“คุณเดนน์ เป้าหมายทั้งคู่อยู่ในระยะหวังผลแล้ว จับกุมเลยไหมครับ?”
“นายแน่ใจนะ ทั้งคู่เป็นผู้หญิง คนหนึ่งผิวสีแทน ส่วนอีกคนคืออีเวตต์ แทนเนอร์?” แจซั่นละล่ำละลัก
คงไม่ดีแน่ถ้าเธอคนนั้นไม่ใช่พี่สาวของอีเวตต์ แทนเนอร์ และเราพรวดพราดเข้าไปทำให้พวกนั้นไหวตัว
“คุณเดนน์ครับ คนหนึ่งผิวขาว ส่วนอีกคนผิวแทน เราไม่เห็นหน้าของพวกเธอ เห็นแต่แผ่นหลัง แต่เราแน่ใจครับว่าเห็นพวกเธอลงจากปอร์เช่สีแดง จับเลยดีไหม?” เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังบริเวณสนามบินถามอีกรอบ
แจซั่นกัดฟันกรอดกับคำถามนั้น ก็ได้ เอาก็เอาวะ! ขอแค่อีเวตต์ แทนเนอร์อยู่ในกำมือ หล่อนไม่กล้าทำอะไรเราแน่!
เขาสั่งการเฉียบขาด “เจ้าหน้าที่ทุกคนฟังให้ดี เดินหน้าและเข้าจับกุมทันที ย้ำ จับกุมทันที!”
“รับทราบครับ”
สิ้นเสียงคำสั่ง ตำรวจนอกเครื่องแบบกว่ายี่สิบนายกรูออกมาจากบริเวณโดยรอบสนามบินเพื่อล้อม “อีเวตต์” กับเพื่อนร่วมทางของเธอ
แต่ “อีเวตต์” กับเพื่อนไม่ตื่นตกใจสักนิดที่ถูกปิดล้อม กลับมีรอยยิ้มด้วย ทั้งคู่ถามตำรวจนอกเครื่องแบบด้วยอาการสงบสุขุม “ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นคะคุณเจ้าหน้าที่?”
ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้งยี่สิบนายถึงกับงง สองคนนี้เป็นใคร นี่ไม่ใช่อีเวตต์ แทนเนอร์!
“บอกมานะ! อีเวตต์ แทนเนอร์อยู่ไหน?” ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งตะคอกขณะชี้ปากกระบอกปืนใส่
“ใครคืออีเวตต์ แทนเนอร์คะ? ฉันไม่รู้จักคนชื่อนั้นเลย”
“คุณว่าอะไรนะ? คุณไม่รู้จักเธอ? นี่กำลังพยายามปั่นหัวใคร? คุณสองคนมาสนามบินทำไมถ้าไม่ใช่เพื่อปลอมตัวเป็นพวกนั้น?”
“เรามารับคนจากสนามบินค่ะ”
ในตอนนั้น หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินออกมาและร้องเรียก “อีเวตต์” ตัวปลอม “ลินดา ฉันอยู่นี่! ไม่ได้เจอกันเสียนาน คิดถึงฉันหรือเปล่า?”
ตำรวจทุกนายงุนงงจนไม่รู้จะอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้แจซั่นฟังอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม