ฮันน่ามีความรู้สึกที่หลากหลายเมื่อได้ฟังเขาเล่า เธอตัดสินใจที่จะสวมจี้รูปปลาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพไว้เสมอ
วินสันรู้สึกถึงความเงียบงันทันทีที่เขาพูดจบ ขณะที่เขาจ้องมองมายังฮันน่า ดูเหมือนเขาจะพูดอะไรไม่ออกทันใดนั้นเอง เขาถอนหายใจและเริ่มสะอื้น
ฮันน่าตกใจและถามอย่างกระวนกระวายว่า “วินสัน เกิดอะไรขึ้น? ร้องไห้ทำไม?"
เขาตอบพรางสะอื้นไปด้วยว่า “ผม...ผมคิดถึง..แม่”
ฮันน่าใจสลายเมื่อได้ยินเช่นนั้น อย่างไรแล้ววินสันก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงความรักของแม่เลย เว้นแต่ตอนที่เขายังเด็กมาก
“ไม่เป็นไรวินสัน อย่าร้องไห้ พี่อยู่ตรงนี้กับนาย" เธอไม่เคยปลอบโยนเด็กมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น วินสันเป็นเด็กวัยรุ่นที่อายุสิบเจ็ดปีแล้ว เธอจึงทำได้เพียงปลอบเขาด้วยคำพูดธรรมดาไม่กี่คำ ครู่ต่อมา เธอกล่าวเสริมว่า “วินสัน พี่จำอะไรเกี่ยวกับแม่ของเราไม่ได้เลย นายช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อยได้มั้ย?”
วินสันพยักหน้าและพึมพำตอบ
หลังจากที่ฟาเบียนเช็ดน้ำตาของให้วินสันแล้ว วินสันก็กล่าวว่า “แม่ตัวสูงและชอบใส่...”
ขณะที่เขากำลังอธิบาย ภาพๆ หนึ่งก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจของฮันน่า ผู้หญิงผมสีดำยาวและสวมชุดยาวสีขาวราวกับหิมะ เธออุ้มวินสันด้วยมือข้างหนึ่งของเธอในขณะที่อีกข้างจับมือของฮันน่า เธอดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมาย
“แม่คงต้องเป็นคนสวยแน่ๆ เลยใช่มั้ย?” ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะถามตามจินตนาการของเธอ
“ใช่ แม่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา” วินสันตอบอย่างจริงจัง
ก๊อก ก๊อก! เมื่อมีคนมาเคาะประตู ฟาเบียนจึงกล่าวว่า “เข้ามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...