ฟาเบียนก็ไม่ได้พยายามจะแก้ต่างให้ตัวเองเช่นกัน หลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ในที่สุดสีหน้าตึงเครียดของเขาก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เฮเลนถามพี่สาวของเธอด้วยรอยยิ้ม “ฮันน่า ฉันมีข่าวดีและข่าวร้ายจะบอก! พี่อยากฟังข่าวไหนก่อน?”
ฮันน่าคิดไม่ออกว่าเฮเลนมีแผนจะทำอะไร หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็พูดขึ้น “ข่าวดี”
“ถ้างั้น ฉันคงต้องบอกข่าวร้ายพี่ก่อน”
ผู้เป็นพี่สาวพูดไม่ออกเพราะเธอไม่จำเป็นจะต้องเลือกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว “เรื่องอะไรล่ะ?”
เฮเลนเอนตัวเข้าไปหาแล้วกระซิบ “ผู้มีอิทธิพลบางคนกำลังจะช่วยอีเวตต์ออกจากคุก”
“ฮะ? เธอพูดจริงหรอ?”
ฮันน่ารู้สึกงุนงงหลังจากได้ทราบข่าวพร้อมกับมองไปที่ฟาเบียนอย่างเหลือเชื่อด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
เมื่อฟาเบียนพยักหน้า เธอก็ได้รู้ว่าน้องสาวของเธอไม่ได้แต่งเรื่องขึ้น
“อะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง เธอพยายามจะฆ่าฉันนะ?”
ฮันน่าหน้านิ่วอย่างไม่พอใจ แม้จะเห็นใจอีเวตต์ แต่เธอก็อยากให้อีเวตต์ได้รับผลของการกระทำที่ทำเอาไว้ เธอจึงห้ามไม่ให้ฟาเบียนไปแทรกแซงการตัดสินคดีเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างยุติธรรม
“บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าให้ฟาเบียนจัดการ? พี่ควรจะฟังฉันบ้าง! รู้สึกยังไงบ้างที่ปล่อยให้ฆาตกรลอยนวล?” เฮเลนพูดเหน็บแนมแสดงออกถึงความไม่พอใจ
“พี่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้!”
ฮันน่าเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองเพราะอีเวตต์เกือบจะฆ่าเธอด้วยซ้ำ ถึงจะทำไม่สำเร็จแต่มันก็ไม่ยุติธรรมถ้าอีเวตต์จะพ้นผิดทุกข้อหาเพียงเพราะมีความสัมพันธ์กับคนใหญ่คนโตบางคน
เฮเลนกลัวว่าพี่สาวของเธอจะสติแตกไปซะก่อนจึงรีบประกาศ “พี่อย่าเพิ่งกังวลเกินไป ลืมไปแล้วหรอว่ายังมีข่าวดีอีก?”
“ข่าวดีอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม