริงจังแค่ไหน เธอจึงพูดไม่ออก เธอก็จำใจตอบเขากลับด้วยท่าทีสงบ “โอเค บางทีฉันอาจจะเข้าใจเธอผิดไป”
ฟาเบียนพยักหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนเขากำลังจะพูดอะไรสักอย่าง “จริงๆ แล้วคือ…”
ฮันน่าสังเกตท่าทีของฟาเบียน หญิงสาวจึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดแทรกขึ้นมาว่า “ฉันอิ่มแล้วเหมือนกัน มาเก็บโต๊ะแล้วแยกย้ายไปพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้เราต่างต้องทำงาน”
คงจะเป็นการดีกว่าหากเธอจะรู้เรื่องที่เขาคุยกับแม่ของเขาให้น้อยที่สุด
ฟาเบียนยิ้มจางๆ และไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปมากมายนัก เขาแค่ยืนขึ้นและพูดคุยยิ้มแย้มกับหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะเดินทางออกไปยังบริษัท
ชายหนุ่มไม่ได้บอกอะไรกับเธอ แต่เธอเดาว่าเขาคงต้องไปทำงานชดใช้เวลาที่อยู่กับเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...